Back to Top
MQDC เผยเทรนด์วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน
19 Jul 2020

 

วิกฤตคือโอกาส MQDC โชว์วิสัยทัศน์ธุรกิจอสังหาฯ ยุคหลังโควิด-19 ชี้เทรนด์ที่จะเป็น New normal ในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยคือ “วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน” ตอกย้ำความเชื่อมั่นเดินหน้าพัฒนาทุกโครงการภายใต้แนวทาง 'For All Well-Being' ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในอนาคตที่คนมีความต้องการพื้นที่ใช้สอย มองหาพื้นที่สีเขียวมากขึ้น และมีแนวคิดแบบ Everything At Home

 

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดพฤติกรรมที่เป็น New normal ขึ้นมากมาย อาทิ การ Work from Home เพื่อลดการติดต่อหรือสัมผัสกับบุคคลภายนอกบ้าน การหันมาทำอาหารรับประทานเองภายในครอบครัวแทนการออกไปทานอาหารนอกบ้าน เพราะร้านอาหารไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ การหันมาปลูกต้นไม้เพื่อหากิจกรรมทำคลายเครียดเมื่อต้องอยู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมงหลาย ๆ วันติดกัน เรียกได้ว่าความต้องการที่มีต่อบ้านจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่บ้านจะต้องสามารถตอบสนองความต้องการครอบคลุมไปถึงการทำงาน กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างพลังงานบวกทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพอารมณ์ให้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่ออยู่บ้าน

 

 

สอดคล้องกับงานวิจัยของ ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา (FutureTales Lab) ที่พบว่า การเก็บตัวอยู่กับบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดได้ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคต่อการลงทุนซื้อที่อยู่อาศัย ไปสู่วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน หรือ บ้านคือทุกสิ่ง Everything At Home โดยพบว่าคนเรามีความต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น (Prioritizing Space Over Convenience) จากที่ผ่านมาทุกอย่างรวมตัวกันอยู่ในกลางเมือง โดยยึดเอาแนวเส้นการเดินทางที่ใกล้รถไฟฟ้าเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการทำงานในอนาคต ที่หลายบริษัทเริ่มปรับรูปแบบให้สามารถทำงานที่บ้านได้มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ทำงานทุกวัน การเลือกที่อยู่อาศัยจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมือง หรือในคอนโดมิเนียมขนาดเล็กกลางใจเมืองเท่านั้น คนจะเปลี่ยนเป็นมองหาบ้านนอกเมืองที่มีพื้นที่มากขึ้น มีสวนมีพื้นที่สีเขียว มาเป็นที่อยู่อาศัยประจำแทน” ดร.การดี เลียวไพโรจน์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ (FutureTales Lab by MQDC) กล่าวอธิบาย

ที่ผ่านมา MQDC ให้ความสำคัญด้านการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมความต้องการที่อยู่อาศัยและเทรนด์ในอนาคต ก่อนที่จะพัฒนาโครงการใด ๆ ขึ้นมา ซึ่งถือเป็น DNA ของทุกโครงการในเครือที่ต้องมีผลวิจัยรองรับและนำมาต่อยอดพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ที่เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของพฤติกรรมด้านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และการออกแบบก่อสร้างในทุกส่วนของโครงการ ให้บ้านที่อยู่อาศัยได้ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มความสุขในชีวิตให้มากขึ้น ด้วยมาตรฐาน "MQDC Standard" ทั้งในเรื่องของการใช้วัสดุตกแต่ง วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้อาศัย การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศระดับเมือง ที่ถูกนำมาใช้ในโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ และ วิสซ์ดอม สุขุมวิท 101 เพื่อสร้างสุขภาวะการอยู่อาศัยที่ดีในแบบ For All Well-Being ตามวิถีชีวิตใหม่แบบ New normal

 

 

ดังนั้น ทำเลใจกลางเมืองอย่างเดียวจึงไม่ใช่เรื่องหลักในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยอีกต่อไป แต่ชีวิตความเป็นอยู่สภาพแวดล้อมที่ดี กำลังเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ที่คนกำลังให้ความสนใจในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งสอดคล้องผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ที่บ่งชี้ว่า ถ้ามนุษย์เราได้อยู่กับธรรมชาติทุกวันจะช่วยลดสภาวะความเครียด และเป็นปัจจัยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น MQDC จึงนำมาศึกษาต่อยอดในโครงการเมกะโปรเจคต์อย่าง ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ด้วยการสร้างความยั่งยืนของพื้นที่สีเขียว สร้างป่าแท้ๆ ให้เกิดขึ้นจำนวน 30 ไร่ และพื้นที่สีเขียวปกคลุมอีกมากกว่า 70% ในโครงการ เรียกได้ว่าเป็นโครงการแรกของโลกที่มีความสมบูรณ์เป็นเมืองเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ ประกอบด้วย คอนโดวิสซ์ดอมสำหรับคนวัยทำงาน บ้านเดี่ยวกลุ่มแบบคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ มัลเบอร์รี่ โกรฟ (Mulberry Grove) และคอนโด ดิ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) ที่รองรับตลอดชีวิตของผู้สูงวัยซึ่งจะรวมถึงเรื่องสุขภาพและสภาวะที่อาจจะต้องการการดูแลต่อไป

 

ทั้งนี้ จากแนวทางการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MQDC ที่เน้นการมีพันธมิตรระดับโลกมาร่วมพัฒนาโครงการ ทำให้อาณาจักร‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ มีแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านที่พักระยะสั้นและระยะยาวในระดับโลกมาเป็นพันธมิตร อาทิ ซิกส์เซนส์ (Six Senses) ที่จะมีทั้งที่อยู่อาศัยและโรงแรม, F & P (Thailand) เป็นที่ปรึกษาและร่วมออกแบบโครงการ, ITEC Entertainment มาออกแบบไลฟ์สไตล์ด้านสันทนาการและประสบการณ์เพื่อผู้อยู่อาศัย, Atelier Ten มาร่วมวางแผนการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน รวมถึงการวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในด้านไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ และเพื่อให้สอดคล้องกับงานวิจัยของศูนย์วิจัยอนาคตศึกษาที่ว่าเทคโนโลยีจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี อย่าง Huawei มาร่วมพัฒนา Smart city จาก Digital platform ของ Huawei โดยจะเริ่มจากโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS) ที่เป็นเมืองคู่ป่าเป็นโครงการแรก” วิสิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม

 

 

ปัจจุบันโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ MQDC อยู่ระหว่างการพัฒนาแบบ ขาย ก่อสร้าง และอยู่ในช่วงการโอน ทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า 3 แสนล้านบาท โดยมีโครงการระดับซูเปอร์ลักซูรี ได้แก่ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยามจำนวน 379 ยูนิต, เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ จำนวน 146 ยูนิต มีลูกค้าโอนไปแล้วเกือบ 100% และกว่า 60% ตามลำดับ มูลค่าโครงการรวม 2 โครงการกว่า 2 หมื่นล้านบาท และมียอดโอนรวมกันกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นความไว้วางใจจากผู้บริโภค รวมทั้งยังได้แมนดาริน โอเรียนเต็ล มาเป็นผู้ให้บริการแก่เจ้าของห้อง นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่น ๆ อาทิ วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว, วิสซ์ดอม สเตชัน รัชดา-ท่าพระ, วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท, วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท, วิสซ์ดอม อินสปาย สุขุมวิท, และมีโครงการที่ยังเดินหน้าก่อสร้างพร้อมเปิดขายแล้วจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ ฟอเรสเทียส์, เดอะ สแตรนด์, มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท รวมทั้ง มีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มอีก 3-5 โครงการ โดยทางบริษัทฯ มองว่าวิกฤตโควิดเป็นโอกาสที่จะได้เสนอการอยู่อาศัยที่ดีในแบบ For All Well-Being เพื่อสุขภาพกายใจที่ดีตามวิถีชีวิตใหม่หลังโควิดได้ผ่านพ้นไป

[อ่าน 1,868]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอไอเอ ประกาศรางวัลโรงเรียนที่ชนะเลิศในโครงการแข่งขัน สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี
“TFM” ติดทำเนียบ 1 ใน 13 หุ้น ESG100 เข้าใหม่ของสถาบันไทยพัฒน์
เคทีซีรวมกูรูถอดรหัส “สูตรลับร้านอาหารไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ”
“Tokyo-Thailand Business Partnership Seminar 2025” เปิดประตูสู่โอกาสให้กับ SMEs ไทย
ออมสินเดินหน้าปลดล็อก NPLs กลุ่มเปราะบาง เริ่มทันที 2 แสนบัญชี ช่วยรวมกว่า 1.3 ล้านรายภายในสิ้นปี
40 ปี แมคโดนัลด์ไทย สร้างคนเก่ง ทีมแกร่ง ด้วยพลังแห่งความหลากหลาย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved