งาน Maker Faire ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ได้ฤกษ์เปิดตัว ระหว่างวันที่ 18 – 19 มกราคม 2563 ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา ให้เหล่า Maker (เมกเกอร์) ทุกเพศทุกวัยทุกระดับมาชุมนุมกัน 'ปล่อยของ' อย่างเต็มที่ ด้วยชื่องาน Maker Faire Bangkok 2020 ภายใต้แนวคิด The Future We Make
Maker Faire Bangkok 2020 มหกรรมแสดงผลงานของสุดยอดเมกเกอร์ชาวไทยและต่างประเทศจัดโดย บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และกลุ่มเมกเกอร์ในประเทศไทย ซึ่งจะสร้างความเปลี่ยนแปลง พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม อีกทั้งนำมาซึ่งอนาคตที่ก้าวไกลของประเทศไทยและโลกใบนี้ ด้วยผลงาน สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมหลากหลายแขนงจากฝีมือของเหล่าเมกเกอร์ พร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปอีกมากมายที่จะช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมเมกเกอร์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย เพื่อก้าวไปเป็นศูนย์กลางของเมกเกอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป้าสู่ Smart Nation
ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สวทช. ได้ร่วมมือกับ เชฟรอนฯ และหน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐ เพื่อสนับสนุนให้เกิดงานเมกเกอร์แฟร์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญของการส่งเสริมวัฒนธรรมเมกเกอร์ให้เติบโตและแพร่หลายในเยาวชนและประชาชนทั่วไป รวมถึงให้ความสำคัญกับกลุ่มเมกเกอร์ ซึ่งมีทั้งผู้ที่นำเอาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมทั้งผู้ที่ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาใช้สร้างสรรค์ผลงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ซึ่งสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้ นอกจากนี้ ความสำเร็จอีกประการของงานนี้ คือ การออกนโยบายส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลักดันวงการเมกเกอร์ไทยไปสู่การเป็น Maker Nation หรือ 'ประเทศแห่งนักพัฒนา' และเตรียมความพร้อมที่จะนำประเทศไทยไปสู่การเป็น Smart Nation อย่างยั่งยืนต่อไป”
อาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้กล่าวว่า “ เชฟรอนให้การสนับสนุนวัฒนธรรมเมกเกอร์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต เช่น การจัดงานเมกเกอร์แฟร์และการประกวด Enjoy Science Young Makers Contest ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปได้รู้จักกับคำว่า “เมกเกอร์” จนเกิดความสนใจที่จะศึกษาหาความรู้ในวิชาสาขาสะเต็ม (STEM) ทั้งในและนอกห้องเรียน แต่ยังได้ปลูกฝังกรอบความคิดและการลงมือปฏิบัติจริง ทำให้ 'กล้าคิด กล้าทดลอง และกล้าที่จะสร้างสรรค์ผลงาน' ที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับตัวเองและสังคม ไปพร้อมกับส่งต่อแรงบันดาลใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้กับเมกเกอร์รุ่นใหม่ เพื่อไปต่อยอดสร้างสรรค์ผลงาน, สร้างความเปลี่ยนแปลง พัฒนาคุณภาพชีวิตของคน, ก่อให้เกิดอนาคตที่ดีของประเทศไทยและโลกใบนี้ จึงถือเป็นความสำเร็จที่แท้จริงของการจัดงานเมกเกอร์แฟร์ อันสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเชฟรอนในการจัดหาทรัพยากรให้กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน"
