'โออิชิ กรุ๊ป' โชว์ผลงานรุ่ง เติบโตทั้ง 'ยอดขาย-กำไร'
27 Dec 2019

 

ก้าวสู่ปีที่ 21 'โออิชิ กรุ๊ป'  ประกาศผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2562 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562 และเป็นปีที่โออิชิดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงครบสองทศวรรษถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ภาคภูมิใจของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทสร้างฐานการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วย 5 กลยุทธ์หลัก ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดรายได้รวม 13,631 ล้านบาทและผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,229 ล้านบาท

 

รายได้ - กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. โออิชิ กรุ๊ป กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ประจำปีงบประมาณ 2562 (1 ตุลาคม 2561 - 30 กันยายน 2562) ว่า

"บริษัทมีรายได้รวม 13,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 6,501 ล้านบาท เติบโต 8.6% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 7,130 ล้านบาท เติบโต 7.9%

ขณะที่กำไรสุทธิรวมของบริษัทเท่ากับ 1,229 ล้านบาท เติบโต 21.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยแบ่งเป็นผลกำไรจากธุรกิจเครื่องดื่ม 869 ล้านบาท เติบโต 12.6% และผลกำไรจากธุรกิจอาหาร 360 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดที่ 52.4%”

 

 

ข้อสังเกตจากผลประกอบการของโออิชิที่ประกาศนี้สาดสปอตไลท์ได้ที่อัตราการเติบโตทั้งธุรกิจเครื่องดื่มและธุรกิจอาหารที่โดดเด่น อยู่ในเกณฑ์ดีมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของกำไรที่เติบโตมากกว่ารายได้มากๆ อย่างธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารที่กำไรเติบโต +12.6% และ +52.4% ขณะที่รายได้เติบโต +8.6% และ +7.9%  ซึ่งถือว่า Amazing มากทีเดียวกับอัตราการเติบโตของธุรกิจอาหารที่มีกำไร 52.4% ขณะที่ปีกรายได้เติบโต +7.9%

 

 

ทั้งนี้ ภาพรวม ธุรกิจเครื่องดื่ม ว่า ตลาดชาพร้อมดื่มในช่วงปีงบประมาณ 2562 มีการฟื้นตัว โดยเติบโต 2.2%*[1] ขณะที่รายได้ของธุรกิจเครื่องดื่มของบริษัทฯ เติบโตมากกว่าการเติบโตของตลาดชาพร้อมดื่มโดยรวม เนื่องมาจากความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ จนสามารถครองแชมป์ผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 44.6%* ประกอบกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของยอดขายเครื่องดื่มในตลาดต่างประเทศที่ 15% ซึ่งเป็นแรงส่งสำคัญอีกแรงหนึ่ง

 

ส่วนผลกำไรของธุรกิจเครื่องดื่มก็เติบโตด้วยเช่นกัน โดยสาเหตุหลักมาจาก

  • การเติบโตของรายได้
  • การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย
  • การวางแผนใช้งบการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้น ภาพรวมในส่วนของ ธุรกิจอาหาร ก็เติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยปัจจัยสนับสนุนมาจาก

  • การเปิดสาขาใหม่
  • การเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม
  • การมุ่งเน้นประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

 

นงนุชกล่าวถึงประเด็นของสาขาธุรกิจร้านอาหารว่า

        "ในปีที่ผ่านมาร้านอาหารมีสาขาเพิ่มขึ้นสุทธิ 14 สาขาโดยส่วนมากเป็นสาขาของร้านชาบูชิ, ร้านคาคาชิและร้านโออิชิ อีทเทอเรียมส่งผลให้บริษัทมีจำนวนสาขาร้านอาหาร ณ สิ้นรอบบัญชีปี 2562 ทั้งสิ้น รวม 266 สาขา"

 

 

กลยุทธ์สร้างการเติบโต

ทั้งนี้ 5 กลยุทธ์หลักในปี 2562 ที่มีส่วนสนับสนุนให้โออิชิเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบด้วย 

1. Go Digital โออิชิรุกช่องทางดิจิทัลอย่างมากเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดเดลิเวอรี่ของกลุ่มธุรกิจอาหาร พร้อมสนองความต้องการด้านความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคในยุคนี้ 

2.Worth โออิชิเดินหน้าให้เม็ดเงินที่ซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์มีความคุ้มค่ากับผู้บริโภคโดยคำนึงถึงคุณภาพที่แบรนด์ส่งมอบให้กับผู้บริโภค รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น

3. Branding & Marketing การทำการตลาด และสร้างแบรนด์ของโออิชิอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่แบรนด์มุ่งตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างความแปลกใหม่ตื่นเต้นให้แก่ผู้บริโภค

4. Sustainability การใส่ใจต่อการสร้างความยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ผู้บริโภคและมุ่งเน้นพัฒนาด้านต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

5. People อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงแข็งแรงก็คือ “พนักงาน” สถานะทางการเงินและอันดับเครดิตองค์กร มั่นคง แข็งแรง

 

         ในส่วนของการจัดอันดับเครดิตองค์กรนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (“ทริสเรทติ้ง”) ได้คงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ A+ ซึ่งสะท้อนถึงสถานะผู้นำในตลาดชาพร้อมดื่มและธุรกิจอาหารในประเทศไทย อีกทั้ง การมีตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักอย่างดี มีเครือข่ายจัดจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศที่ครอบคลุม มีการวิจัยพัฒนาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดีมีคุณค่า และการมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมให้แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งสะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่า โออิชิ กรุ๊ป จะยังคงสถานะบริษัทที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ อีกทั้ง จะยังคงรักษาสถานะที่ดีในตลาดชาพร้อมดื่มและธุรกิจร้านอาหาร และสร้างผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

 

จ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลในช่วงต้นปี 2563 ตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ในอัตราหุ้นละ 4 บาท ซึ่งนับเป็นการจ่ายปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของทางบริษัทฯ

 

จากความสำเร็จตลอด 20 ปี โออิชิ กรุ๊ป จะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งในด้านคุณภาพ ความแปลกใหม่ และการให้บริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และรักษาตำแหน่งผู้นำด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้โออิชิบรรลุเป้าหมายและก้าวไปให้ถึงวิสัยทัศน์กลุ่มธุรกิจไทยเบฟภายในปี 2020

             


[1] ข้อมูลจาก : บริษัท เดอะนีลเส็นคอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด  (ต.ค. 61 – ก.ย. 62)

[อ่าน 2,622]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Brother โชว์ศักยภาพ Domino N730i ดันไทยสู่มาตรฐานใหม่อุตสาหกรรมพิมพ์ ในงาน Labelexpo Southeast Asia 2025
AWC รายงานผลกำไรไตรมาส 1/2568 เติบโต 23% มูลค่าทรัพย์สินพุ่งกว่า 2 เท่า
ไอคอนคราฟต์ ชวนช็อปงานคราฟต์จากกลุ่มคนพิเศษ ในแคมเปญ "The Craft of Sharing" ตั้งแต่วันนี้ - 3 มิ.ย. 68
CKPower เผยกำไรสุทธิ Q1/2568 พลิกเป็นบวกแม้เป็นฤดูแล้ง
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โชว์ผลงาน กำไรไตรมาส1 พุ่ง 57% ทะยานสู่โหมดการเติบโตอย่างเต็มกำลัง
ออร์บิกซ์ ร่วมมือกับ Bitstamp ยกระดับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved