ท่ามกลางกระแสการออกมากำหนดนโยบายของ รมต. คมนาคม ที่เรียกความฮือฮาในกลุ่มคนทำงานและสร้างความตื่นเต้นพอสมควรสำหรับผู้ประกอบการและผู้ใช้รถใช้ถนนที่รอคอย การเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตเมื่อจำเป็นต้องเดินทางต้องมีความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถตู้, มาตรการความเร็ว, บิ๊กไบด์และการแยกประเภทใบอนุญาตขับรถให้มีความชัด่เจนมากยิ่งขึ้น
งานนี้ต้องขอเรียนว่าสถานการณ์มีถึงเวลาสุกงอมอย่างเต็มที่ รอแต่เพียงว่ารัฐจะเอาไง คนไทยจะว่าไง วันนี้ผมก็เลยขอยกเอาข้อเสนอจากการสัมมนาวิชาการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14 เรื่องเดินขี่ขับไปกลับปลอดภัย ซึ่งเพิ่งจัดผ่านพ้นไปหมาดๆ มานำเสนอกันซักหน่อย เผื่อจะได้ใช้เป็นข้อมูลสำหรับฝ่ายนโยบายหรือผู้บริหารจะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจได้บ้างนะครับ ย้ำข้อเสนอทั้งหมดนี้เกิดจากการระดมคนทำงานเกี่ยวกับปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจากทั่วประเทศ ราวๆ 3,000 คน ที่ทำงานร่วมกันมายาวนาน มาร่วมประชุมหารือแล้วจัดทำเป็นข้อเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อนำไปพิจารณาดูกันนะครับ
ข้อเสนอนี้มุ่งไปที่หน่วยจัดการในพื้นที่เป็นหลัก จากความเชื่อที่ว่าปัญหาอยู่ในพื้นที่ คนในพื้นที่ต้องช่วยกันทั้งรับรู้และแก้ไขและกลไกในพื้นที่อยู่ใกล้ชิดกับปัญหา ย่อมรู้ดีกว่าว่าปัญหาอยู่ตรงไหน จะได้แก้ไขถูกทาง รวมถึงเรื่องถนนถึงแม้ว่าจะมีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ หากมีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยอย่างชัดเจน การตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานก็จะสามารถทำได้ง่ายขึ้น
เรื่องเล็กๆ อย่างรถนักเรียนก็เป็นปัญหาใหญ่ในสายตาของคนทำงาน เด็กนักเรียน เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ มีสิทธิ์ที่จะได้รับการดูแลจากผู้ใหญ่ให้ปลอดภัยในการเดินทาง การบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานในพื้นที่มีความจำเป็นและต้องการแรงหนุนจากฝ่ายบริหารอย่างจริงจัง มอเตอร์ไซด์ ปัญหาใหญ่ของประเทศที่เรามีและใช้เป็นจำนวนมาก ต้องการความช่วยเหลือจากฝ่ายนโยบาย ทั้งเรื่องตัวรถ คนและถนน ที่เหมาะสมเช่นกัน
เสียงจากเด็กและเยาวชนที่มาร่วมงานนอกเหนือจากการยื่นข้อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีแล้ว ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบและเป็นอนาคตของชาติที่เราผู้ใหญ่ทั้งหลายควรจะฟัง และรับไปดำเนินการกันนะครับ มิเช่นนั้นเราอาจมีประชากรไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศก็เป็นได้ เพราะแต่ละวันก็ตายเฉลี่ย 35 –70 คนต่อวันและเกินกึ่งเป็นกลุ่มเด็กเยาวชน–ผู้ใช้แรงงาน ท้ายนี้ ด้วยเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย ซึ่งเรา น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกนะครับที่มีกฏหมายแล้วบังคับใช้ไม่ค่อยจะได้ หรือได้เป็นบางเรื่อง บางกลุ่ม เอาเป็นว่าเสียงจากคนทำงานเขาเรียกร้องให้ปฏิรูปกันเสียทีนะครับ ไหนๆ เราก็มีและใช้กันเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว ก็ลองมาดูกันหน่อยนะครับว่าเราจะจัดการกับปัญหานี้กันอย่างไร เป็นเรื่องที่ยาก ไม่ง่ายหรอกครับ แต่ต้องทำ เพราะเราจะต้องเรียนรู้อยู่กับปัญหาให้จงได้ เราถึงจะรอดและมีอนาคตที่ดีไปบอกกล่าวเล่าขานให้คนรุ่นต่อๆ ไป ได้อย่างไม่อาย ว่าเราได้พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว