สิงห์ เอสเตท วางแผน The Next Normal of Commercial เสริมแกร่งด้วยกลยุทธ์ 5-Agile Developments
23 Jun 2020

 

สิงห์ เอสเตท เห็นโอกาสในธุรกิจคอมเมอร์เชียล จากผลกระทบโควิด-19 วางกลยุทธ์ The Next Normal of Commercial เติมความพร้อมธุรกิจรอบด้าน เพื่อสนับสนุนลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ Five Agile Developments เรื่อง Tool, Target, Business, Process และ Unite เพิ่มประสิทธิภาพ ใส่ใจคุณภาพชีวิต สร้างพื้นที่ Hygienic & Flexibility ชูการพัฒนาด้านนวัตกรรม และสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบ ขณะที่ครึ่งปีแรก บริษัทสามารถบริหารจัดการทั้งภายในและร่วมกับพันธมิตรทั้งหมด พร้อมเดินหน้าในครึ่งปีหลัง คาดสร้างรายได้ตามเป้าตั้งแต่ต้นปี

ทั้งนี้ นริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์ เอสเตท กล่าวถึงธุรกิจอาคารสำนักงาน (Commercial) ของบริษัทว่า  สิงห์ เอสเตท ให้ความสำคัญกับประเด็น New Normal เช่นกัน แต่เราจะพยายามมองข้ามไปอีกก้าวหนึ่ง ด้วยการมองไปถึง The Next Normal of Commercial มากกว่าว่า ธุรกิจนี้จะแข่งขันกันเพิ่มขึ้นในด้านการใหับริการที่ครบถ้วน การดูแลด้านสุขอนามัย ฟังก์ชั่น ของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยืดหยุ่น ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย พื้นที่ใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยน หรือออกแบบเองได้

 

 

“ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้สร้างผลกระทบในวงกว้าง โดยปัจจุบันผ่านมาแล้ว 5 เดือน ทุกธุรกิจยังต้องคอยปรับตัวอยู่ตลอด ที่สำคัญ ธุรกิจต้องมีการวางแผนในระยะยาวเพื่อรับมือกับพฤติกรรม และการใช้ชีวิตในอนาคตที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยสิงห์ เอสเตท มองไปถึงโอกาสที่จะเกิดขึ้นจากการทำงานคู่ขนาน ร่วมกับการพัฒนาแผนงานเพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในด้านต่างๆ ซึ่งธุรกิจอาคารสำนักงานเป็นหนึ่งในธุรกิจหลัก และบริษัทได้วางกลยุทธ์ Five Agile Developments เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของธุรกิจ ประกอบด้วย

  • Agile Tool Development คือ การพัฒนาเครื่องมือ และระบบของอาคาร เช่น ระบบดูแลด้านสุขอนามัยของอาคารแบบครบวงจร การเพิ่มระบบต่างๆ เพื่อรองรับการใช้ชีวิต และการทำงานให้สะดวกขึ้น (Cloud system management, E-Tax/Revenue, Intelligent parking, Delivery platform and Cashless society) เพื่อให้สอดรับกับสังคม Social distancing
  • Agile Target Development คือ การปรับ ขยายตลาดเป้าหมาย รวมถึงเครื่องมือใหม่ๆ ในการรองรับลูกค้าทั้งรายใหญ่ และรายย่อย โดยนอกจากบริการดูแลสุขอนามัยแบบครบวงจรแล้ว ยังเพิ่มทางเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น การสร้างพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุน สำหรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย การให้บริการ Flexibility space, Ready to move in office, Co separate working space รวมไปถึง Island pod หรือพื้นที่ทำงานย่อยส่วนบุคคล
  • Agile Business Development คือ การพัฒนา มองหาการเพิ่มบริการ และช่องทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมถึงการต่อยอดจากทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว โดยเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นหลัก
  • Agile Process Development คือ ยกระดับการดำเนินงานด้วยเครื่องมือที่ช่วยลดระยะเวลา นำนวัตกรรมและโปรแกรมต่างๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด รวมถึงการพัฒนาบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ ให้มีการอัพเดทเทรนด์ และความรู้อยู่ตลอดเวลา
  • Agile Unite Development คือ การมองในภาพรวม การสร้างสังคมของการอยู่ร่วมกัน พัฒนาเครื่องมือในการสนับสนุน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งเจ้าของอาคารและผู้เช่า หรือระหว่างผู้เช่าด้วยกัน อาทิ Virtual market platform รวมถึงยังเพื่อสร้างสังคมที่ดีจากภายใน ไปถึงสังคมรอบข้าง นำไปสู่สังคมคุณภาพ และยั่งยืน

