คงเคยได้ยินว่า เวลากินห้ามเล่น ... เวลาเล่นห้ามกิน

        แต่ ศูนย์การค้าจังซีลอน ภูเก็ต สวนทางให้ เวลากินเล่นได้ เวลาเล่นก็กินได้ ที่ Doozy Digital World (ดูซี่ดิจิทัล เวิลด์) ชั้น 3 หนำซ้ำยังเป็นการกินและเล่นที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟ เพิ่มประสบการณ์มื้ออาหารแบบบันเทิงเต็มรูปเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและถ้าจะเคลมว่าครั้งแรกในโลกก็น่าจะได้อีกด้วย กับการโชว์บนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรครั้งนี้ ซึ่งจังซีลอนจับมือกับ บริษัท ดูซี่ ดิจิแล็บ จำกัด ผู้นำด้านการสร้างสรรค์ประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างและนำเสนอดิจิทัลอาร์ตล้ำสมัยให้เป็นที่รู้จัก

ทั้งนี้ ประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหาร ศูนย์การค้า จังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต ก็ยืนยันว่า

"สำหรับต้นปี 2563 นี้บริษัทยังคงเดินหน้าสรรสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มแม็กเนตภายในศูนย์การค้าฯ พร้อมสร้างความหลากหลายและตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยจะเปิดตัวโครงการใหญ่ Doozy Digital World เต็มรูปแบบในช่วงไตรมาส 2/2563 นี้ และคาดว่าการเปิดตัวของ Doozy Digital World จะประสบความสำเร็จและจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการต่างๆ ภายในศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 - 20 จากเดิมเฉลี่ยประมาณ 60,000 - 70,000 คนต่อวันในช่วงไฮซีซั่น และเฉลี่ยวันละ 40,000 - 50,000 คนต่อวันในช่วงโลว์ซีซั่น พร้อมทั้งสามารถรองรับความหลากหลายของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตที่มีจำนวนกว่า 18 ล้านคนต่อปี และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตให้คึกคักมากขึ้นได้อย่างแน่นอน”

เม็ดเงินที่ใส่ไปกับ Doozy Digital World 300 ล้านบาทนั้น รัญจิรา คงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูซี่ ดิจิแล็บ จำกัด “ยอมรับว่าถือเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับการทำโครงการใหญ่ครั้งนี้ เพราะทุกพื้นที่ของการจัดแสดงนั้นเธอต้องการให้ 'ปัง' ด้วยอยากเปิดประสบการณ์ Interactive Amusement ให้แก่ผู้ที่เข้าชม ให้ได้ร่วมสัมผัสกับความสนุก ตื่นเต้น ในโลกของดินแดนเหนือจินตนาการแห่งโลกดิจิทัลอาร์ตให้มากที่สุด ผ่านแนวคิดและคอนเซปต์ที่แตกต่างกันใน 9 โซนพื้นที่จัดแสดงได้แก่ ซึ่งร้อยเรียงเรื่องราวด้วยการนำเสนอดิจิทัลอาร์ตที่แตกต่างกัน และมีอินเตอร์แอคทีฟเฉพาะในแต่ละโซน อาทิ โซน Culture ที่นำเสนอประเพณี วัฒนธรรม และศิลปะของประเทศไทย ในรูปแบบการแสดงแสงสีดิจิทัลที่สร้างความแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของโลก ได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้น ยังมีโซน Art, Music, Fashion, Adventure, Games ฯลฯ”

"เราอยากจะผสมผสานทุกอย่างเข้ามาไว้ด้วยกัน โดยการเสนอแบบไทยๆ แต่เป็น'โมเดิร์น ไทย' ตอบโจทย์สไตล์ความชอบของผู้คนที่แตกต่างกันไป 'ทุกกลุ่ม ทุกสไตล์' อย่างคนที่ชอบความสวยงามก็จะได้โมเมนต์ของความสวยงาม หรือใครที่ชอบงานแฟชั่น เราก็รวบรวมศิลปิน Pop Art พร้อมทั้งรวบรวมงานแฟชั่น ทั้งระดับไฮเอนด์และสตรีทแฟชั่นไว้ในที่เดียวกัน หรือคนที่ชอบความสนุกสนาน แบบ Adventure ก็จะได้รับความสนุกสนานแบบนั้น หรือคนที่แค่มาเดินเล่นก็เป็นสุขได้ เราก็สามารถตอบสนองได้"  รัญจิรากล่าว

สำหรับสายกิน สายสรรกิน หรือสายแข็งปังกินจังกินจริง  ประวิชก็ผายมือให้ไปที่ Digital Delicious เปิดเป็นแห่งแรกที่จังซีลอน ภูเก็ต ในส่วน LOVE EAT ชื่อตรงเป๊ะ  ‘เลิฟการกิน’  

ทั้งนี้ ประวิช กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตั้งแต่ช่วงกลางปี 62 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รปรับปรุงพื้นที่ภายในศูนย์การค้าฯ พร้อมทั้งดึงร้านค้าใหม่ๆ แบรนด์ดังเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายและตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งล่าสุด ได้แก่ โซนร้านอาหาร LOVE EAT ที่ตกแต่งในรูปแบบของ Court House with a Touch of Art & Culture Style ด้วยงบการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยผสมผสานความเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน บนพื้นที่เกือบ 4,000 ตารางเมตร (2 ชั้น) ที่คัดสรรร้านอาหารชั้นเลิศนานาชาติ ให้ได้เลือกอิ่มอร่อย สำหรับคนรุ่นใหม่และทุกคนในครอบครัว อาทิ Sizzler, Grand Tarboosh, The Alley และ Digital Delicious เป็นต้น โดยในขณะนี้ได้ปิดการขายไปแล้วกว่า 70% และคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย 63 "

"ที่นี่จะเป็นที่ที่เราจะให้คนกินไปด้วย สนุกไปด้วยได้ จากที่แบบเราเคยถูกสอนว่า กินไปอย่าเล่น เวลาเล่นห้ามกิน เวลากินห้ามเล่น ที่นั่นจะกินไปเล่นไป ทุกคนจะมีส่วนร่วมกับทุกๆ คอนเทนต์บนโต๊ะอาหาร กับเมนูต่างๆ ด้วย"  ประวิชกล่าว

ขณะที่รัญจิราเสริมว่า“ร้านอาหาร ‘Digital Delicious’ เปิดให้บริการในรูปแบบดิจิทัลอาร์ตอินเตอร์แอคทีฟ ภายใต้คอนเซปต์ EAT & PLAY เช่นเดียวกับที่เคยเปิดให้บริการมาแล้วในช่วงปลายปี 62 ถึงต้นปี 63 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ โดยได้ใช้เทคนิคการนำเสนอในรูปแบบ 4D Mapping, Multi Touch Screen, Interactive Multi Media ที่ทำให้ทุกๆ วินาทีบนโต๊ะอาหารนั้น เต็มอิ่มไปด้วยภาพ แสง สี เสียง กลิ่น รส และสัมผัส - ครบทุกอรรถรส เพื่อให้กลายเป็นประสบการณ์สุดกลมกล่อมในรูปแบบ Interactive Dining Experiences อย่างเต็มรูปแบบ โดยร้านอาหารจะตั้งอยู่ในโซนอาหารเปิดใหม่ของศูนย์การค้าจังซีลอนโซน ‘LOVE EAT’ จะเปิดให้บริการในช่วงเดือน เม.ย. 63 นี้เช่นกัน”

กลุ่มลูกค้าของศูนย์การค้าจังซีลอน

• นักท่องเที่ยวชาวไทยและ Expat  20%
• นักท่องเที่ยวต่างชาติ  80%
• กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักมาจากเอเชีย อาทิ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น ฯลฯ
• กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น อาทิ อินเดีย ออสเตรเลีย รัสเซีย แอฟริกาใต้และตะวันออกกลาง

เพื่อบอกเล่าเก้าสิบกับกิจกรรม และความเป็นไปใหม่ๆ ของจังซีลอน ประวิช กล่าวว่า

"เราเน้นสื่อสารการตลาดแบบ Direct Marketing เพื่อโปรโมทและประชาสัมพันธ์ตรงกับกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ทั้งสื่อออนไลน์ ออฟไลน์ อาทิ สื่อออนไลน์แพลตฟอร์มหลักๆ ของจีน, การโฆษณาในสื่อสนามบิน, Inflight Magazine ของสายการบินต่างๆ อาทิ กลุ่มสายการบินของจีน, แอร์เอเชีย, การบินไทย, คาเธ่ย์แปซิฟิค, บางกอกแอร์เวย์ เป็นต้น

สำหรับปี 63 นี้ บริษัทฯ ยังได้ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ บริษัท เอเย่นต์ทัวร์ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ Sea Tour, JTB ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ,โรงแรมในจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะโรงแรมที่หาดป่าตอง อาทิ แคมเปญ Enjoy your stay with Jungceylon และบัตรเครดิต, E-Payment ต่างๆ อาทิ Alipay Exclusive Program, Visa Privilege, บัตรเครดิตเคทีซี (KTC) มอบประสบการณ์ช้อปสุดคุ้มแก่ผู้ที่ถือบัตร

นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญร่วมกับ Matrix Application สำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียโดยเฉพาะ และยังได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แก่ โปรแกรม Passport Privilege 2019 และโปรแกรมเที่ยววันธรรมดาราคา Shockโลกเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและดึงลูกค้าชาวไทยมาท่องเที่ยวและช้อปปิ้งให้มากยิ่งขึ้น สำหรับอีเวนต์ทางการตลาด และแคมเปญโปรโมชั่นยังคงมีไม่ต่ำกว่า 80 อีเวนต์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี"