เต อ่อง ซีอีโอ บริษัท เอนี่วิล เปิดเผยว่า “ปัจจุบันเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 3 ปี โดยให้บริการใน 3 ประเทศ คือสิงคโปร์ มาเลเชีย และไทย ทางบริษัทต้องการเพิ่มทางเลือกด้านการขนส่งสาธารณะที่สนุกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเข้าถึงง่ายให้กับคนในพื้นที่ ผ่าน ’นวัตกรรม‘ จักรยานที่ออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้ และแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย บริษัท เอนี่วิล ให้การสนับสนุนชุมชนใกล้เคียง โดยเปิดให้พื้นที่ที่ต้องการเข้าร่วม เป็นจุดจอดจักรยานสามารถทำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง และเป็นผู้ดำเนินการจัดหาจักรยานที่มีความทนทาน และปลอดภัยมาให้บริการ
ซีท เรีย เจีย ผู้จัดการทั่วไป เอนี่วิล สิงคโปร์ กล่าวว่า “เอนี่วิลเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจในประเทศไทยในการช่วยสร้างเมืองเชียงใหม่ให้เป็นสมาร์ทซิตี้อย่างแท้จริง โดยได้ตัดสินใจเลือกเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางแห่งแรกของไทย เพราะเล็งเห็นว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก อีกทั้งผู้คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับบริการ bike sharing อยู่ก่อนแล้ว
ช่วงแรกบริษัทได้นำร่องให้บริการในพื้นที่ตัวเมืองโดยปัจจุบันมีจุดจอดจักรยานมากกว่า 150 จุดรอบตัวเมืองเชียงใหม่ และสามารถรองรับผู้ใช้งานได้มากกว่า 6,000 คนต่อวัน นอกจากนี้ ทางเอนี่วิล ยังมุ่งเน้นให้บริการในพื้นที่สถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยได้ติดตั้งจุดจอดจักรยานมากกว่า150 จุด”
การใช้งานจักรยานของเอนี่วิล ผู้ใช้งานเพียงค้นหาจุดจอดจักรยานที่ใกล้ที่สุดจากแผนที่ในแอปพลิเคชันและสแกน QR โค้ดเพื่อปลดล็อกจักรยาน บริการของเอนี่วิล เริ่มต้นที่ 10 บาท ผู้ใช้งานยังสามารถเหมาจ่ายรายเดือนในราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท นับเป็นทางเลือกการเดินทางที่ย่อมเยาและสะดวกสำหรับตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งสถานที่สำคัญต่างๆ นั้นอยู่ห่างกันไม่มาก
ในอนาคตบริษัทจะเดินหน้าพัฒนาแอปพลิเคชันให้ตอบโจทย์กับชีวิตในเมืองยิ่งขึ้น และมีแผนจะต่อยอดไปสู่การให้บริการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการแล้วในสิงคโปร์ และมาเลเชีย เพื่อรองรับการเดินทางในระยะที่ไกลขึ้นสำหรับคนไทย
ธนัท มนัญญภัทร์ ผู้อำนวยการ สายงานการขายและบริหารช่องทางจำหน่าย ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “การใช้ IoT จะทวีบทบาทมากขึ้น รองรับแชร์ริ่งอีโคโนมี โดยใช้ IoT ติดที่อุปกรณ์ ตั้งแต่ รถจักรยาน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยานพาหนะ อื่นๆ ที่จะสามารถนำเสนอบริการ 'ให้เช่าใช้' ได้ เพื่อสร้างรายได้ใหม่และยืดอายุการใช้งานให้คุ้มค่าสูงสุด สอดรับกระแสเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy)
ดีแทคมีส่วนของการให้คำปรึกษาที่จะช่วยดูความเป็นไปได้การลงทุนโครงการ IoT ที่เหมาะสมผ่านพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านส่วนอุปกรณ์การเชื่อมต่อที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานทุกภาคอุตสาหกรรม พร้อมผสมผสานเทคโนโลยีของดีแทค Managed IoT cloud platform และการเชื่อมต่อ IoT SIM บนเครือข่าย 4G ดีแทคมีแพลทฟอร์มการบริหารอุปกรณ์ IoT ที่มีความปลอดภัยสูง โดยใช้ โปรโตคอล MQTTS ที่ใช้แบนด์วิธน้อย และมีการเข้ารหัสข้อมูลด้วย TLS 1.2 จากอุปกรณ์ IoT มายังแพลทฟอร์มของดีแทค”
ดีแทคธุรกิจ ช่วยให้คำแนะนำเอนี่วีล เกี่ยวกับโซลูชันโทรคมนาคมในประเทศ รวมทั้งการออกแบบแพ็กเกจที่ตอบกับความต้องการในราคาที่เหมาะสม โดยทีมดีแทคช่วยดูแลนับตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาต้นแบบ การทดลองระบบ ไปจนกระทั่งการส่งมอบ IoT SIM ชุดแรก จำนวน 1,000 ชิ้น เพื่อนำไปติดตั้งที่ฐานการผลิต และช่วยเป็นที่ปรึกษาที่ดี สำหรับเอนี่วิล การใช้ IoT SIM ของดีแทคธุรกิจช่วยให้การบริหารจัดการเครือข่ายยานพาหนะเป็นไปอย่างแม่นยำ โดยทีมงานของเอนี่วิล สามารถตรวจสอบตำแหน่งของจักรยานแบบเรียลไทม์ เก็บสถิติการใช้งานตามพื้นที่และช่วงเวลาไปจนถึงการคำนวณกิโลเมตรที่ปั่นเอื้อต่อการพัฒนาเครือข่ายการขนส่งสาธารณะแบบไร้รอยต่อ และนำพาเมืองเชียงใหม่ไปสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้ อย่างแท้จริง”
ดีแทค คาดการณ์ว่า COVID-19 จะเร่งการลงทุน IoT ในองค์กรที่ยังมีสถานะการเงินที่พร้อมการใช้งานโครงการ IoT จะช่วยตอบโจทย์การรักษาระยะห่างทางสังคม และการทำงานจากภายนอกสำนักงานได้เป็นอย่างดี สอดรับกับกระแสวิถีความปกติใหม่หรือ นิวนอร์มัล