 

 

ปัจจุบันสิงห์ เอสเตท มีทั้งสิ้น 4 อาคารได้แก่ อาคารซันทาวเวอร์ส, อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์, เดอะ ไลท์เฮ้าส์ และอาคารเมโทรโพลิศ พื้นที่รวม 1.4 แสนตารางเมตร มีอัตราปล่อยเช่าเฉลี่ยราว 87% โดยอีกหนึ่งก้าวสำคัญของธุรกิจอาคารสำนักงาน ของสิงห์ เอสเตท คือ ก้าวไปสู่การเป็นพื้นที่ Hygienic & Flexibility ที่มีนวัตกรรมรองรับอย่างครบวงจร เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน และคาดว่าในปีนี้ธุรกิจอาคารสำนักงานของสิงห์ เอสเตท จะสร้างรายได้เป็นไปตามเป้า”

นริศ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดการดำเนินงานของแต่ละโครงการด้วยว่า ธุรกิจอาคารสำนักงานของสิงห์ เอสเตท ยังดำเนินงานได้ตามแผน มีผลกระทบบ้างเล็กน้อยในส่วนของพื้นที่รีเทลที่มีคำสั่งให้หยุดดำเนินกิจการ ซึ่งทางเรามีมาตรการช่วยเหลืออย่างเต็มที่   

สำหรับลูกค้าที่เช่าในอาคารสำนักงานต่างๆ นั้น มีลักษณะที่แตกต่างกัน กล่าวคือ

  • อาคารซันทาวเวอร์ส – ลูกค้าส่วนมากเป็นรายใหญ่ อยู่กันมานาน และอยู่ในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบไม่มาก จึงทำให้โครงการได้รับผลกระทบน้อย
  • อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ - ลูกค้ารายใหญ่ได้รับผลกระทบน้อย และยังสามารถเพิ่มลูกค้าได้ด้วยในส่วนพื้นที่ๆ ยังว่างอยู่ จะมีผลกระทบก็คือลูกค้ารีเทลซึ่งทางอาคารก็มีมาตรการช่วยเหลือ โดยภาพรวมการดำเนินงานยังเป็นไปตามแผน
  • อาคารเมโทรโพลิศ เนื่องจากผู้เช่าเป็นกลุ่มเอสเอ็มอีและกลุ่มสตาร์ทอัพ ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบทางธุรกิจ และมีการขอหยุด หรือยกเลิกสัญญา ซี่งในจุดนี้ทางบริษัทมองเป็นโอกาสในการดำเนินกลยุทธ์ใหม่ในทันที เป็นจังหวะที่ดีภายหลังได้เข้าซื้ออาคารนี้มาเมื่อต้นปีที่จะได้เดินหน้าปรับปรุงอาคาร เพื่อให้พร้อมรองรับกับ Next Normal of Commercial ต่อไป

 

[อ่าน 1,766]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศุภาลัย รุกตลาดคอนโดหรู “คุ้มค่ากว่าที่คิด” ส่ง Supalai Elite Sukhumvit 39 เจาะทำเล Super Prime
ไทยฮอนด้า เดินเกมรุกตลาดครึ่งปีหลัง รักษาบัลลังก์ผู้นำ พร้อมรับศึก EV Bike ในอีก 5 ปีข้างหน้า
AIS จุดพลังลูกหนัง! ขนพาเหรดพรีเมียร์ลีกบุกทุกพื้นที่ทั่วไทย ปลุกกระแสเปิดฤดูกาล ดูสดทุกแมตช์ เริ่มต้น 199 บาท
อมารี เวียงจันทน์ คว้า 4 รางวัลใหญ่จากเวทีระดับโลก Haute Grandeur Global Awards 2025 ตอกย้ำผู้นำด้านบริการของ ONYX
ICONSIAM จัดศึกชิงแชมป์บาริสต้า “Thailand Iconic Coffee & Creativity Championship 2025” ชิงเงินแสน!
Monomax ถ่ายทอดสด Carabao Cup ซีซันใหม่ พร้อมแคมเปญ “เชียร์บอล เชียร์บาว” ย้ำถ้วยแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved