ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ บมจ. การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย โดยการยื่นขอฟื้นฟูกิจการจะดำเนินการทั้งศาลล้มละลายไทยและศาลล้มละลายสหรัฐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ พร้อมกันนี้ ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ต่ำกว่า 50% และมีสภาพพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ

ทั้งนี้ รายละเอียดแผนการฟื้นฟูกิจการการบินไทย ได้แก่

1) ให้การบินไทยพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ

กระทรวงการคลังจะต้องขายหุ้นการบินไทย 3% ให้กองทุนวายุภักดิ์ เพื่อเป็นการลดสัดส่วนการถือหุ้นให้เหลือเพียง 47% จากเดิมกระทรวงการคลังถือหุ้นการบินไทยรวม 1,113.93 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 51.03%

2) ปรับโครงสร้างการบริหาร โดยให้กรรมการลาออกจนเหลือ 3 คน

ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดว่า ใครจะคงอยู่หรือจะเลือกใครเข้าไปใหม่ แต่มีข่าวออกมาว่า ที่วางตัวไว้มี 3  คนที่จะสามารถเข้าไปนั่งบอร์ดได้ คือ

• เทวินทร์ วงศ์วานิช อดีตซีอีโอ ปตท.
• ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
• จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ และอดีต ดีดีการบินไทย

3) ต้องร้องขอต่อศาลล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ

เมื่อศาลรับฟื้นฟูกิจการ หนี้ของการบินไทยจะผิดนัดชำระหนี้ทันที ดังนั้น ทีมบริหารจะต้องดูแลในส่วนนี้ โดยอาจจะต้องมีการยืดหนี้ออกไป จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มให้กับเจ้าหนี้ โดยเฉพาะในส่วนหนี้สหกรณ์

4) เดินเรื่องคู่ขนานกับศาลไทยและศาลอเมริกา เพื่อดูแลเจ้าหนี้ต่างประเทศ

ศาลอเมริกาจะต้องใช้ Chapter 11 ตามกม.ล้มละลายของสหรัฐ เพราะการบินไทยต้องดำเนินกิจการต่อไป รวมทั้งการดูแลเจ้าหนี้ลิสซิ่งเครื่องบินด้วย ซึ่งมีสหรัฐ อังกฤษ และเยอรมันเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่

5) ยังประกอบธุรกิจตามปกติแม้เข้าศาลล้มละลาย

จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 รักษาการแทนกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย เปิดเผยผ่านทาง Facebook Fanpage การบินไทย ( https://bit.ly/TG-THAIReformPlan) ว่า  

วันที่ 19 พฤษภาคม 2563  : คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ดําเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง โดยให้บริษัทฯ ดําเนินกิจการตามปกติ การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการแม้จะเป็นการดําเนินการภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการเลิกหรือชําระบัญชีบริษัทฯ หรือไม่ได้มุ่งหมายให้บริษัทฯ ต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใดในทางตรงกันข้ามการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎหมายในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองอย่างเป็นธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งบริษัทฯ ยังสามารถประกอบธุรกิจปกติต่อไปได้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการขนส่งผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางของการบินไทยทั่วโลก หรือการขนส่งสินค้าไปรษณียภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะดําเนินการควบคู่ไปกับการฟื้นฟูองค์กรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดําเนินงานและพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

สำหรับผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารการบินไทยยังคงสามารถใช้เดินทางได้ต่อไปหากต้องการเปลี่ยนแปลงด้านบัตรโดยสารสามารถดําเนินการผ่านเว็บไซต์ thaiairways.com หรือติดต่อได้ที่ THAI Contact Center โทร.02-356-1111