บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) รายงานผลการดำเนินงานปี 2562 แข็งแกร่งเติบโตจากปีก่อนทั้งรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าไอซี Q3, Q4) และกำไรที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาโครงข่ายที่ดีขึ้นและความมุ่งมั่นพัฒนาบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
อเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น กล่าวถึงผลการดำเนินงานปี 2562 ว่า
"ดีแทคได้กลับเข้าสู่ภาวะการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยยึดปัญหาลูกค้าเป็นศูนย์กลางพร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาคุณภาพสัญญาณและขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง สามารถขยายสถานีฐานสำหรับรองรับคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ของทีโอทีได้ถึง 4,700 สถานี ทำให้ปัจจุบันสถานีฐานสำหรับรองรับคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ถึง 17,400 สถานีทั่วประเทศ นอกจากนี้ดีแทคยังพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายและประสบการณ์ลูกค้า โดยมุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการและข้อเสนอที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้น สำหรับฐานลูกค้าดีแทคมีทั้งสิ้น 20.6 ล้านราย ลดลง 5.6 แสนราย มีรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าไอซี) ใน Q4/62 เติบโต 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากค่าบริการหลักเติบโต 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากพัฒนาการจำนวนลูกค้าที่ดีขึ้นในระบบเติมเงิน โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้นใน Q4/62 ขณะที่จำนวนลูกค้าในระบบรายเดือนเติบโตอย่างต่อเนื่อง"
ทั้งนี้ จุดเปลี่ยนที่ทำให้ดีแทคสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ประกอบด้วย
"จุดเปลี่ยนที่สร้างการเติบโตให้กับดีแทคอย่างยั่งยืนนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ที่จับต้องได้ ผ่านผลการดำเนินงานปี 2562 ที่เห็นได้จากรายได้ใน Q4/62 เติบโต 3.1% และกำไรสุทธิที่เติบโต 69.4% โดยมูลค่ากำไรสุทธิทั้งสิ้น 5,900 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของต้นทุนค่าธรรมเนียมและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ภายใต้สัมปทานที่สิ้นสุดลงแล้ว
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินงานปี 2563 คือการไม่หยุดพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าการขยายโครงข่ายให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการพัฒนาองค์กรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต"
ดิลิป ปาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน ดีแทค กล่าวว่า "ผลประกอบการทางการเงินของดีแทคกล่าวได้ว่าแข็งแกร่ง โดยมีรายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าไอซีใน Q4/62 ที่เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลอดจนการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลัก (รายได้จากการให้บริการเสียงและข้อมูล)ในปี 2562 และด้วยต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ลดลง ค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ภายใต้สัมปทานที่สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับการขายและการบริหาร (SG&A)และการบริการ ทำให้ดีแทคมีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน”
สำหรับปี 2563 ดีแทคตั้งเป้าการเติบโตสำหรับรายได้จากค่าบริการ ไม่รวมค่าไอซีในอัตราร้อยละที่เป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับต่ำ (Low Single-Digit) ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้ตัดจำหน่ายหรือ EBITDA คาดการณ์การเติบโตในอัตราร้อยละที่เป็นตัวเลขหลักเดียวในระดับกลาง (Mid Single-Digit) ส่วนเงินลงทุน หรือ CAPEX ประมาณการณ์ไว้ที่ 13,000 – 15,000 ล้านบาท
ตัวเลขสำคัญทางการเงินในปี 2562 (ก่อนการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 15 และ 16 มาถือปฏิบัติและไม่รวมผลกระทบจากการทำสัญญาระงับข้อพิพาทกับ กสท. ในปี 2561)
ล่าสุด ดีแทคได้พัฒนาประสบการณ์ลูกค้าสำหรับ dtac Reward โฉมใหม่ที่มีลูกค้ากว่า 20.4 ล้านรายทั้งในระบบรายเดือนและเติมเงิน ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานและยอดค่าใช้บริการเฉลี่ยย้อนหลัง 6 เดือน คือ Welcome Member, Silver Member http://dtac.co.th/s/Welcome, Gold Member, Platinum Blue Member http://dtac.co.th/s/Platinum