'ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค' ยกระดับโรงงานสีเขียว ด้วยระบบออโตเมชั่นเต็มรูป
28 Aug 2020

 

'ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค' ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มยอดนิยมภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย เดินหน้ายกระดับการเป็น 'โรงงานสีเขียว' มุ่งมั่นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งโซ่คุณค่า ด้วยหลักการ 3R+1T ยึดมั่นกับการดำเนินงานที่เป็นเลิศ (Monozukuri หรือ Operation Exellence) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยระบบออโตเมชั่น เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเผยโรงงานในไทยเป็น 'ไอดอล' ของโรงงานในเครือระดับโลก

 

เพิ่มศักดิ์ ไกรสรพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายซัพพลายเชนบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด


เพิ่มศักดิ์ ไกรสรพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายซัพพลายเชน บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

'ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค' มุ่งยกระดับเพื่อเดินหน้าสู่การเป็น 'โรงงานสีเขียว' ภายใต้วิสัยทัศน์ Growing for Good ด้วยหลักการ 3R+1T ซึ่งประกอบด้วย Reduce, Reuse, Recycle เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน และ Technologyในการทำงาน โดยเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ 'ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค' มาจากการผลิตจากโรงงานที่เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงจากเยอรมนี ควบคุมการผลิตด้วยระบบออโตเมชั่นเต็มรูปแบบ ด้วยกำลังผลิตสูงสุดถึง 800 ขวด/นาที ที่สำคัญคือเป็นโรงงานระบบปิดตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การขึ้นรูปขวดพีอีที ผสมเครื่องดื่ม บรรจุขวด ปิดฝา ติดฉลาก และการแพ็คบรรจุภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้โรงงานที่มีมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารระดับโลก เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเครื่องดื่มของ 'ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค' สะอาดและปลอดภัย 100 %  

 

ในส่วนของหลักการ 3R นั้น เพิ่มศักดิ์กล่าวว่า "บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มจากการเดินหน้าใช้ขวดพีอีทีที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% และมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีร่วมกับคู่ค้าจนเกิดเป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา (light weight plastic) เพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติกลงสำหรับการผลิตขวดแต่ละขวด แต่ยังคงคุณสมบัติดีตามมาตรฐานบรรจุภัณฑ์

 

 

ทั้งนี้ เป๊ปซี่โค และซันโทรี่ ต่างก็มีวิสัยทัศน์ในการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการใช้บรรจุภัณฑ์ทั่วโลกที่สามารถรีไซเคิล สลายตัว หรือย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100% ภายในปี 2568 และ 2573 ตามลำดับ รวมทั้งเดินหน้าผลักดันให้มีการอนุญาตให้ใช้พลาสติกพีอีที (rPET: Recycled PET) ในการบรรจุอาหารอีกด้วย นอกจากนี้ ยังอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและก่อสร้างโรงงานตามมาตรฐาน LEED ระดับ Silver ด้านการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ หลังคาที่สามารถดูดซับความร้อนได้ดี ทิศทางการตั้งโรงงาน จนถึงการใช้อาคารในการปฏิบัติงานจริง บวกกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ มีการติดตั้งแผงโซล่าเซลส์ ติดตั้งหลอดไฟ LED ประหยัดไฟฟ้า และเทคโนโลยีในสายการผลิตที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กระบวนการผลิตในปัจจุบันสามารถลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังมุ่งพัฒนาเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

 

ด้านทรัพยากรน้ำ โรงงานผลิตเครื่องดื่มของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ได้เลือกใช้เทคโนโลยีในสายพานการผลิตที่ช่วยลดการใช้น้ำ ตัวอย่างเช่น การใช้น้ำไม่เกิน1.5 ลิตรในการผลิตเครื่องดื่ม 1 ลิตร ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกขณะนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีระบบบำบัดน้ำเสีย ที่สูงกว่ามาตรฐานที่นิคมอุตสาหกรรมกำหนด โดยโรงงานได้ควบคุมคุณภาพของน้ำทิ้งที่ปล่อยออกสู่การนิคมฯ ให้มีคุณภาพสูงกว่าคุณภาพของน้ำทิ้งที่การนิคมฯ กำหนด ซึ่งทำให้โรงงานสามารถนำน้ำส่วนหนึ่งที่ได้รับการบำบัดแล้วกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกครั้งในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด อาทิ ใช้ทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์ ใช้รดน้ำต้นไม้ภายในโรงงานส่งผลให้ลดการใช้ทรัพยากรน้ำได้ถึง 35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

 

 


โรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งแรกตั้งอยู่ที่ จ.ระยองมี 9 สายการผลิต  ส่วนโรงงานแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ จ.สระบุรี ปัจจุบันมี 4 สายการผลิต ทั้งนี้ บริษัทยังได้เตรียมงบอีก 1,500 ล้านบาท สำหรับขยายโรงงานในเฟสต่อๆ ไป เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต สำหรับโรงงานที่สระบุรีนั้นมีพื้นที่ 104 ไร่ และขณะนี้ใช้พื้นที่เพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น บริษัทฯ ยังสามารถติดตั้งสายการผลิตได้อีก 4 สายการผลิต


                                    

นอกจากนี้ ในการทำงาน 'ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค' ยังยึดมั่นกับการดำเนินงานที่เป็นเลิศ (Monozukuri หรือ Operation Exellence) ซึ่งมุ่งใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการสร้างสรรค์นวัตกรรมในทุกระดับปฏิบัติการ เป็นผลให้ในปี  2561 โรงงานที่สระบุรีได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 3 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่โรงงานที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ มีการติดตามและประเมินผลเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเป็นรางวัลที่มอบให้กับโรงงานที่ผ่านการตรวจสอบตามเงื่อนไขของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยใบรับรองนี้มีอายุ 3 ปี

 

 

นอกจากนี้ เพิ่มศักดิ์ กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่โรงงานในประเทศไทยเป็น 'ไอดอล' ของโรงงานในเครือระดับโลกว่า

"เมื่อทำการจัดลำดับโรงงานผลิตเครื่องดื่มในเครือซันโทรี่ทั่วโลก โรงงานที่สระบุรีได้รับยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่งทั้งในด้านประสิทธิภาพการผลิต จิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสุขอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา พนักงานและทีมงานของบริษัทยังใส่ใจดูแลชุมชนรอบโรงงาน ด้วยการติดตั้งเครื่องกรองน้ำในโรงเรียน และบริจาคเครื่องดื่มที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน และที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โครงการปลูกป่า ทำนาร่วมกับชุมชนรอบโรงงาน แสดงถึงความใส่ใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและการตอบแทนสังคม ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน”

           

[อ่าน 1,910]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“กรุงไทย” กำไรสุทธิไตรมาส 1/67 จำนวน 11,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เดินหน้าช่วยลูกค้าแก้หนี้ยั่งยืน
SCGC เปิดตัวโมเดล “มหัศจรรย์ชุมชน” มุ่งสร้างอาชีพด้วยหลักพึ่งพาตนเอง โชว์ศักยภาพกลุ่มผู้สูงวัย – สตรี – คนรุ่นใหม่
ใหม่! พบกับ Shell GO+ บน LINE OA ได้แล้ววันนี้ ครบจบในที่เดียว
เอไอเอส ชู พลังจากสุดยอดพันธมิตร ช่องทางจัดจำหน่าย ที่ 1 ตัวจริง
กรุงศรี เผยผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2567 จำนวน 7.54 พันล้านบาท
ไอคอนสยาม ชวนเช็คอินฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ในไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved