ทีเอ็มบี เปิดตัว 'Business ONE' ธนาคารดิจิทัลควบคุมธุรกิจได้ในที่เดียว
16 Dec 2020

ทีเอ็มบีพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ 'Business ONE' ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจให้ลูกค้าธุรกิจทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เป็นมากกว่าอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง เชื่อมต่อทั้งเรื่อง financial และ non-financial ควบคุมธุรกิจได้จากที่เดียวตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าธุรกิจทุกขนาดใช้งานง่ายและช่วยลดต้นทุนตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชัน ที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน

 

 

เสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ในประเทศไทยเติบโตสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนไทยซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น 21% และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์สูงขึ้นถึง 93% ลูกค้าธุรกิจก็เช่นเดียวกัน โดยลูกค้าธุรกิจของธนาคารเอง ทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ของทีเอ็มบีเพิ่มขึ้น 50% และลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มขึ้นถึง 100% ในปีที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ลูกค้าจะมีการปรับตัวมาทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งสำหรับลูกค้าธุรกิจของธนาคารส่วนใหญ่ยังมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเข้าหลายระบบเมื่อต้องการทำธุรกรรมหลายประเภท ได้แก่การจ่ายเงินหรือโอนเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อ ล้วนต้องเข้าระบบที่แตกต่างกัน การเข้าใช้งานแต่ละบริการมีหลายขั้นตอน  แบบฟอร์มในระบบดิจิทัลใช้ยาก ใช้เวลานานในการอัปโหลดไฟล์  หรือแม้ว่าจะทำธุรกรรมบนดิจิทัลแล้ว แต่ยังต้องรับ-ส่งเอกสารที่ยังเป็นกระดาษกับคู่ค้าและหน่วยงานภาครัฐ ทีเอ็มบีจึงอยากแก้ปัญหาเหล่านี้

 

Business ONE” ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ พร้อมเป็นผู้ช่วยทางการเงินและการบริหารธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอสเอ็มอี โดยBusiness ONE” ไม่ได้เป็นเพียงอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งที่เป็นเครื่องมือทำธุรกรรมการเงินเท่านั้น แต่เป็น “Digital Business Management Platform” ที่เชื่อมโยงส่วนของ financial และ non-financial เข้าด้วยกันเพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารธุรกิจได้จากที่เดียว ใช้งานง่าย และช่วยธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีลดต้นทุนในการทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ เสนธิป กล่าว

 

 

รัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร นวัตกรรมทางดิจิทัล (ลูกค้าธุรกิจ) ทีเอ็มบี กล่าวเสริมว่า “Business ONE” ถือเป็นนวัตกรรมดิจิทัลที่แตกต่างจากอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งอื่น ๆ  เพราะ 

  • ONE Platform – “Business ONE” ให้ลูกค้าธุรกิจทำทุกธุรกรรมได้ครบจบในระบบเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินหรือโอนเงินให้คู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ ลดปัญหาไม่ต้องจำรหัสเข้าใช้งานหลายระบบ และยังสามารถใช้งานได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเข้าผ่านคอมพิวเตอร์
    แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกัน
  • ONE to Control – “Business ONE” ให้ลูกค้าธุรกิจควบคุมธุรกิจได้ในระบบเดียว ใช้งานง่าย สามารถเลือกออกแบบหน้าจอการใช้งานได้ตามกลุ่มผู้ใช้งาน ทำรายการพร้อมกันได้หลายรายการในครั้งเดียว มีระบบช่วยแนะนำวิธีการโอนหรือจ่ายเงินที่สะดวก รวมถึงการหาข้อมูลทางบัญชีที่รวดเร็ว และหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบจะสามารถประมวลข้อมูลได้เอง และแสดงข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ เป็นการช่วยวางแผนการเงินในอนาคตได้
  • ONE to Command – “Business ONE” เป็นระบบเดียวที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง financial solution ของธนาคาร และ non-financial solutions อื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน HR Management ที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเชื่อมต่อเรื่องการบริหารพนักงานและการจ่ายเงินเดือนเข้าด้วยกัน

 

ธนาคารต้องการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้ใช้งานจริง โดยใช้ลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง นำปัญหาที่ลูกค้าประสบจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งของเราเองหรือจากที่อื่นมาแก้หรือปรับปรุง เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานใหม่ที่ดีกว่าเดิม โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “Business ONE” จะเป็นผู้ช่วยหลักในการบริหารงานของผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยทั่วประเทศอย่างแท้จริง แก้ปัญหาการใช้งานแบบเดิมๆ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัล โซลูชันเพื่อลูกค้าธุรกิจ โดยธนาคารจะทยอยโอนย้ายลูกค้าปัจจุบันขึ้นระบบใหม่นี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป และคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 จะมีลูกค้าธุรกิจที่เป็นนิติบุคคลของทั้งทีเอ็มบีและธนชาต มาใช้งานกว่า 100,000 บริษัท รัชกร กล่าวสรุป

 

ลูกค้าธุรกิจปัจจุบันของธนาคารสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จัดการดูแลความสัมพันธ์ของบริษัทท่านหรือศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ โทร. 02-643-7000 แต่หากบริษัทยังไม่เคยมีบัญชีธุรกิจของธนาคาร สามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ โทร. 02-643-7000 เพื่อแนะนำการสมัครใช้ได้เช่นกัน

 

[อ่าน 2,286]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Brother โชว์ศักยภาพ Domino N730i ดันไทยสู่มาตรฐานใหม่อุตสาหกรรมพิมพ์ ในงาน Labelexpo Southeast Asia 2025
AWC รายงานผลกำไรไตรมาส 1/2568 เติบโต 23% มูลค่าทรัพย์สินพุ่งกว่า 2 เท่า
ไอคอนคราฟต์ ชวนช็อปงานคราฟต์จากกลุ่มคนพิเศษ ในแคมเปญ "The Craft of Sharing" ตั้งแต่วันนี้ - 3 มิ.ย. 68
CKPower เผยกำไรสุทธิ Q1/2568 พลิกเป็นบวกแม้เป็นฤดูแล้ง
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โชว์ผลงาน กำไรไตรมาส1 พุ่ง 57% ทะยานสู่โหมดการเติบโตอย่างเต็มกำลัง
ออร์บิกซ์ ร่วมมือกับ Bitstamp ยกระดับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved