จับตาตลาดเวียดนาม กับ 8 ปี แห่งความสำเร็จภายใต้การดำเนินงานของเซ็นทรัล รีเทล
18 Jul 2020

 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) ได้เข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามและทำการเปลี่ยนโฉมค้าปลีกให้มีความทันสมัย โดยยึดมั่นวิสัยทัศน์ ที่มุ่งสร้างความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวเวียดนาม จนสามารถครองตำแหน่งบริษัทค้าปลีกข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม บนฐานลูกค้ากว่า 12 ล้านคน

 

ศักยภาพตลาดดี ดันธุรกิจโต

เวียดนาม อีกหนึ่งเสือเศรษฐกิจที่แข็งแรงแห่งภูมิภาคอาเซียน โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ หรือ GDP ของประเทศเวียดนามนั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2562 GDP ประเทศเวียดนามเติบโตขึ้นถึง 7% ท่ามกลางภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2563 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.82% แม้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ก็ตาม

 

การเติบโตแบบก้าวกระโดดของประเทศเวียดนามนั้น มีผลมาจากการที่เวียดนามมีประชากรที่อยู่ในวัยทำงานกว่า 50 ล้านคน จากประชากรทั้งหมดกว่า 95 ล้านคน ประกอบกับนโยบายจากภาครัฐที่สนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และล่าสุดกับการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรป ทำให้ประเทศเวียดนามมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก และพร้อมก้าวสู่การแข่งขันในเวทีโลก

 

 

จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2555 ที่เซ็นทรัล รีเทลเข้าไปดำเนินธุรกิจในเวียดนาม ด้วยเล็งเห็นศักยภาพและโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยเริ่มจากการเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่น จนถึงก้าวสำคัญในปี 2558 ที่เราเข้าร่วมทุนกับเหงียนคิม และลานชี มาร์ท ทำให้เซ็นทรัล รีเทล เวียดนามในขณะนั้นมีร้านค้า 85 แห่ง ใน 15 จังหวัด และมีพื้นที่ขายสุทธิอยู่ที่ 170,000 ตรม. พร้อมขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปัจจุบัน (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน ปี 2563) เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีจำนวนศูนย์การค้าทั้งสิ้น 35 แห่ง ร้านค้ามากกว่า 230 แห่ง ครอบคลุม 39 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ บนพื้นที่กว่า 1,080,000 ตรม.[1] โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจกลุ่ม Food ใน 3 รูปแบบที่จะสามารถรองรับลูกค้าได้ทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง ได้แก่



1. ไฮเปอร์มาร์เก็ต (Hyper GO!) 32 แห่ง ครอบคลุมทุกเมืองสำคัญของเวียดนาม 2. ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมืองหลัก (Super GO!) 7 แห่ง ใน 2 เมือง คือ กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ 3. ซูเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่ต่างจังหวัด (ลานชี มาร์ท) 25 แห่ง ทั้งยังมีธุรกิจ Non-Food มากกว่า 170 แห่ง ที่เป็นร้านค้าเฉพาะทางต่างๆ อาทิ เหงียนคิม ผู้นำร้านจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงธุรกิจ Property ที่บริหารศูนย์การค้าโก! (GO!) อีก 35 แห่ง ซึ่งรีแบรนด์มาจากบิ๊กซี


 

ธุรกิจหลากหลาย พันธมิตรแกร่ง เสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยี : ปัจจัยความสำเร็จเซ็นทรัล รีเทล

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า ด้วยยุทธศาสตร์ที่เน้นการขยายธุรกิจหลากหลายรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นสูง (Resilient Portfolio) และการผนึกกำลังสร้างความร่วมมือจากพันธมิตรทุกภาคส่วน (Partnership) พร้อมนำเทคโนโลยีมาเสริมทัพธุรกิจ ทำให้เซ็นทรัล รีเทล สามารถขยายธุรกิจที่เติบโตและแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว

 

จากธุรกิจที่สร้างรายได้ราว 300 ล้านบาทในปี 2557 ปัจจุบัน เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม สามารถสร้างรายได้ถึง 37,000 ล้านบาท ในปี 2562 และแม้กระทั่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังสามารถดำเนินธุรกิจและมีรายได้ที่มาจากความพร้อมของช่องทางออมนิแชแนลทั้งร้านค้าและระบบออนไลน์พร้อมด้วยฐานลูกค้าที่แข็งแรงกว่า 12 ล้านคนถือเป็นบทพิสูจน์ว่าเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ยังสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตต่อเนื่อง และให้บริการลูกค้าได้ในทุกสถานการณ์

“ความสำเร็จของเซ็นทรัล รีเทลในเวียดนามนั้น เกิดขึ้นจากการคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอของเราที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และแสวงหาโอกาสในการเติบโตอยู่เสมอ เรายังคงมุ่งมั่นลงทุนในประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพของประเทศที่ยังเติบโตได้อีกมาก และยังคงยึดมั่นวิสัยทัศน์องค์กรที่มุ่งสร้างความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวเวียดนามทุกคน ทั้งนี้เราขอขอบคุณลูกค้าชาวเวียดนามทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและตอบรับกับเซ็นทรัล รีเทล ด้วยดีเสมอมา” ญนน์ กล่าว

 

