กลุ่มเซ็นทรัลเผยผลประกอบการปี 59 ด้วยยอดขาย 332,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น อัตราการเจริญเติบโต 17.2 % (เทียบกับปี 2558 มียอดขาย 283,450 ล้านบาท) พร้อมใช้งบการลงทุน 39,000 ล้านบาท ปี 59 ที่ผ่านมานี้เซ็นทรัลทั้งลงทุนเปิดสาขาใหม่ รีโนเวท คอนโด โรงแรม และควบรวมกิจการ

โครงการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าที่ได้ปรับปรุงในประเทศไทยมีทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซา บางนา, เซ็นทรัล มารีนา พัทยา, แพลตฟอร์ม วงเวียนใหญ่ (เดิมเป็นเซ็นทรัล ลาดหญ้า) รวมถึงห้างสรรพสินค้าในยุโรปอีก 4 แห่ง อิลลุม กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก, อัลสแตร์เฮาส์ เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน, โอเบอร์โพลลิงเกอร์ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน และคาเดเว กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน

โครงการใหม่ที่มีการเปิดตัวมีอยู่ 2 โครงการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือน ก.ค. 59 และห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขานครศรีธรรมราช เมื่อเดือน ก.ค. 59

ในปี 2559 ที่ผ่านมา เซ็นทรัลได้ทำการปัดฝุ่นโครงการคอนโดมีเนีนมที่ได้ทิ้งนานไปกว่า 20 ปี ได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม “Escent” เป็นการบริหารงานภายใต้บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ทำการเปิดทั้งหมด 3 แห่ง สเป็นการเปิดคู่กับศูนย์การค้าของเซ็นทรัลเอง ได้แก่ เอสเซ็นท์ เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล มี 26 ชั้น จำนวนห้องพัก 400 ยูนิต, เอสเซ็นท์ ระยอง ตั้งอยู่บนถนนสายบ้านหนองมะหาด-บ้านชายกะป่อม ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาระยอง มี 25 ชั้น จำนวนห้องพัก 419 ยูนิต และเอสเซ็นท์ ขอนแก่น ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น มี 24 ชั้น จำนวนห้องพัก 408 ยูนิต

เปิดโรงแรมใหม่ ภายใต้เครือเซ็นทารา ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา มารีส รีสอร์ท จอมเทียน ทั้งหมด 282 ห้อง, โรงแรมเซ็นทารา อาซัวร์ พัทยา ทั้งหมด 96 ห้อง และโรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ภูพาโน รีสอร์ท กระบี่ ทั้งหมด 158 ห้อง

รวมทั้งมีบิ๊กดีลที่เป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์กับการควบรวม 2 กิจการยักษ์ใหญ่ เป็นธุรกิจทั้งในไทย และเวียดนาม ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เวียดนาม และซาโลร่า (Zalora) อีคอมเมิร์ซด้านแฟชั่น เป็นการรุกตลาดออนไลน์อย่างเต็มสูบ

เปิดแผนปี 60

โดยที่เป้าหมายทางธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลในปี 2560 ได้วางงบการลงทุน 45,534  ล้านบาท มีการตั้งเป้ายอดขายและรายได้ราว 382,200 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 14.9% ขยายการลงทุนทั้งในและนอกประเทศ เปิดศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้า และแบรนด์ใหม่

พร้อมชูยุทธศาสตร์ Digital Centrality เชื่อมโยงลูกค้าผ่านโลกออนไลน์และออฟไลน์ที่ไร้รอยต่อ พัฒนาออนไลน์ แพลตฟอร์ม และ ประสบการณ์ออมนิแชแนลของกลุ่มเซ็นทรัลในฐานะผู้นำในตลาดค้าปลีก เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ในปี 2560 จะมีการเปิดศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้ารวม 6 แห่งด้วยกัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา นครราชสีมา เปิดวันที่ 28 ก.ค.60 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา มหาชัย เตรียมเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2560

โรบินสัน 3 แห่ง โรบินสัน จ. สมุทรสาคร (ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย), โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ จ.เพชรบุรี  โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ จ.กำแพงเพชร  ท็อปส์ พลาซา 2 แห่ง ท็อปส์ พลาซา พิจิตร และท็อปส์ พลาซา พะเยา

รวมถึงห้างหรูในอิตาลี เตรียมเปิดห้างสรรพสินค้าลารินาเชนเต กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในเดือนกันยายน 2560 ห้างนี้จะกลายเป็นแฟลกชิพสโตร์ของงลา รีนาเชนเต

ธุรกิจโรงแรมมีการเปิดโรงแรมใหม่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศรวม 4 แห่ง โรงแรมปาร์ค ไฮแอท, โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เวสต์เบย์ เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ กำหนดเปิดไตรมาสที่ 2 ปี 2560 จำนวนห้อง 357 ห้อง, โรงแรมเซ็นทารา มัสกัต ประเทศโอมาน กำหนดเปิดไตรมาสที่ 2 ปี 2560 จำนวนห้อง 154 ห้อง และโรงแรมโคซี่ เฉวง จังหวัดสมุย กำหนดเปิดไตรมาสที่ 3 ปี 2560 จำนวนห้อง 151 ห้อง

โครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ เชียงราย 312 ยูนิต, เชียงใหม่ 470 ยูนิต และโคราช 380 ยูนิต

และธุรกิจร้านค้าปลีกอื่นๆ กว่า 520 ร้าน มีการตั้งเป้าร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อมากกว่า 350 ร้าน, ร้านค้าเฉพาะทาง มากกว่า 100 ร้าน และร้านอาหาร มากกว่า 70 ร้าน

ในงบ 45,000 ล้านบาท สัดส่วน 30% ใช้กับการรีโนเวทโครงการ มีการปรับปรุงและขยายตัวครั้งใหญ่ของศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า 4 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์,เซ็นทรัล พลาซา พระราม 3, ห้างสรรพสินค้าลา รีนาเชนเต เมืองตูริน และโอเพ่น เฮาส์ ชั้น 6  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี 

Digital Centrality รุกดิจิทัลเต็มที่

ในปีนี้เป็นปีที่เซ็นทรัลให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านดิจิทัล และออนไลน์อย่างเต็มที่มากกว่าปีอื่นๆ ได้ทุ่มงบกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามยุทธ์ศาสตร์ใหม่ของกลุ่มเซ็นทรัล ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงลูกค้าบนโลกดิจิตอล เข้าถึงในทุกมิติ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้า

มีการลงทุนพัฒนาออนไลน์ แพลตฟอร์ม เพื่อให้เป็น Omni Channel ของกลุ่มเซ็นทรัลที่เชื่อมโยงระหว่างออนไลน์ และออฟไลนืให้เป็นกลุ่มเดียวกัน

มี 7 กลยุทธ์ในการเข้าสู่ DIGITAL CENTRALITY

-              สร้างวัฒนธรรมการให้บริการโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

-              ดำเนินแผนการตลาดและการสื่อสารในรูปแบบใหม่

-              เพิ่มศักยภาพบุคลากรทางด้านดิจิตอล

-              ใช้ศักยภาพที่แข็งแกร่งของทั้งกลุ่ม

-              รวมศูนย์และใช้ศักยภาพด้านการบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้เซ็นทรัลเป็นไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ที่ทุกคนต้องมา

-           พัฒนา online platform ที่ดีที่สุดในโลก พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีผ่านช่องทาง Omnichannel 

-            เพิ่มคุณค่าของสินค้าและบริการแบบใหม่ให้ลูกค้าประทับใจสูงสุด

พร้อมทั้งใช้พลังของ เดอะ วัน การ์ด ที่มีฐานข้อมูลลูกค้ารวม 11.3 ล้านให้เป็นประโยชน์ ในอนาคตจะเปลี่ยนชื่อเป็นเซ็นทรัล เดอะวัน เครดิตการ์ด โดยรวมบัตรเครดิตเซ็นทรัล และบัตรเดอะวันการ์ด เข้าไว้ด้วยกันในบัตรเดียว สามารถใช้เป็นส่วนลด และสะสมคะแนนแลกสิทธิพิเศษในทุกกลุ่มธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล ทั้งในและต่างประเทศ