วิกฤติโควิด-19 ที่หลายธุรกิจได้ผลกระทบในเชิงลบนั้น สำหรับบราเดอร์กลับได้รับผลกระทบเชิงบวกโดยเฉพาะจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ทำให้เกิดการทำงานแบบ New Normal ทั้งเรียนและทำงานจากบ้าน (Study from Home / Work from Home) และมีดีมานด์ใหม่ๆ จากโควิด-19 เช่น หน้ากากผ้าแบบ DIY ที่ส่งให้ตลาดพรินเตอร์และจักรเย็บผ้าเติบโตขึ้น อีกทั้งมาจากการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับพลวัตที่เปลี่ยนแปลงในเวลาอันรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ 3C +SR นั่นคือการโฟกัสกับ Customer, Channel, Company (ลูกค้า, ช่องทาง, บริษัท) พร้อมกับการปรับรูปแบบการทำงานที่เน้น Speed, Resilience (ความเร็วและความยืดหยุ่น) เข้ามาเสริมด้วย
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการปรับตัวกับความท้าทายครั้งสำคัญอย่างวิกฤติโควิด-19 ด้วยกลยุทธ์ 3C +SR ว่า "เพื่อให้บราเดอร์พร้อมทำงานได้อย่างฉับไว สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์รองรับความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นเพราะภาพรวมตลาดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วการทำงานจึงต้องเปลี่ยนรูปแบบสู่ Customize มากยิ่งขึ้น”
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด
ตั้งเป้าโตปีนี้ 8%
สำหรับปีงบประมาณ 2564 บราเดอร์ตั้งเป้าเติบโต 8% ด้วยการปรับยุทธศาสตร์แบบ 'คิดใหม่ ทำใหม่' ด้วยการปักหมุดยุทธศาสตร์ที่เหนือกว่าการขายสินค้า หากแต่เป็นการเดินหน้าสร้างอาชีพใหม่ที่สามารถสร้างรายได้และเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อาชีพเดิมของลูกค้าในปัจจุบันด้วยเช่นกันสิ่งนี้ทำให้บราเดอร์ยังเติบโตได้ แม้ต้องเจอกับวิกฤติระดับโลก ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพ ปรับกลยุทธ์ขยายธุรกิจสู่กลุ่มตลาดใหม่ พัฒนาศักยภาพสินค้า เพิ่มช่องทางขาย เสริมกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุ พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีพร้อมรองรับงานบริการควบคู่กับการก้าวสู่ Green Office สำนักงานสีเขียว
ธีรวุธ กล่าวว่า “สินค้าหลักอย่างเครื่องพิมพ์ก็มีอัตราเติบโตจากการปรับการทำงานสู่โมเดล Work from Home หรือ Work from Anywhere ทำให้ตลาดต้องการเครื่องพิมพ์ขนาดย่อม เพื่อให้พนักงานใช้ทำงานได้ที่บ้าน หรือแม้กระทั่งการเรียนออนไลน์ หรือการเกิดใหม่ของธุรกิจขนาดเล็กที่หลายคนไม่คาดคิด ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ จักรเย็บผ้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงสุดเช่นกัน รวมถึงเครื่องพิมพ์ผ้ารุ่น GTX ที่สร้างอัตราการเติบโตสูงถึง 30% หรือแม้แต่เครื่องเสียงคาราโอเกะ BMB ก็สามารถขยายตลาดสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ได้ด้วย นับเป็นอีกก้าวที่ท้าทายที่บราเดอร์ตั้งใจพัฒนาเพื่อเติบโตในตลาดใหม่”
บราเดอร์ คาดว่าปี 2564 ตลาดเครื่องพิมพ์ยังคงมียอดขายรวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา “โดยภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์จะเติบโตในทุกเซ็กเมนต์ และอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับอานิสงส์ คือ จักรเย็บผ้าที่มียอดขายสูงขึ้นถึง 20% ในปีงบประมาณ 2563 และอัตราการเติบโตก็ปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพิ่มจากการทำหน้ากากผ้ามาเป็นงาน DIY เพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพหลัก หรือทำเป็นอาชีพเสริม โดยบราเดอร์จะเน้นเป็นการขายสินค้าเพื่อการลงทุนเพื่อให้เกิดรายได้ให้ลูกค้าทราบถึงวิธีการทำธุรกิจ โดยใช้สินค้าของบราเดอร์ และชี้ช่องทางให้สามารถทำธุรกิจด้วยตนเอง เพื่อช่วยลดปัญหาการว่างงานที่เกิดจากวิกฤติโควิด -19 โดยในปี 2564 บราเดอร์จะเน้นสร้างการเติบโตทั้ง Personal Use ที่ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบราเดอร์ เพื่อเป็นงานอดิเรกหรือใช้เพื่อทำธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กและกลุ่ม Business Use ที่นำไปใช้ทำธุรกิจเต็มรูปแบบ” ธีรวุธ กล่าว
ณเอก สงศิริ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด
แผนรบ 'ขยาย - พัฒนา - สื่อสาร'
แผนรบปีงบประมาณ 2564 ของบราเดอร์วางบน 3 คีย์เวิร์ด 'ขยาย - พัฒนา - สื่อสาร'
ทั้งนี้ ณเอก สงศิริ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง 3กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจว่า ประกอบด้วย EDC (Expansion, Develop, Communication)
1. Expansion (การขยาย)
2. Develop (การพัฒนา)
3.Communication (การสื่อสาร)
ย้ำภาพเบอร์ 1 ด้านงานบริการ
ในปีที่ผ่านมาบราเดอร์ได้พัฒนาระบบให้รองรับการทำงานแบบ Work from Home พร้อมเพิ่มบริการผ่าน Live Chat ที่สามารถตอบแชตลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและให้บริการได้เกินความคาดหมายของลูกค้า สร้างความสะดวกยิ่งขึ้นเสริมจากบริการพื้นฐานของ Brother Contact Center ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
วรศักดิ์ ประดิษฐ์กุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ วรศักดิ์ ประดิษฐ์กุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บราเดอร์ได้พัฒนาแชตบอทให้สามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างแม่นยำ เพื่อใช้เป็นด่านแรกที่ติดต่อกับลูกค้า หากกรณีที่ลูกค้าขอคำปรึกษามีความซับซ้อน ระบบจะโอนการสื่อสารไปยังพนักงาน Brother Contact Center ทันทีโดยในอนาคต บราเดอร์ต้องการให้ปริมาณการรับบริการผ่านแชตและแชตบอทมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นช่องทางที่เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และสะดวกสบายกว่า และยังส่งข้อมูลที่มีความหลากหลายทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอลิงก์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่า หากมีการให้คำแนะนำลูกค้าอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้อัตราการแชตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเป้าที่ตั้งไว้"
ล่าสุด บราเดอร์ ได้ผ่านการรับรองคุณภาพการให้บริการ SQI ระดับ Gold จากสถาบัน Service Quality Institution และความสำเร็จดังกล่าวจะถูกถ่ายทอดไปสู่ศูนย์บริการแต่งตั้งของบราเดอร์ต่อไป พร้อมพัฒนาศูนย์บริการให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ ด้านเพื่อก้าวสู่ระดับ Platinum ต่อไป ซึ่งนอกจากจะต้องคงคุณภาพงานบริการให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอแล้วนั้น ยังต้องต่อยอดด้วยการนำฐานข้อมูลที่มีมาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความเหนือกว่ามาตรฐานบริการทั่วไปที่ได้รับในปัจจุบัน พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แก่ลูกค้าด้วยการเข้าเยี่ยมเป็นประจำเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาในส่วนงานบริการในอนาคต
บราเดอร์ มั่นใจประสิทธิภาพงานบริการในปัจจุบันยังรองรับการขยายตัวทางธุรกิจได้อย่างดี ด้วยปริมาณศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 141 แห่ง ประกอบกับการทุ่มงบวางระบบเทคโนโลยีอันทันสมัย รวมถึงการพัฒนาทักษะด้านงานบริการของทีมเป็นประจำทุกเดือน ทำให้บราเดอร์พร้อมรองรับการเติบโตขององค์กรได้อย่างมีศักยภาพ
“บราเดอร์ ได้พัฒนาโปรดักท์ด้านงานบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในช่วงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม อาทิ ‘Brother Care Express’ ซึ่งมีทีมบริการเข้าไปรับสินค้าที่ต้องการส่งซ่อม และเมื่อซ่อมเสร็จก็จะส่งคืนให้แก่ลูกค้าเพื่อลดความเสี่ยงช่วงโควิด -19 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้ารวมถึง Brother Care Pack บริการเสริมต่อระยะเวลาดูแลหลังการขาย เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าในแต่ละประเภท เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไปที่มีสัดส่วน 80:20 และมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยในปี 2564 เราจะเพิ่มบริการให้กับลูกค้าที่มาส่งซ่อมและไม่สะดวกในการรับเครื่องกลับด้วยบริการเดลิเวอรี่”
รัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
รัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด
“นอกจากนี้ บราเดอร์ ยังเดินหน้าพัฒนาแชตบอท เพื่อพร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงโดยแชตบอทที่ได้รับพัฒนานั้นจะรองรับได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ และสามารถ interface ร่วมกับโซเชียลมีเดียได้ด้วย เพราะบราเดอร์รองรับการติดต่อจากลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกันจึงทำออกมาเพื่อครอบคลุมในทุกช่องทาง เช่น การตอบโทรศัพท์ การตอบอีเมล การตอบแชต เป็นต้น” รัสสิญากร กล่าวเสริม
“บราเดอร์ ยังได้เพิ่มเติมส่วนงานบริการหลังการขายที่จะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าและกลุ่มลูกค้า เช่น บริการ Manage Print Service (MPS) บริการจดมิเตอร์การใช้งานหรือการจัดส่งและเปลี่ยนวัสดุการพิมพ์ (โทนเนอร์) บริการหลังการขายยังเพิ่มไปที่ไลน์สินค้าอื่นๆ อาทิ ชุดเครื่องเสียงคาราโอเกะ BMB และเครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัลรุ่น GTX พร้อมสานต่อโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพแก่เยาวชนในโครงการ The Academic Cooperation Programโดยในปี 2564 ถือเป็นปีที่ 4 ของการจัดทำโครงการดังกล่าว ซึ่งบราเดอร์จะเดินหน้าพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ เช่น ด้านการซ่อมเครื่องให้แก่เยาวชนให้ได้เกิดประสบการณ์จริงโดยเน้นไปที่กลุ่มอาชีวะเป็นหลัก” รัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ อธิบายเพิ่มเติม
เพราะผู้ป่วยมะเร็งรอไม่ได้ บราเดอร์ ปรับรูปแบบงานวิ่งระดมทุนช่วยผู้ป่วย รพ.รามาฯ
“ตลอด 7 ปีที่บราเดอร์จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษามอบแก่มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทุนมะเร็งโลหิตวิทยาผู้ใหญ่ โรงพยาบาลรามาธิบดี เงินสนับสนุนดังกล่าวสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ถึง 428 ราย และจากจุดเริ่มที่นำทุนดังกล่าวไปใช้ในการซื้อยาเพื่อใช้ในการรักษา
ปัจจุบันได้ขยายผลไปถึงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกให้แก่ผู้ป่วย 3 ราย” พรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและธุรการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลการดำเนินงานของโครงการใน 7 ปีที่ผ่านมา “ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ได้รับการสนับสนุนทุนช่วยเหลือมาร่วมวิ่งต้านมะเร็งร่วมกับเราทำให้บราเดอร์รู้ว่าวันนี้เราเดินมาถูกทาง เราสามารถสร้างให้คนตระหนักอย่างลึกซึ้งที่จะเป็นหนึ่งในผู้ให้เพื่อมอบโอกาสในการมีชีวิตให้แก่คนอีกหลายคนบนโลกใบนี้ที่แถบไม่เหลือความหวัง”
พรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงินและธุรการ บริษัทบราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด
บราเดอร์ประเทศไทยคว้ารางวัล Environment Award 2020 จากโครงการ ‘บราเดอร์อาสาอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติป่าชายเลน’ ต่อเนื่องตลอด 11 ปี จากสำนักงานใหญ่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเดินหน้าสู่ GreenOffice หรือสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยในปี 2563 สามารถคว้ารางวัล Silver Award มาครองได้สำเร็จ พร้อมกำหนดเป้าหมายในปี 2564 ด้วยการคว้ารางวัล Gold Award
“สิ่งแรกที่บราเดอร์ทำมาตลอดคือการปลูกจิตสำนึกของคนในองค์กรให้เห็นถึงความสำคัญของสังคมและสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่การเป็น Green Office สร้างให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมในสำนักงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน และริเริ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ลดปริมาณขยะโดยการลดการใช้ การใช้ซ้ำ การนำกลับมาใช้ใหม่ การลดและเลิกใช้สารเคมีอันตราย รองรับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Procurement) จะส่งผลให้เกิดการลดการปล่อย Green House Gases (GHG) ในทุกภาคส่วน และตลอดห่วงโซ่การผลิตและการบริโภค อันนำไปสู่การผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
พรภัค อุไพศิลป์สถาพร กล่าวถึงแผนการก้าวสู่การเป็น Green Office ขององค์กร “ด้านการส่งเสริมจิตสำนึกสาธารณะแก่พนักงาน บราเดอร์ขึงเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการนำเสนอโครงการเพื่อสังคมใหม่ๆ สร้างความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และหากผ่านการพิจารณาบริษัทฯ ก็จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้พนักงานได้นำไปทำกิจกรรมตามรายละเอียดโครงการ”
·