เพราะพนักงานคือหัวใจสำคัญ มองภาพ ‘สิทธิแรงงาน’ ในยุคโควิด-19
30 Apr 2021

ในวันแรงงานสากล วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 หรือวันเมย์เดย์ ดีแทคเราขอร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันนี้ ในฐานะที่เราเป็นองค์กรที่ดูแลพนักงานหลายพันคน บนหลักการสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นการยกย่องและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของแรงงาน บทความนี้ถ่ายทอดเรื่องราวให้เห็นความก้าวหน้าและความพยายามในการพัฒนาทั้งในคุณภาพ ความเป็นอยู่ ตลอดจนสิทธิอันชอบธรรมที่พนักงานสมควรจะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง  เพื่อในท้ายที่สุด ดีแทคจะมีพนักงานที่มีความสุข ได้รับการส่งเสริมโอกาสในการเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน ไปพร้อมๆ กับการมีสวัสดิภาพในการทำงาน เพื่อพร้อมทำงานด้วยความทุ่มเท มุ่งไปสู่เป้าหมายการเติบโตของดีแทคอย่างมั่นคง และยั่งยืน

 

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้คนในสังคมต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) การสื่อสารด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมให้ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น

 

ในโมงยามแห่งวิกฤต ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริการการสื่อสาร คือ บุคลากรและเจ้าหน้าที่จากหลากหลายแผนกที่ร่วมกันสร้างสรรค์ (create together) นวัตกรรมและให้บริการอย่างเต็มที่ เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม ดีแทคขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองความสำคัญของบุคลากรทุกคน ที่เดินหน้าเชื่อมต่อสังคมไทยกับทุกสิ่งที่สำคัญอย่างไม่มีสะดุดแม้ในยามวิกฤต

 

 

แนวหน้ากับความเสี่ยงยุคโควิด-19

ประทีป ยิ่งยงค์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานโครงข่ายภาคสนาม เล่าว่า เนื้องานของเขาคือการติดตั้งดูแลโครงข่ายตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ห้องทำงานของเขาคือพื้นที่ภาคสนาม ซึ่งเขารับผิดชอบพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

ด้วยการทำงานภาคสนาม ทำให้ประทีปต้องเผชิญกับความเสี่ยงอยู่บ้าง โดยเฉพาะการดูแลโครงข่ายที่อยู่นอกเมืองซึ่งอาจตั้งอยู่บริเวณท้องนาหรือป่ารกชัฏ ทำให้อาจต้องเผชิญกับอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลาน แต่ดีแทคก็มีการกำหนดหลักปฏิบัติซึ่งสอดคล้องกับสิทธิแรงงานไว้อย่างชัดเจน เช่น พนักงานต้องสวมใส่รองเท้านิรภัยในระหว่างปฏิบัติงาน และไม่ออกปฏิบัติงานหลัง 6 โมงเย็นเว้นเสียแต่เป็นเหตุฉุกเฉินเท่านั้น

 

ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประทีปและทีมงานจำเป็นต้องเดินทางไปปฏิบัติงานในพื้นที่สีแดง ทำให้การปฏิบัติงานต้องมีความรัดกุมยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทมีการออกนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกเรื่องอุปกรณ์อย่างหน้ากากอนามัย ถุงมือ เจลแอลกอฮอล์ และชุด PPE ตลอดจนการตรวจโรคหากเผชิญกับความเสี่ยง

 

 

“แน่นอนการเข้าทำงานในพื้นที่เสี่ยง เราต้องมีความกังวลอยู่แล้ว แต่ด้วยมาตรการและการสนับสนุนต่างๆ จากบริษัท ทำให้คนหน้างานอย่างผมทำงานได้อย่างสบายใจ ที่สำคัญ มันเป็นคุณค่าทางใจที่ได้ช่วยเหลือให้บุคลากรทางการแพทย์มีบริการทางการสื่อสารไว้ทำงาน และติดต่อกับคนที่เขารักได้ในยามวิกฤตเช่นนี้” ประทีปเล่า

 

ในฐานะ พนักงานบริการลูกค้าประจำ dtac hall สาขาจามจุรี วราภรณ์ เฮงหวาน ต้องเผชิญหน้ากับผู้คนหลากหลายในแต่ละวัน ซึ่งเธอยอมรับว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พนักงานด่านหน้าหรือ frontline worker นั้นต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยแนวปฏิบัติและการสนับสนุนของบริษัท ทำให้เธอและเพื่อนๆ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ทั้งหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ถุงมือ และฉากกั้น รวมทั้งประกันโควิด-19 ที่เพิ่มเติมเข้ามา

 

“แม้หน้าที่ของเราจะไม่สามารถปฏิบัติงานจากที่บ้านได้ แต่มาตรการและนโยบายต่างๆ ของบริษัท ก็ทำให้เรามั่นใจในการทำงานมากขึ้น สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มร้อย ไม่มีความกังวล” วราภรณ์กล่าว

 

