Travel Bubble 'เที่ยววนไป' เฉพาะ'กลุ่มคลีน'
15 Jun 2020

 

ขณะที่ตลาดท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ในโลกใบนี้ ยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้นั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือ คนในประเทศนั้นๆ ก็เที่ยวกันเองนั่นละ .... ไม่เว้นแม้แต่จีนที่แม้ผู้คนจะอึดอัดอยากเที่ยว แต่ที่สุด ก็ต้องเที่ยวภายในประเทศกันเองไปก่อน นี่จึงทำให้เราได้เห็นคนอู่ฮั่นที่ถูกล็อกดาวน์มานานแห่ไปเที่ยวกันแน่ขนัดอย่างไม่กลัวติดโควิด-19 แม้แต่น้อย แต่ที่สุด ก็กลับมาติดกันอีกรอบเป็นครั้งที่สอง จนทำให้จีนต้องใช้มาตรการเชิงรุกเช็กคนอู่ฮั่นทั้ง 11 ล้านคนอย่างจริงจังว่า ใครติดเชื้ออีก

 

ไทยเที่ยวไทย

สำหรับประเทศไทยที่ตอนนี้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ถึงเฟส 3 อีกทั้งกำลังปล่อยมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ระหว่างเดือน ก.ค. – ต.ค.63 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กำลังหารือกับ กระทรวงการคลังและได้ข้อสรุปการจัดทำ 2 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่

 

  1. 1) มาตรการ 'สร้างกำลังใจ' ผ่านการสนับสนุนงบการศึกษาดูงาน 3 วัน 2 คืน ผ่านบริษัทนำเที่ยวในประเทศให้คนที่ทำงานแนวหน้าสู้โควิด-19 ทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) กว่า 1.2 ล้านคน

 

  1. 2) มาตรการ 'เที่ยวปันสุข' โดยมีบัตรกำนัลดิจิทัลสำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ มีเงื่อนไขต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัด สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี จำนวน 4 ล้านคน โดยเปิดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ ซื้อบัตรกำนัลเป็นค่าห้องพักแล้วเมื่อประชาชนนำบัตรกำนัลดังกล่าวไปใช้จ่ายในโรงแรม เช่น ห้องพัก ห้องอาหาร สปาและร้านขายสินค้าที่ระลึกแล้ว  รัฐบาลจะโอนเงินคืนให้ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปวงเงิน

 

 

เที่ยววนไป เฉพาะกลุ่มคลีน

สำหรับการท่องเที่ยวข้ามประเทศขณะนี้มีศัพท์ฮิตมาอีกคำคือ Travel Bubble ซึ่งหมายถึง การเดินทางกันเองในกลุ่มประเทศที่จัดการโควิด-19 ได้ดี ถึงแม้ขณะนี้สถานการณ์ในโลกจะยังไม่คลีนจากโควิด-19 จริงๆ และยังไม่มีการผลิตวัคซีน ดังนั้น การท่องเที่ยวที่จะเกิดได้และไม่ตะขิดตะขวงใจก็คือ การเปิดประเทศเพื่อให้สามารถท่องเที่ยวกันเองได้อย่างในกลุ่มประเทศที่คลีนเรื่องโควิด-19

 

ตัวอย่างการเดินทางแบบ Travel Bubble เช่น

  • ออสเตรเลีย Travel Bubble กับนิวซีแลนด์ โดยประชากรของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางระหว่างกันได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางจากประเทศต้นทางหรือประเทศปลายทาง คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณเดือนกันยายนนี้
  • ญี่ปุ่น Travel Bubble กับไทย เวียดนาม นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย โดยคาดว่าจะเริ่มได้ประมาณเดือนกรกฎาคมนี้แต่อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางก็มีการกำหนดให้มีเอกสารทางการแพทย์ เพื่อยืนยันผลการตรวจร่างกายว่า ผลตรวจผลเป็นลบ (-) และเมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นก็ต้องตรวจให้ผลเป็นลบ อีกครั้งที่สนามบิน ก่อนปล่อยเข้าเมือง โดยไม่มีการกักตัว 14 วัน
  • ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเนีย Travel Bubble กันเอง ยกเว้นสวีเดน ซึ่งเป็นประเทศที่ยังมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเนีย แต่ในกลุ่มนี้มีข้อกำหนดอยู่บ้างที่ไม่อนุญาตให้การเดินทางถึงกันและกัน หรือเดินทางเข้าสู่เมืองใหญ่ๆ เช่น กลางกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เนื่องจากพื้นที่ที่มีคนหนาแน่นในเมืองใหญ่ยังมีปัญหาการระบาดที่ยังไม่แน่นอนอยู่ คาดว่าจะเริ่มได้ 15 มิถุนายนนี้
  • สวิตเซอร์แลนด์ Travel Bubble กับฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย ยกเว้นอิตาลี คาดว่าจะเริ่มได้ 15 มิถุนายนนี้
  • กรีซ Travel Bubble กับ 29 ประเทศทั่วโลก (รวมถึงไทย) ยกเว้นอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี คาดว่าจะเริ่มได้ 15 มิถุนายนนี้เช่นกัน

 

 

