แสนสิริ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมการอยู่อาศัยของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย จับมือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ลงทุน 60 ล้านบาท รุกหน่วยธุรกิจใหม่ LIV-24 เสิร์ฟสุดยอดบริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงอย่างเต็มรูปแบบแห่งแรกและแห่งเดียวของวงการอสังหาฯ ไทย ต่อยอดจากความสำเร็จของ Smart Command Centre ตั้งเป้าปี 2020 มุ่งขยายการให้บริการครอบคลุม 47 โครงการของแสนสิริ
องค์กรต้นแบบนวัตกรรม
ดร.ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บมจ. แสนสิริ กล่าวว่า “แสนสิริตอกย้ำความเป็นต้นแบบองค์กรนวัตกรรมของธุรกิจอสังหาฯ ไทย และการันตีความสำเร็จด้วยรางวัลชนะเลิศ ด้านองค์กรนวัตกรรมสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมาแสนสิริ มุ่งเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบของลูกค้าตามแนวคิด ‘บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน ‘ความปลอดภัย’ อันเป็น 1 ใน 5 ปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญสูงสุดในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริ
ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เราเห็นผลการดำเนินงานของ Smart Command Centre ในการบริหารโครงการแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ โดยสามารถตรวจจับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติภายในโครงการด้วย CCTV และเข้าแก้ไขได้ทันท่วงที 21 ครั้ง และแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันของระบบต่างๆ ภายในอาคาร ด้วยเทคโนโลยี IoT ก่อนที่ระบบจะชำรุด 13 ครั้ง พร้อมช่วยประหยัดค่าซ่อมแซมได้กว่า 1 ล้านบาท อีกทั้งยังได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านการออกแบบบริการ (Service Design) จาก NIA ดังนั้น จึงส่งผลให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นกับโครงการของแสนสิริ อาทิ โครงการเดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา ซึ่งถือเป็นสมาร์ทคอนโดเต็มรูปแบบแห่งแรกในวงการอสังหาฯ ไทยที่มีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมากที่สุดโครงการหนึ่งของแสนสิริสามารถโอนกรรมสิทธิ์ครบ 100%
พร้อมกันนี้ แสนสิริก็เตรียมนำเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น Facial Recognition ระบบการจัดเก็บและจดจำใบหน้าของบุคคลที่เข้ามาในโครงการ, Smart Home Model ที่รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อส่งมอบความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและช่วยประหยัดพลังงาน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกบ้าน และ Digital Security Service การบริหารความปลอดภัยด้วยการเอาระบบดิจิทัลมาแทนที่การทำงานแบบดั้งเดิมในโครงการแนวราบและแนวสูงของแสนสิริภายในไตรมาส 4 นี้”
ทุ่ม 60 ล้านปั้น LIV-24
แสนสิริ ผนึก พลัสพร็อพเพอร์ตี้ ลงทุนกว่า 60 ล้านบาท ปั้น ‘LIV-24’ เป็นหน่วยธุรกิจใหม่ของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ เพื่อเตรียมส่งต่อมาตรฐานด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ก้าวล้ำหนึ่งเดียวแห่งวงการอสังหาฯ ไทย โดยพร้อมให้บริการครอบคลุม 47 โครงการของแสนสิริภายในปี 2020
ทั้งนี้ ภัสสรีภัคว์ ศรีกัญจนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ LIV-24 บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2020 LIV-24 ภายใต้หน่วยธุรกิจการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ฯ วางแผนเชื่อมต่อกับระบบบริหารจัดการความปลอดภัย (Security Monitoring) และระบบวิศวกรรมอาคารส่วนกลาง (IoT Facility Management) เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบ IoT Facility Management ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการแนวราบ และเตรียมยกระดับความปลอดภัยจากพื้นที่ส่วนกลางเข้าสู่ที่พักอาศัย ด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณ Intrusion Alarm แจ้งเตือนเมื่อมีการบุกรุกเข้าสู่ตัวบ้านในโครงการแนวราบและระบบ Smart Meter โซลูชั่นตรวจสอบและแจ้งเตือน เมื่อมีการใช้น้ำประปาและไฟฟ้าที่ผิดปกติในที่พักอาศัยในโครงการแนวสูง ตลอดจนวางแผนเตรียมขยายทีมเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการรวม 10 คน เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าใหม่ของแสนสิริอย่างต่อเนื่องในอนาคต”
LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยและควบคุมอาคารเต็มรูปแบบ ที่สร้างความแตกต่างและมาตรฐานใหม่ในการนำเทคโนโลยีมาเติมเต็มบริการด้านความปลอดภัยแห่งแรกและหนึ่งเดียวของวงการอสังหาฯ ไทย ให้บริการด้านการดูแลระบบโครงสร้างวิศวกรรมภายในอาคารทั้งในรูปแบบการดูแลรักษาแบบก่อนเกิดเหตุ และความสามารถในการแก้ไขปัญหาได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
ด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ที่มาพร้อมกับจุดเด่นในการช่วย ‘ลด’ 3 ด้าน สำหรับผู้นิติบุคคล และผู้พักอาศัยของโครงการแสนสิริ ได้แก่ ลดต้นทุน-ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีนัยยะ ทั้งกับตัวอะไหล่ และเครื่องจักรที่มีความซับซ้อน รวมทั้งค่าใช้จ่ายเรื่องบุคลากรซ่อมบำรุง ส่งผลโดยตรงต่อการบริหารส่วนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยลดค่าซ่อมแซมที่จะเพิ่มขึ้นจากเหตุต่างๆ โดยใช่เหตุ รวมทั้งช่วยให้ลูกบ้านแสนสิริสามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด สร้างความประทับใจและเติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