นอกจากนี้ ในงานยังมีการจัดแสดงผลงานที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของโครงการ Enjoy Science: Young Makers Contest ปีที่ 4 ทั้งในระดับนักศึกษาสายสามัญและอาชีวศึกษา ภายใต้หัวข้อ Social Innovations: นวัตกรรมเพื่อสังคมที่ยั่งยืน โดยผลงานเหล่านี้จะเข้ามาเติมเต็มสังคมเมกเกอร์ในไทยให้เติบโตทางด้านวัฒนธรรมเมกเกอร์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีส่วนร่วมสร้างอนาคตที่ดีให้กับสังคมและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต โดยจะมีการประกาศผลตัดสินการแข่งขันและมอบรางวัลเป็นทุนการศึกษา รวมทั้งโอกาสในการเข้าร่วมงานเมกเกอร์ระดับโลกในปี 2563 ให้แก่ทีมผู้ชนะเลิศอีกด้วย
ดร.ชานนท์ ตุลาบดี เมกเกอร์ผู้เชี่ยวชาญและผู้ก่อตั้งบริษัท กราวิเทคไทย (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงทิศทางการเติบโตของธุรกิจของเมกเกอร์ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นว่า “งานเมกเกอร์แฟร์ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้เมกเกอร์ได้รู้จักและได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มสังคมของเมกเกอร์กันมากขึ้น และภายในสังคมของเมกเกอร์ก็ยังมีการถ่ายทอดแลกเปลี่ยนความรู้ที่ชำนาญ ประสบการณ์ต่างๆ เพื่อพัฒนาผลงานออกมาได้อย่างเต็มที่ รวมถึงแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้เมกเกอร์สามารถสร้างรายได้จากผลงาน เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจของตนเองได้อย่างมั่นคงจึงก่อให้เกิดธุรกิจของเมกเกอร์ใหม่ๆ ในวงการ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญทั้งการส่งเสริมวัฒนธรรมเมกเกอร์ให้มีความเข้มข้นและขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน”
ตัวอย่างผลงาน สิ่งประดิษฐ์ของบรรดาเมกเกอร์ที่จะนำมาโชว์เรียกน้ำย่อยก่อนจะถึงวันจริง อาทิ
ชวัลวิทย์ พูลศรี หนุ่มการประปาภูมิภาคที่ทำให้คนเข้าถึง IoT, AI ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ กับอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว ผลงานนาฬิกาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางรถยนต์สำหรับผู้พิการทางสายตาและการได้ยิน หรือจะปรับมาใช้กับบ้านหรือโรงแรมเพื่อเปิดปิดประตูด้วย Facial Detect ก็ได้
นิมิตร หงษ์ยิ้ม #NaiYimGarage กับผลงานหุ่นยนต์กู้ระเบิด (E.O.D Robot) ที่ขายให้กับกรมตำรวจเพื่อใช้งานด้วยราคาหลักแสน และมินิไบค์โก๋หลังวังแบบไฟฟ้า หนุ่มใหญ่ที่พบตัวตนของตนเองว่า การเป็นเมกเกอร์นั้น 'ใช่' เลย ประดิษฐกรรมเป็นแนวตามใจเจ้าตัวและทำตั้งแต่ต้นจนจบเป็นชิ้นงานเอง ทั้งฟังก์ชั่น ดีไซน์ของชิ้นงาน อีกทั้งขึ้นรูปตัววัสดุเองเพื่อให้ตอบโจทย์เจ้าตัวจริงๆ
ธณพล กิจมุติ นักศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยโตเกียวกับผลงานหุ่นยนต์นุ่มนิ่ม Twin Spica ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่เข้าด้านหลังตุ๊กตาหมี สำหรับเช็คชีพจรของผู้ใช้ เพื่อช่วยชีวิตผู้ที่หยุดหายใจขณะนอนหลับ โดยการทำงานจะเป็นการสื่อสารกันเองผ่านบลูทูธระหว่างอุปกรณ์ IoT หรือ Smart Device อื่นๆ
หุ่นเห่ย (Hebocon Thailand#9) โดย Powered by INEX
ทศพร เวชศิริ และผลงานกล่องไฟฟ้าแบบกดปุ่มขนาดพกพา
ผลงาน AI Racing Car โดย เชียงใหม่ เมกเกอร์คลับ
ดร. ดนุ พรหมมินทร์ และทีมวิจัยเอ็มเทค สวทช. และผลงานรถวีลแชร์ไฟฟ้า M Wheelchair ที่ปรับเก้าอี้วิลแชร์ธรรมดาด้วยอุปกรณ์ตัวเล็กๆ ก็ทำให้ผู้นั่งสามารถควบคุมทิศทางที่จะเคลื่อนที่ได้เอง โดยไม่ต้องรอให้ใครมาเข็น
ดร.ชานนท์ ตุลาบดี และผลงานอุปกรณ์สำหรับการเรียนรู้การเขียน Coding สำหรับเด็ก (KidBright Robot) สนใจเขียน Code วันงานมีเวิร์คช็อปด้วย
ด.ช.ภูมิ ตันศิริมาศ New Gen Maker ที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานด้วยวัยเพียง11 ขวบและผลงานรถบังคับด้วยมอเตอร์ที่ได้เข้าร่วมงานเมกเกอร์แฟร์ ตั้งแต่ปีแรกเมื่ออายุเพียง 7 ปี จนเกิดแรงบันดาลใจและผันตัวเองมาเป็นเมกเกอร์สร้างผลงานรถบังคับด้วยมอเตอร์