บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN รีเฟรชแบรนด์ ขยี้แนวคิด"ความพอดีที่ดีกว่า" (The Better Balance) สนทนาภาษาคูลๆ กับคนรุ่นใหม่ถึงปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังการสร้าง "ชุมชนน่าอยู่" ที่ LPN ทำกันมาทุกขั้นตอนตลอดระยะเวลา 30 ปี เพื่อสร้างบ้านให้ "พอดี" กับการใช้ชีวิตจริงๆ ของผู้อยู่อาศัยให้มากที่สุด อีกทั้งไม่เป็นภาระกับผู้อยู่อาศัย/เจ้าของร่วมหลังซื้อที่อยู่อาศัยไปแล้ว
ความพอดีที่ดีกว่า
"ชุมชนน่าอยู่" ถือเป็นเป้าหมายอันสูงสุดและเป็น Brand Promise ที่ LPN ยึดมั่น เพื่อส่งมอบคุณค่าแห่งความยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ฯลฯ และถูกนำมาถ่ายทอดกับสาธารณะอยู่เนืองๆ
โอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "LPN เป็นแบรนด์อสังหาฯ ที่ใฝ่ฝันจะเป็นคำตอบให้คนที่อยากมีบ้านทุกคนตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อในปรัชญาของการสร้างบ้านที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตและไม่เคยหยุดที่จะค้นหา"ความพอดี" ที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของลูกค้า เพราะเราเชื่อว่า การมี “บ้าน” เป็นจุดเริ่มต้นของคุณภาพชีวิตที่ดีเราจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบที่อยู่อาศัย และการบริหารจัดการของลูกบ้านภายหลังการเข้าอยู่อาศัยที่ช่วยส่งเสริมไม่เพียงการใช้ชีวิตส่วนตัวแต่เพื่อการอยู่ร่วมกันของทุกชีวิตบนพื้นฐานเดียวกันอย่างลงตัว และมีความสุข รวมทั้งตอบโจทย์ทุกนิยามของการใช้ชีวิต"
ล่าสุด LPN รีเฟรชแบรนด์ ด้วยการส่งแคมเปญภายใต้แนวคิด"ความพอดีที่ดีกว่า"เพื่อสะท้อนแนวคิดของแบรนด์ (Brand Thinking)"จริงๆ แล้ว ต้องบอกว่า "ความพอดีที่ดีกว่า" เป็นกระบวนการทำงานที่อยู่ในกระบวนการทำงานของ LPN มาร่วม 3 ทศวรรษ นับแต่การออกแบบ การก่อสร้างจนถึงการคิดเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขและไม่เป็นภาระ อาทิ การใช้สีภายนอกอาคารแนวเอิร์ธโทน แทนการใช้สีดำหรือสีเข้มๆ เพื่อมิให้อาคารดูดซับความร้อนจนทำให้ผู้อยู่อาศัยอยู่จริงไม่ได้ และเปลืองไฟฟ้าจากการใช้เครื่องปรับอากาศ, การออกแบบสระว่ายน้ำให้มีขนาด และสเปคที่พอดีกับจำนวนผู้อยู่อาศัยเพื่อมิให้สร้างภาระกับเจ้าของร่วมเมื่อต้องอยู่อาศัยจริง, การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ และ พื้นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยจริงๆ ฯลฯ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้เวลาอย่างมีความสุขในชุมชนที่น่าอยู่ได้อย่างลงตัว"
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า การพัฒนาโครงการและบริการต่างๆ ของ LPN นั้นมาจากการศึกษา Insight ตลอดจนการทำ R&D เพื่อให้เข้าถึงวิถีชีวิตและความต้องการใช้พื้นที่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกเพศทุกวัยที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและนำเสนอโปรดักท์ที่เป็น "บ้านแบบเรียลลิสติกส์ ไม่ใช่ "บ้านในฝัน" ที่อาจอยู่ไม่ได้ในชีวิตจริง
โอภาส กล่าวว่า "บ้านของ LPN อาจไม่ใช่ “บ้านที่จะทำให้คนฝันอยากมาอยู่มากที่สุด” แต่เป็นบ้านที่พอดีกับการใช้ชีวิตจริงของผู้อยู่อาศัยจริงมากที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิต รวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีที่เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การดูแลพนักงานให้มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่พร้อมตื่นเช้าขึ้นมาด้วยเป้าหมายในใจคือการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกบ้านทุกคนในชุมชนน่าอยู่"
"3 ความพอดี" ที่ LPN
บ้านในชีวิตจริงที่ดีกว่าบ้านในฝัน
เพื่อสื่อสารแคมเปญ "ความพอดีที่ดีกว่า" นี่จึงถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ LPN ทำโฆษณาบนสื่อออนไลน์ แนว Corporate Branding เพื่อสื่อสารแนวคิดนี้ผ่าน Dream Home เพื่อคุยกับคนรุ่นใหม่ให้เห็นความบ้านแบบเรียลลิสติกส์ของ LPN และขยี้ประเด็นให้เห็นชัดเจนว่า การสร้างบ้านที่พอดีจาก 3 องค์ประกอบหลักดังกล่าวกับชีวิตจริงในแบบของ LPN นั้นดีกว่าบ้านที่สร้างจากส่วนประกอบอื่นที่อาจชวนฝัน ดูแฟนตาซี แต่อาจไม่พอดีกับการอยู่อาศัยจริงก็ได้
Dream Home ให้ Look & Feel ของเนื้อหาที่คุยกับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Y พร้อมตั้งคำถามชวนคิดว่า ในชีวิตจริงแล้วเราต้องการ “บ้าน” แบบไหนระหว่างบ้านล้ำยุค ดีไซน์ล้ำสมัย อย่างที่เรียกได้ว่าเป็น “บ้านในฝัน” แต่เมื่ออยู่จริงอาจกลายเป็นฝันร้ายเมื่อเข้าไปอยู่ก็ได้ เนื่องจากเบื้องหลังไม่ได้ถูกออกแบบมาจากการใช้ชีวิตจริงๆ ของผู้อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน ก็นำเสนอบ้านของ LPN ที่ดูภายนอกเรียบง่าย อาจไม่โดดเด่นแบบที่คนส่วนใหญ่ฝันถึง แต่กลับให้ความรู้สึกที่ดีกว่าได้ เนื่องจากเป็นบ้านที่ออกแบบให้พอดีกับชีวิตจริง
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา LPN เพิ่งเปลี่ยนโลโก้ของตนเองอีกครั้ง แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปท์การให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสียเพื่อสร้างความสมดุลที่ยั่งยืนและได้ยึดคำมั่นสัญญา"LPN ส่งมอบความน่าอยู่ให้กับทุกคน"