ไทยเริ่มเมื่อไร

สำหรับประเทศไทยจะสามารถเปิดประเทศเพื่อให้มีการท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble นั้นยังไม่รู้ชัด อาจจะเปิดในมาตรการผ่อนคลายเฟส 4 หรือหลังจากนั้น แต่หากนานกว่านี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจจะติดโควิด-19 หนักกว่าผู้คนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่สาธารณสุข ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สามารถบริหารจัดการกับโรคระบาดนี้ได้ดีที่สุดติดอันดับโลกจนทำให้ได้รับความเชื่อถือและความไว้วางใจจากต่างประเทศ อีกทั้งกลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนในประเทศต่างๆ ว่า ถ้าหากเปิดประเทศให้เดินทางได้ก็จะมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน

อัตราผู้ติดเชื้อในประเทศไทยนั้นอยู่ในอัตราเลขตัวเดียวมาหลายวัน แม้จะมีเป้าหมายว่า จะต้องมีอัตราผู้ติดเชื้อที่ระดับศูนย์คนติดต่อกัน 14 วันก็ตาม แต่ผู้ติดเชื้อที่รายงานในระยะหลังเป็นคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและต้องอยู่ในสถานที่กักตัว จนกว่าจะได้รับการตรวจยืนยันว่าได้ผลเป็นลบจึงจะกลับบ้านได้

เนื่องจากเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของไทยพึ่งพิงการส่งออกและการท่องเที่ยวในสัดส่วนที่สูงมาก เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยไม่ได้ ธุรกิจรีเทลน้อยใหญ่อย่างห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ฯลฯ ล้วนได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดที่บ้างก็ต้องปิดกิจการ หยุดกิจการชั่วคราว หรือปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจเพื่อหากระแสเงินสดเข้ามาตาทัพ เพราะในยุคโควิด-19 นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า

           Cash is King.

         เงินสดคือราชา หมายความตามนั้นจริงๆ

ฉะนั้น ระหว่างรอฟ้าเปิด ธุรกิจต่างๆ ก็ต้องดิ้นรนเพื่อหาเงินสดเช้ามา เช่น เปลี่ยนสินค้าที่ขาย เปลี่ยนช่องทางการขาย เปลี่ยนโมเดลการให้บริการ ฯลฯ แต่หากว่า ธุรกิจท่องเที่ยวยังเปิดเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่ เชื่อว่า ธุรกิจรีเทล ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโซ่อุปทานของการท่องเที่ยวอาจต้องปลดพนักงาน ทั้งนี้ มีการประเมินกันว่า หากไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในอีก 12 เดือนข้างหน้า เชื่อว่า ประเทศไทยจะมีจำนวนพนักงานที่จะถูกเลิกจ้างมากถึง 8 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยจะเปิดประเทศ หรืออาจจะใช้กลยุทธ์ Travel Bubble แต่สิ่งที่จะเกิดหลังช่วงโควิด-19 นั้นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะแม้จะสามารถเดินทางไปมาระหว่างแบบ Travel Bubble ได้ แต่เชื่อว่า มาตรการเว้นระยะทางสังคมและมาตรการคัดกรองยังต้องคงอยู่ เพื่อลดความเสี่ยงและลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันถือเป็นมาตรฐานการดำเนินงานขั้นพื้นฐานในยุคโรคระบาดแล้ว

ที่สำคัญ หากไม่มีสิ ... จะถือว่าตกมาตรฐานอย่างที่เรียกได้ว่า การ์ดตก และจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากนักท่องเที่ยวด้วยในแง่ของความปลอดภัยและสุขอนามัยของการท่องเที่ยว อันเป็น New Normal ในโลกของธุรกิจการท่องเที่ยวด้วย เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่จะต้องมีการแบ่งปัน ตั้งแต่ที่เที่ยว ที่นั่ง ที่นอน ที่กิน ฯลฯ  

 

 

 ฉะนั้น วัตรปฏิบัติของอุตสาหกรรมจึงย่อหย่อนหรือตกมาตรฐานไม่ได้

ว่าแต่ ประเทศไทยจะจับคู่ Travel Bubble กับประเทศใดบ้างก็ถือเป็นเรื่องที่คนไทยด้วยกันอยากรู้ และรอดูว่า ประเทศที่จะจับคู่ท่องเที่ยวด้วยนั้นจะ 'เย้'  หรือจะ 'ยี้' ดี !!

 


บทความจากนิตยสาร MarketPlus Issue 124

 

          

[อ่าน 1,360]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บ้านส้มตำ กรุ๊ป ทุ่มทุน 40 ล้านบาท ปักธงสาขาใหม่ใจกลางทำเลทองอย่าง “รังสิต” ประตูสู่ภาคเหนือและภาคอีสาน
คลายร้อนรับซัมเมอร์ กับเมนูอร่อยเติมความเฟรชให้ร่างกาย จากร้านดังที่ไอคอนสยาม และ ไอซีเอส
“EAT OUT” เฉลิมฉลองเทศกาลอาหารตลอด 90 วัน
ฉลองเทศกาลอีสเตอร์ ที่โรงแรมอนันตรา กรุงเทพฯ
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ จับมือ 2 พันธมิตรรถเช่ารายใหญ่ มุ่งสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเหนือระดับ
“คาเฟ่ ชิลลี่” ชวนเปิดประสบการณ์ อีสาน โซล ฟู้ด สาขาล่าสุด ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved