นับตั้งแต่เมียนมาเปิดประตูสู่โลกกว้าง เพื่อปรับตัวเข้าสู่เวทีโลก และเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้เศรษฐกิจของหลายๆ เมืองในเมียนมาเติบโตขึ้นอย่างมาก ก่อให้เกิดการขยายตัวทางการค้า อุตสาหกรรมการผลิต และธุรกิจบริการ ส่งผลต่อความต้องการแรงงานมากขึ้น และนำไปสู่การย้ายถิ่นเข้าเมืองของประชากรในชนบท รวมถึงอิทธิพลของกระแสเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ไหลเข้าสู่ประเทศอย่างมาก ทำให้ชาวเมียนมาต้องปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตจากเดิมไปเป็นในลักษณะสังคมเมืองมากยิ่งขึ้น พฤติกรรมการบริโภคของชาวเมียนมายุคใหม่จึงคล้ายคลึงกับผู้คนในเมืองใหญ่ๆ ในอาเซียน อาทิ กรุงเทพฯ จาการ์ตาและกัวลาลัมเปอร์ เป็นต้น
ไลฟ์สไตล์ชาวเมียนมายุคใหม่
รายได้ที่มีมากขึ้นตามการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ชาวเมียนมายุคใหม่จึงมักต้องการจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์มากกว่าปัจจัยสี่ สำหรับไลฟ์สไตล์ชาวเมียนมายุคใหม่ สรุปดังนี้
นอกจากนี้การซื้อสินค้าออนไลน์ในเมียนมาก็มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นโดยเฉพาะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ชาวเมียนมาหันมาซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้น โดยช่องทางการค้าออนไลน์ยอดนิยมในเมียนมา ได้แก่ Facebook, Shop.com.mm, Barlolo.com, Spree.com.mm และ Baganmart.com
การบริโภคอัญมณีและเครื่องประดับของชาวเมียนมายุคใหม่
แม้ว่าไลฟ์สไตล์ชาวเมียนมายุคใหม่จะเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยแต่ในเรื่องของการแต่งกายนั้นยังเปลี่ยนแปลงไม่มากนักโดยชาวเมียนมาส่วนใหญ่ยังคงสวมโสร่งและนุ่งผ้าซิ่นแต่ก็เริ่มเห็นคนรุ่นใหม่สวมใส่กางเกง และเสื้อผ้าแบบตะวันตกมากขึ้น ในส่วนของการบริโภคอัญมณี และเครื่องประดับของชาวเมียนมายุคใหม่ อาจจำแนกได้ ดังนี้
ซ้าย: ไฮโซเมียนมาเข้าร่วมงานพิธีประกาศเกียรติคุณ ผู้บริจาคเพื่อการกุศลและบำรุงพุทธศาสนา ภาพ: https://www.thebangkokinsight.com/307692/ ขวา: สาวเมียนมารุ่นใหม่วัยทำงาน ภาพ https://www.pinterest.com/pin/714805772085525077/
ทั้งนี้ชาวเมียนมาส่วนใหญ่จะซื้อกับร้านค้าปลีกเครื่องประดับที่ซื้อขายกันมานาน ซึ่งร้านค้าปลีกเครื่องประดับจะกระจายอยู่ตามเมืองสำคัญต่างๆ ของประเทศ โดยบริเวณตลาดสก๊อตเป็นแหล่งค้าอัญมณีและเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองย่างกุ้งและในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าปลีกเครื่องประดับจำนวนมากตั้งอยู่ในย่านถนนและย่านท่องเที่ยวที่สำคัญ
การเข้าสู่ตลาดเครื่องประดับในเมียนมา
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ เมียนมามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจราวร้อยละ 6-8 และมีประชากรที่จัดอยู่ในกลุ่มผู้ที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงระดับสูงเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำลังซื้อที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งพฤติกรรมการบริโภคของคนเมียนมา มีการเปิดรับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และนิยมสินค้านำเข้าหรือแบรนด์เนม ซึ่งปัจจุบันมีแบรนด์เครื่องประดับต่างชาติในตลาดเมียนมาเพียงไม่กี่รายและจากการที่ชาวเมียนมา คุ้นเคยกับสินค้าไทยมาอย่างยาวนาน และชื่นชอบเครื่องประดับไทยด้วยความไว้วางใจในคุณภาพสินค้า รวมถึงดีไซน์ที่มีความสวยงามและประณีต
จึงเป็นโอกาสดีของสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยในการเข้าไปเจาะตลาดเมียนมา ซึ่งผู้ประกอบการไทยอาจเข้าตลาดนี้ ด้วยการเริ่มจากส่งสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายในเมียนมา หรือกลุ่มผู้ค้าชายแดนในประเทศไทย เมื่อเข้าใจพฤติกรรมการบริโภคของชาวเมียนมาเป็นอย่างดีแล้ว และมีเงินทุนมากพอสมควร ก็อาจเข้าไปเปิดร้านค้าปลีกเครื่องประดับในห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากและมีการขยายตัวสูง รวมถึงช่องทางอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยอาจขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือในเมียนมาอย่าง Shop.com.mm เป็นต้น
ทั้งนี้ก่อนเข้าตลาดเมียนมาผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจด้านกฎหมายการค้าภาษีการขนส่งการตั้งราคาที่เหมาะสมและการส่งเสริมการตลาดตลอดจนช่องทางการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ การใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียขยายตลาดสินค้าเครื่องประดับเข้าไปในตลาดนี้โดยการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เน้นการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย
โดยเฉพาะ Facebook ซึ่งเป็นสื่อที่ชาวเมียนมานิยมใช้เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งหากวางแผนกลยุทธ์เจาะตลาดที่ดีและสามารถเข้าสู่ตลาดเมียนมาได้ก่อนคู่แข่งรวมถึงทำให้เครื่องประดับไทยเข้าไปครองใจชาวเมียน มาได้แล้ว จะส่งผลให้สินค้าไทยขยายตัวในตลาดนี้ได้เพิ่มขึ้นในระยะยาว เพราะนิสัยของชาวเมียนมา เมื่อชอบแบรนด์หรือบริษัทใดแล้ว ก็จะซื้อแบรนด์หรือสินค้าของบริษัทนั้นไปอีกนาน
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
>>> https://infocenter.git.or.th <<<