บริษัท ซีพีแรม จำกัด ร่วมกับ สาขาวิชามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดตัวโครงการ การประกวดคลิปวิดีโอ “คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” ปีที่ 2 เชิญชวนนักเรียน - นักศึกษาทั่วประเทศ แชร์ไอเดีย สร้างพลังผ่านคลิปวีดีโอความยาว 3 นาที
โดยได้รับเกียรติจาก วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด พร้อมด้วย ผศ.บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์ ประธานสาขาวิชามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมแถลงข่าว
ทั้งนี้ ในปี 2561 บริษัท ซีพีแรม จำกัด ร่วมกับ สาขาวิชามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมดำเนินโครงการ การประกวดคลิปวิดีโอ “คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” เพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องลดความสูญเปล่าทางอาหารในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีส่วนสำคัญในการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงในการลดความสูญเปล่าทางอาหาร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม
โดยการแชร์ ไอเดีย สร้างพลังผ่านคลิปวีดีโอความยาว 3 นาที ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศ เป็นอย่างมาก ส่งผลงานเข้าร่วมโครงการกว่า 259 ผลงาน อีกทั้งยังได้มีการดำเนินกิจกรรมสร้างความตระหนักในเรื่องลดความสูญเปล่าทางอาหาร หรือ Food Waste ในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศกว่า 20 แห่ง
ในปีนี้ ซีพีแรม ร่วมกับ มีเดียอาตส์ มจธ. เชิญชวนนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศ ร่วมส่งผลงานเข้าร่วมประกวดคลิปวิดีโอ “คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” โดยโครงการดังกล่าวดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยโครงการดังกล่าวเริ่มต้นจากการตั้งคำถามจากสิ่งที่เราเห็นจากอาหารในจานที่เราทานไม่หมด กองขยะตรงหน้าที่มีแต่เศษอาหารเหลือจากการทาน หรือแม้แต่ผักและผลไม้ที่เน่าเสียอยู่ในตู้เย็น
ประกอบกับการพูดถึงของคนทั้งโลก รวมถึงองค์กรยูนิเซฟถึงความยากจน การโหยหาอาหาร ความหิวโหยของเด็กน้อยในแอฟริกาหรือประเทศที่อยู่ในสภาวะสงคราม ที่ทำให้ขาดแคลนอาหาร รวมทั้งการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถควบคุมได้
แม้แต่ในประเทศไทยเองที่ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินทอง เมืองอู่ข้าวอู่น้ำอยู่ที่ไหนไม่อดตาย แต่ก็ยังมีในหลายพื้นที่ห่างไกล ที่ยังขาดแคลนอาหาร อาหารไม่เพียงพอ เข้าถึงอาหารไม่ครบตามหลักโภชนาการ มีให้เห็นในข่าวอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องความสูญเปล่าทางอาหารในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีส่วนสำคัญ ในการร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง และลดความสูญเปล่าทางอาหาร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม
วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาความสูญเปล่าทางอาหาร หรือ Food Waste ส่งผลกระทบต่อทุกคนในวงกว้างทั้งในมิติเศรษฐกิจ มิติสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหารของโลก ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตระหนักถึงผลเสียที่ก่อเกิดจากอาหารที่ถูกทิ้งอย่างสูญเปล่า รวมถึงยังมีแนวโน้มรุนแรงมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้
ผลเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในมิติเศรษฐกิจ ความสูญเปล่าทางอาหาร แสดงให้เห็นถึงความสูญเปล่าในเชิงเศรษฐกิจ เหตุเพราะแทนที่อาหารที่ถูกผลิตจะส่งผลทำให้มนุษย์มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กลับสูญเปล่าไร้ประโยชน์ หากทุกคนสามารถลดปริมาณความสูญเปล่าทางอาหาร และบริโภคอาหารอย่างสมดุล นอกจากจะสามารถลดรายจ่ายค่าอาหารในครัวเรือนอย่างยิ่งยวดแล้ว ยังช่วยทำให้ระดับความมั่นคงทางอาหารของคนบนโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ในส่วนมิติสิ่งแวดล้อมการกำจัดความสูญเปล่าทางอาหารที่ถูกทิ้งส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมหลายด้านเพราะความสูญเปล่าทางอาหารที่ถูกทิ้งส่วนใหญ่จะถูกทำลายด้วยการฝังกลบซึ่งส่งผลให้เกิดก๊าซมีเทน (Methane) ก๊าซเรือนกระจก ที่ส่งผลให้เกิดสภาวะเรือนกระจกที่รุนแรงยิ่งกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า ส่งผลเสียต่อชั้นบรรยากาศของโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“การจัดทำโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจะเป็นการสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญในการสร้างความตระหนักในเรื่องความสูญเปล่าทางอาหารในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และลดความสูญเปล่าทางอาหาร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม
จึงได้จับมือกับสาขาวิชามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีอย่างต่อเนื่องในการร่วมขับเคลื่อนการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมในการลดความสูญเปล่าทางอาหารเพื่อสร้างความมั่งคง และความยั่งยืนทางอาหารอย่างต่อเนื่อง”
ด้าน ผศ.บุญเลี้ยง แก้วนาพันธ์ ประธานสาขาวิชามีเดียอาตส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่าถึงเวลาที่เราต้องร่วมกันขับเคลื่อนการสร้างความตระหนักในเรื่องลดความสูญเปล่าทางอาหารอย่างจริงจัง เพื่อลูกหลานของเราในอนาคต
“การสร้างสรรค์สื่อเพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งสะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นจริงในโลกใบนี้ เป็นการบูรณาการศาสตร์ด้านการผลิตสื่อสร้างสรรค์ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเราอาจจะไม่สามารถหยุดเหตุกาณ์อันเลวร้ายนี้ได้
แต่เราเป็นจุดเล็กๆ ที่ผสานรวมกันจนเกิดพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้เหตุกาณ์ดังกล่าวชะลอการเกิดขึ้นได้ และหวังว่าถ้าคนที่ได้เห็นผลงานสร้างสรรค์ดังกล่าวจะส่งผลให้มีความตระหนักและเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมในการลดความสูญเปล่าทางอาหาร จนสามารถสร้างความอิมแพคในสังคมและโลกใบนี้ เหตุการณ์เลวร้ายดังกล่าวอาจจะหยุดการเกิดขึ้นได้”
จากข้อมูลโครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ (UNEP) ระบุว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตขึ้นทั่วโลกในแต่ละปีหรือประมาณ 1.3 พันล้านตัน จะกลายเป็นความสูญเปล่าทางอาหาร หรือ Food Waste และถูกปล่อยให้เน่าเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 3.3 พันล้านตันต่อปี
จำนวนอาหารที่ถูกทิ้งขว้างเหล่านี้มีมูลค่ารวมกันกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นเงินไทยราว 31 ล้านล้านบาทและเพียงพอนำไปเลี้ยงดูผู้คนที่หิวโหยได้มากถึง 870 ล้านคน และจากสถานการณ์ขาดแคลนอาหารของประชากรโลก ผู้คนที่อดอยากหิวโหยจำนวน 870 ล้านคนนั้น จำนวนเกินกว่าครึ่งหรือราว 552 ล้านคน อาศัยอยู่ในภูมิเอเชียแปซิฟิค ซึ่งนับรวมประเทศไทยด้วยเช่นกัน
สาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤติความสูญเปล่าทางอาหาร เกิดจากระบบการจำหน่ายมีกระบวนการควบคุมที่ไม่เหมาะสม การซื้อสินค้า และการเตรียมอาหารที่มากเกินจำเป็น ไปจนถึงความสูญเปล่าทางอาหารจากการบริโภค ทั้งในส่วนที่เหลือทาน และเลือกบริโภค
รวมถึงสหประชาชาติ ยังตั้งเป้าลดความสูญเปล่าทางอาหารของโลกลงครึ่งหนึ่งในระดับค้าปลีกและผู้บริโภคและลดการสูญเสียอาหารจากกระบวนการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึง การสูญเสียหลังการเก็บเกี่ยว ภายในปี 2573
ทั้งนี้ โครงการ การประกวดคลิปวิดีโอ “คนรุ่นใหม่ไร้ Food Waste” แชร์ไอเดีย สร้างพลังผ่านคลิปวีดีโอความยาว 3 นาที เปิดรับสมัครตั้งแต่ 1 สิงหาคม -31 ตุลาคม 2562 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 360,000 บาท พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
ผู้สนใจเข้าร่วมส่งผลงานและติดตามรายละเอียดการสมัครได้ที่ www.facebook.com/foodwasteclipcontest