 

เดินหน้าต่อยอดธุรกิจรีเทลเวียดนาม

ฟิลิป ฌ็อง บราเอ็นนิโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม เผยว่า จากการดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ที่มุ่งสร้างความเจริญ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชาวเวียดนาม รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนอันดีจากภาครัฐ ทำให้ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรีล รีเทลได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวเวียดนาม ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการถึง 175,000 คนต่อวัน

“ในปี 2563 เซ็นทรัล รีเทลยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านแผนธุรกิจที่เน้นการขยายสาขา โดยตั้งเป้าเปิดศูนย์การค้า GO! เพิ่มทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ สาขาจ่าวิญ (Tra Vinh), กว๋างหงาย (Quang Ngai), บวนมาถวด (Buon Ma Thuot), เบ๊นแจ (Ben Tre), บ่าเหรี่ยะ (Ba Ria) และท้ายเหงียน (Thai Nguyen) รวมถึงรีแบรนด์บิ๊กซีเป็น GO! เพิ่ม 4 สาขา พร้อมพัฒนาเทคโนโลยี และช่องทางออมนิแชแนล โดยมุ่งเน้นการทำธุรกิจแบบ Synergy ผ่านการผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำ อาทิ แกร็บ บนฟีเจอร์ GrabMart เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์เรื่องความรวดเร็วในการให้บริการลูกค้า เพื่อก้าวสู่การเป็นธุรกิจ Multi-Format เต็มรูปแบบ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ สร้างความสะดวกสบาย และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าในทุกสถานการณ์” บราเอ็นนิโก กล่าว

ขับเคลื่อนธุรกิจ บนรากฐานสังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

เซ็นทรัล รีเทลได้ตั้งเป้าขยายธุรกิจให้ครอบคลุม 55 จังหวัดทั่วประเทศภายใน 5 ปี เพื่อมอบบริการที่ทั่วถึงในทุกพื้นที่ ตลอดจนสร้างงานและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ชาวเวียดนาม

นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทลยังได้ต่อยอดธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในเซ็นทรัล รีเทล ประเทศไทยสู่ประเทศเวียดนาม อาทิ การเปิดร้านซูเปอร์สปอร์ตในเวียดนาม, การพัฒนาศูนย์การค้า GO! ซึ่งต่อยอดมาจากโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ และการนำโมเดลธุรกิจร้านค้าเฉพาะทางต่างๆ ไปปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของชาวเวียดนาม จนเกิดเป็นธุรกิจ ฟู้ด ซิตี้, คุโบ, เฮลโหล บิวตี้ รวมถึงการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศเวียดนามและประเทศไทย เพื่อวางจำหน่ายในเครือข่ายธุรกิจของทั้งสองประเทศอีกด้วย

 

 

ขณะเดียวกัน เซ็นทรัล รีเทล ยังเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจชุมชน และสังคมที่ยั่งยืนโดยเดินหน้าทำกิจกรรมเพื่อชุมชนและสังคม อาทิ โครงการรับซื้อสินค้าท้องถิ่นโครงการฟาร์เมอร์ มาร์เก็ต (Weekend Farmers’ Market) สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อย (SME) ในการให้พื้นที่วางจำหน่ายสินค้าในบิ๊กซี ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ต่อยอดมาจากตลาดจริงใจที่ประสบความสำเร็จในเมืองไทย

“หัวใจหลักของการดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม คือ การร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเราไม่เพียงเข้าไปเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังได้ร่วมสร้างประโยชน์กลับคืนสู่สังคมเวียดนามอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเป็น Central of Life หรือศูนย์กลางการใช้ชีวิตของชาวเวียดนามทุกคน และเราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าด้วยความแข็งแกร่งของ Central Retail & Service Platform ประกอบกับการมีพอร์ตธุรกิจที่ยืดหยุ่น และหลากหลายในต่างประเทศ จะทำให้เราสามารถขยายธุรกิจไปได้อีกมหาศาลและเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว” ญนน์ กล่าว

 

 


[1] พื้นที่ขายและเช่าโดยรวม (Gross Floor Area)

[อ่าน 1,061]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
RETAIL SPACE M Card เขย่าวงการค้าปลีกเปิด “Indoor Navigation” หรือแผนที่นำทางสำหรับนักช้อป ที่แรกในไทย
ศิลปินวัยรุ่นตัวท็อป ร่วมงานฟรีคอนเสิร์ตใหญ่เล่นน้ำกลางเมือง “FWD Music Live Fest 3 #TimeToPlaySongkran”
“กรุงไทย” กำไรสุทธิไตรมาส 1/67 จำนวน 11,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เดินหน้าช่วยลูกค้าแก้หนี้ยั่งยืน
SCGC เปิดตัวโมเดล “มหัศจรรย์ชุมชน” มุ่งสร้างอาชีพด้วยหลักพึ่งพาตนเอง โชว์ศักยภาพกลุ่มผู้สูงวัย – สตรี – คนรุ่นใหม่
ใหม่! พบกับ Shell GO+ บน LINE OA ได้แล้ววันนี้ ครบจบในที่เดียว
เอไอเอส ชู พลังจากสุดยอดพันธมิตร ช่องทางจัดจำหน่าย ที่ 1 ตัวจริง
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved