AIA เปิดตัว ‘บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย)’ ขึ้นแท่นบิ๊กเบอร์ 3 บริหารสินทรัพย์ 8.47 แสนล้าน
13 Aug 2020

เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและผู้นำตลาด ‘ยูนิตลิงค์’ (ประกันชีวิตควบการลงทุน : Unit Linked) ในประเทศไทยเดินหน้าเปิดตัว บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมมูลค่า 8.47 แสนล้านบาท เพื่อมุ่งบริหารจัดการกองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์ ‘ยูนิตลิงค์’ ด้วยจุดแข็งที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารพอร์ตกว่า 30 ปี เชื่อมโอกาสการลงทุนผ่านเครือข่ายทั่วโลก ยกระดับการบริหารการลงทุนเพื่อความยั่งยืน และการประกอบธุรกิจโดยยึดหลัก ESG (Environmental, Social & Governance) พร้อมชูจุดเด่นค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนรวมเชิงรุกที่ลดลง เพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า

 

 

ก้าวใหญ่ของ AIAIMT

การปักหมุดยุทธศาสตร์ครั้งใหม่ของ เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำธุรกิจประกันชีวิตและผู้นำตลาด ‘ยูนิตลิงค์’ ด้วยการเปิดตัว บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ของ เอไอเอ ประเทศไทย และเงินลงทุนในกองทุนรวมจากกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ของเอไอเอ ประเทศไทย  โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมมูลค่า 8.47 แสนล้านบาท
 

 

ทั้งนี้ ดร. มาร์ค โคนิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวถึงจุดแข็งของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT)  ว่า

“การเปิด AIAIMT ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของ เอไอเอ ประเทศไทย เนื่องจากจุดแข็งของ AIAIMT ที่มีทั้งจากประสบการณ์การบริหารการลงทุนที่แข็งแกร่งใน 18 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยทีมบริหารการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 150 คนจากทั่วทุกภูมิภาคของโลกที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนทั้งในตลาดไทยและตลาดสากล ซึ่ง บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จะประสานความร่วมมือกับเครือข่ายการลงทุนของกลุ่มบริษัทเอไอเอทั่วโลก ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อบริหารการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม  

 

ทั้งนี้ AIAIMT เป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญในการบริหารและจัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ที่ยาวนาน และประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการการลงทุนทางการเงินมามากกว่า 3 ทศวรรษ โดยมีวัตถุประสงค์ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานตามนโยบายการลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Investment) และการประกอบธุรกิจโดยยึดหลัก ESG (Environmental, Social & Governance) ที่คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เช่นเดียวกับนโยบายของกลุ่มบริษัทเอไอเอที่เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณภาพและคุณธรรมตามหลัก ESG จะสามารถเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน”  

 

 

ภูมิหลังยิ่งใหญ่ - แข็งแกร่ง

ขณะที่ สุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภูมิหลังของ AIAIMT ที่มีความผูกพันกับระบบสังคมและเศรษฐกิจในประเทศไทยว่า

“กลุ่มบริษัทเอไอเอลงทุนทั้งใน ‘ตลาดตราสารหนี้ - ตลาดตราสารทุน – ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์’ ด้วยมูลค่ามหาศาล ภายใต้การสนับสนุนด้านทรัพยากรหลายภาคส่วนจากกลุ่มบริษัทเอไอเอตลอดระยะเวลา 82 ปีที่ เอไอเอ อยู่คู่สังคมไทยมานั้น เอไอเอ ได้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจที่สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ1 โดยปัจจุบันกว่า 1 ใน 3 ของกรมธรรม์ประกันชีวิตในประเทศไทยเป็นกรมธรรม์ของเอไอเอ2 และถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดการลงทุนของไทย

อย่างไรก็ตาม ถ้าติดตามพัฒนาเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย จะพบว่า เอไอเอมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทย เนื่องจาก ‘เอไอเอ ประเทศไทย’ อยู่คู่สังคมไทยมายาวนานกว่า 82 ปี ทำให้ เอไอเอ เป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นเบอร์ 1 ของประเทศไทยในปัจจุบัน และมีทรัพย์สินภายใต้การจัดการมากที่สุด นอกจากนี้ เอไอเอก็มีส่วนผลักดันให้เกิดพันธบัตรรัฐบาลหลังจากเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในช่วงที่ผ่านมา โดยที่ เอไอเอ เป็นผู้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 5.1 แสนล้านบาท ลงทุนในภาคเอกชนประมาณ 1 แสนล้านบาท  นอกจากนี้ ยังลงทุนในตลาดต่างประเทศ Offshore Fixed Income 1.3 แสนล้านบาท ซึ่งตลาด Offshore นี้เราไปตั้งแต่ปี 2546 เป็นระยะเวลา 17 ปี  ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นๆ ออกไปตลาดนี้ประมาณ 10 ปี ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า เรามีประสบการณ์ในตลาด Offshore อย่างยาวนาน ในส่วนของตลาดหุ้นเราลงทุนตั้งแต่ปี 2533  เผชิญกับความผันผวนของตลาดฯ ที่มีดัชนีระหว่าง 600 – 1,000 กว่าจุดและมีพอร์ตลิโอเพิ่มมา 7 เท่าตั้งแต่ 1.3 แสนล้านบาทในปี 2544 จนถึงปัจจุบันเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 8.98 แสนล้านบาท นั่นเป็นเพราะเรามีทีมงานลงทุนที่มี่ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่ยาวนาน

นอกจากนี้ เรายังมี เอไอเอ กรุ๊ป ทั้งจากฮ่องกงและสิงคโปร์ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีและโนว์ฮาว ทำให้เราสามารถจัดการต้นทุนได้ถูกลง โดยเรามีทีมงานเอไอเอทั้ง 18 ประเทศได้ร่วมกันบริหารเงิน 8.52 ล้านล้านบาท (2.84 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) หรือประมาณ 55%ของ GDP ประเทศไทย ซึ่งนับว่ามูลค่ามหาศาล

 

ขณะเดียวกัน เรายังมีตัวช่วยที่เป็นผู้จัดการที่เป็นกองทุนระดับโลกและเป็นพันธมิตรของเอไอเอที่ช่วยบริหารเงินของเราและเงินของลูกค้า ซึ่งเราขอสัญญาว่า จะนำเงินลงทุนของลูกค้าไปลงทุนให้ดีที่สุดเสมือนเป็นเงินของเราเอง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราดูแลเงินของเอไอเอได้ดีอย่างไร ในอนาคตเราก็จะขออาสาดูแลเงินของลูกค้า AIAIMT พร้อมทั้งขออยู่เคียงข้างการบริหารสินทรัพย์ของเอไอเอ”

 

 

สุขวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “การก่อตั้ง AIAIMT ถือเป็นโอกาสอันดีที่ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของเอไอเอจะได้เปิดประตูสู่เครือข่ายการลงทุนระดับโลกของบริษัทฯ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) หรือ AIAIMT ที่มุ่งมั่นลงทุนเคียงข้างลูกค้า บริหารจัดการสินทรัพย์ผ่านความชำนาญและประสบการณ์ระดับโลก  พร้อมการนำเทคโนโลยีการลงทุนขั้นสูงและมีความปลอดภัยสูงสุดมาใช้ในการทำงาน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ลงทุน โดย AIAIMT จะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น ด้วยการขยายช่องทางการลงทุนระดับสากล ผ่านเครือข่ายการลงทุนทั่วโลกและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงยาวนานร่วมร้อยปี อาทิ BlackRock, Wellington Management และ Baillie Gifford เป็นต้น ซึ่ง AIAIMT จะนำเงินลงทุนของลูกค้าไปลงทุนด้วยความใส่ใจ เสมือนเป็นเงินลงทุนของเราเอง”  

 

9 กองทุน ในประเทศ - ต่างประเทศ

บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้จัดตั้งกองทุนรวมจำนวน 9 กองทุนทั้งใน และต่างประเทศ ประกอบด้วย

กองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศ 5 กองทุน  ได้แก่

  • AIA Short Term Fixed Income Fund กองทุนรวมตราสารทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งลงทุนในตราสารหนี้ ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี
  • AIA Income Fund กองทุนรวมตราสารทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง จากอัตราดอกเบี้ยและผลกำไรส่วนต่างจากราคาหลักรัพย์จากการลงทุนในตราสารหนี้ในระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ
  • AIA Enhanced SET50 Fund กองทุนรวมตราสารทุนที่มุ่งเน้นบริหารกองทุนแบบเชิงรุก โดยให้มี Net Exposureใน SET50 เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% โดยมีวัตถุประสงค์ให้ทำผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนี SET50 ขณะเดียวกัน ก็ใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน

 

กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 4 กองทุน โดยเน้นการลงทุนเพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการบริหารความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ อย่างรอบคอบ โดยเบื้องต้น บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ได้เปิดตัวกองทุนรวมในประเทศ 5 กองทุน และสำหรับกองทุนรวมต่างประเทศจะมีการเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้

 


หมายเหตุ

1. ข้อมูลจากรายงานของสมาคมประกันชีวิตไทยเรื่องสถิติธุรกิจประกันชีวิต เดือนมีนาคม 2563

2. ข้อมูลจากรายงานของสมาคมประกันชีวิตไทยเรื่องสถิติธุรกิจประกันชีวิต ประจำปี 2561


ข้อมูลเพิ่มเติม

บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) 0-2353-8822, www.aiaim.co.th

 

[อ่าน 1,842]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แว่นท็อปเจริญ ย้ำจุดยืนผู้นำธุรกิจการให้บริการด้านสายตา ผ่านภาพยนตร์โฆษณา “มองเห็นถึงทุกด้านของชีวิต”
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี จับมือ เคทีซี เปิดตัวแคมเปญ “Korea Everything”
ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ผุดโปรเจกต์ยักษ์ ‘ฝ้ายิปซัม & สีรักษ์โลก’
KFC Thailand ครบรอบ 40 ปี เปิดตัว “แบมแบม กันต์พิมุกต์” 
Friend of KFC คนแรกของประเทศไทย
CMG ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ส่งแบรนด์ FitFlop ลุยตลาดเวียดนาม ปลื้มได้สิทธิ์ผู้แทนจำหน่ายเพียงรายเดียว
‘วิถี 8’ กุญแจสำคัญสร้าง ‘ผู้นำที่ใช่’ พิชิตความท้าทายในโลกธุรกิจยุคใหม่
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved