การประชุมขับเคลื่อนประชาสัมพันธ์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ครั้งที่ 1 ภาคกลาง จัดโดยสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ) สำนักงานกองทุนสนับสนับการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย สมาคมสื่อช่อสะอาด สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และสมาคมเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ
เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ร่วมวิเคราะห์ ค้นหาปัญหาและแนวทางนำเสนอร่วมผลักดันนโยบายสาธารณะ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายสู่การปฏิบัติและเห็นผลจริง ซึ่งมีแกนนำผู้บริหารทั้งสื่อมวลชนและเครือข่ายร่วมประชุม ได้แก่
พรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ, กิตติ วงศ์รัตนาวุธ อุปนายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย, ประยูร ภู่แส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด, วิริยา ธรรมเรืองทอง นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย, สุทนต์ กล้าการขาย นายกสมาคมสื่อช่อสะอาด, ธนาธิป บุญญาคม สมาคมเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ และภาคีเครือข่ายร่วมประชุมอีกกว่า 80 คน
พรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มุ่งหวังให้สื่อมวลชนและภาคีร่วมเป็นเจ้าภาพสื่อสารถึงประชาชนและสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนน เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา ผลักดันนโยบายให้เป็นรูปธรรมปฏิบัติได้จริง
โดยสื่อมวลชนต้องเป็นเจ้าภาพ ร่วมคิดผลักดันให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ขับเคลื่อนดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากมีพลังในการสื่อสาร จึงอยากชวนให้สะท้อนปัญหาพื้นที่ สื่อสารและผลักดันอย่างเป็นระบบทั้งรถ คน ถนน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยง จุดเสี่ยง เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ยั่งยืนให้แก่ลูกหลานในอนาคต
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้เน้นการสื่อสารเรื่องมาตรการองค์กรสร้างความปลอดภัยทางถนน ในกลุ่มบริษัท โรงงานเอกชน ที่มีการดำเนินงานดีเยี่ยม สามารถทำให้บุคลากรและคนในชุมชนเกิดความตระหนัก ร่วมมือและลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดจากอุบติเหตุทางถนนลงได้
โดย สคอ.ได้นำคณะสื่อมวลชนและภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่เรียนรู้การทำงานของพื้นที่ต้นแบบจังหวัดปทุมธานี ซึ่งที่ผ่านมามาตรการภาครัฐที่ดำเนินการยังมีข้อจำกัด ไม่สามารถดำเนินการให้คลอบคลุมได้ทั้งหมด ดังนั้น หน่วยงาน องค์กร ต้องช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับคนในองค์กรตนเอง
เพราะหากพนักงานปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีก็จะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพการทำงาน องค์กรจะได้คนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทำงานและสามารถลดต้นทุนไม่ต้องฝึกงานคนใหม่ทดแทนคนเดิมที่สูญเสีย ลดค่าใช้จ่ายอันเกิดจากอุบัติเหตุทางถนนลงไปได้อย่างมหาศาล
มาซายูกิ คิคุชิ ประธานบริษัท บริษัท นิเด็ค โคปาล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า บริษัทตระหนักและเห็นถึงความสำคัญต่อคุณภาพพนักงานเป็นอันดับแรก ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานแห่งนี้ 2,000 กว่าคน เมื่อพนักงานมีคุณภาพจะสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น และทำให้เป็นบริษัทที่มีคุณภาพได้ ดังคำขวัญที่ว่า "คุณภาพคู่ผลกำไร ความปลอดภัยต้องมาก่อน"
นอกจากนี้ได้รณรงค์ความปลอดภัยทางถนน สวมหมวกนิรภัย 100% เช่น จัดเตรียมหมวกนิรภัยไว้ให้ยืม แม้ไม่มีหมวกนิรภัยเป็นของตนเองก็สามารถยืมใช้ได้ การจัดกิจกรรมสวัสดีรถจักรยานยนต์ทุกวันอังคาร ให้ผู้บริหารและหัวหน้างานให้คำแนะนำเรื่องกฎจราจร จัดให้มีที่จอดรถที่ปลอดภัยและเป็นระเบียบ ตรวจสอบวันหมดอายุของ พ.ร.บ.และป้ายภาษี เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนสนับสนุนการจัดกิจกรรมชุมชน สร้างการรับรู้ทั้งตัวพนักงานงาน ครอบครัวและชุมชนรอบข้าง
โดยหลังเข้าร่วมโครงการฯ พบมีการเปลี่ยนแปลง เช่น พนักงานสวมหมวกนิรภัยและใส่สายรัดคาง 100% เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในบริษัทฯ ส่วนพนักงานที่ไม่มีหมวกนิรภัยและจำเป็นต้องซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กลับบ้าน จะยืมหมวกนิรภัยที่จัดเตรียมไว้สำหรับยืมไปสวมใส่ก่อนและนำมาคืนภายหลัง
นอกจากนี้ ยังได้มีความร่วมมือภาคีต่างๆ เช่น บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ชุมชนในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ครอบครัวของพนักงาน ร่วมดำเนินกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศในแถบอาเซียน มีการปฏิบัติการสวมหมวกนิรภัย 100% กันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับประเทศไทยอาจจะมีบริบทและความซับซ้อนที่อาจจะแตกต่างกัน จึงต้องมีการรณรงค์อย่างเข้าใจและจริงจัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับตัวพนักงานและครอบครัว
เมื่อพนักงานมีความปลอดภัยทั้งคุณภาพร่างกายและจิตใจก็พร้อมทำงาน ส่งผลให้งานเกิดประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุดอย่างแน่นอน