ทั้งนี้ ในปัจจุบันส่วนงานบริการลูกค้านั้นมีการบังคับใช้นโยบายแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ทีม เพื่อลดความหนาแน่นในสถานที่ทำงาน โดยสลับกันให้บริการลูกค้าระหว่างช่องทางหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ คือ Line@ และเพจเฟซบุ๊กประจำสาขา

 

 

สิทธิแรงงาน: รากฐานขององค์กรที่แข็งแกร่ง

นาฎฤดี อาจหาญวงศ์ หรือ ‘พี่กุ้ง’ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคลของดีแทค เน้นย้ำว่าการที่องค์กรจะสามารถเดินหน้าได้ หัวใจสำคัญคือบุคลากร “ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรามีนโยบายหลากหลายในการดูแลพนักงาน โดยสะท้อนผ่านโครงการและสวัสดิการต่างๆ นับตั้งแต่สิทธิวันลาพื้นฐาน ประกันสุขภาพ ไปจนถึงสวัสดิการพิเศษอย่างการให้สิทธิลาคลอดกับพนักงานหญิง 6 เดือน เรามองว่าสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ถือเป็นหลักประกันและรากฐานที่สำคัญของหลักสิทธิแรงงาน อันจะนำมาซึ่งความแข็งแกร่งขององค์กร แม้ในยามวิกฤติโควิด-19” พี่กุ้งอธิบาย

 

ภายใต้สถานการณ์ปกติ ดีแทคได้มีการประกาศใช้วิถีการทำงานแบบยืดหยุ่น (flexible work) อย่างถาวรมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 โดยมีจำนวนพนักงานที่เข้ามาทำงานที่ดีแทคเฮาส์เฉลี่ยเพียง 30% ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดพบว่าพนักงานกว่า 90% รู้สึกพอใจและยังคงต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน ทั้งจากที่บ้านและที่สำนักงานต่อไป

 

“สิทธิแรงงานในยุคหลังโควิด-19 จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องด้วยคุณค่าของการทำงานที่เปลี่ยนไป ความยืดหยุ่นและการทำงานจากที่ใดก็ได้กำลังกลายเป็นความปกติใหม่ ซึ่งถือเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับงานบริหารทรัพยากรบุคคล ผู้นำจึงต้องให้อำนาจและอิสระพนักงานมากขึ้นในการตัดสินใจ เพื่อให้ทุกคนสามารถทำตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้อย่างยืดหยุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็ชัดเจนในเรื่องเป้าหมายและการวัดผล ซึ่งที่ดีแทคเราเรียกสไตล์การบริหารงานแบบนี้ว่า ‘tight-loose-tight’” พี่กุ้งกล่าว

 

 

ในส่วนของการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ดีแทคได้ดำเนินการตามหลักการจัดการภายใต้วิกฤตและการวางแผนความต่อเนื่องของธุรกิจ (business continuity planning) นับตั้งแต่การแบ่งพนักงานออกเป็นทีม A และทีม B โดยให้แต่ละทีมสลับเข้ามาทำงานในสัปดาห์ที่ตรงกับคิวของตนเอง ไปจนถึงการกำหนดจำนวนบุคลากรให้เข้ามาทำงานที่สำนักงานได้ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ในยามที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อนั้นพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งได้จัดทำประกันโควิด-19 เป็นกรณีพิเศษให้กับพนักงานทุกคนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพิ่มเติมจากแผนประกันสุขภาพซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วย

 

นอกจากมาตรการป้องกันในเชิงกายภาพแล้ว ดีแทคยังได้จัดทำคอร์สอบรมโดยบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจพนักงานเกี่ยวกับเชื้อโควิด และการฝึกใช้อุปกรณ์ป้องกันอย่างถูกวิธี โดยที่ผ่านมา ทางบริษัทมีการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่ออัปเดตสถานการณ์และเน้นย้ำให้พนักงานระมัดระวังตนเองอยู่เสมอ

 

ขณะเดียวกัน การรักษาสุขภาพใจของพนักงานให้แข็งแรงนั้นถือเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญซึ่งที่ผ่านมาดีแทคได้จัดให้มีบริการสายด่วนสุขภาพจิตโดยพนักงานสามารถโทรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญและจิตแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

“ดีแทคเป็นองค์กรที่ยึดถือหลักธรรมาภิบาลเคร่งครัด อันเป็นไปตามกฎหมายไทยและมาตรฐานสากล เราดำเนินธุรกิจอย่างมีความหมาย เพื่อให้การดูแลลูกค้าและพนักงานของเราอย่างดีที่สุด เราเชื่อว่า การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของบริษัท และท้ายที่สุดแล้วจะทำให้เราสามารถดูแลบุคลากรของเราได้เป็นอย่างดี แม้ในยามวิกฤต” พี่กุ้งทิ้งท้าย

[อ่าน 1,950]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
IC! Berlin รุกรีแบรนด์ ปักธงไทยฐานสำคัญอันดับ 2 ของโลก เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ครั้งแรกในไทย
“ฮิคินิคุ โตะ โคเมะ” ตัวจริงเรื่องแฮมเบิร์ก เตรียมเปิดสาขา 2! พร้อมเผยซอสใหม่สูตรพิเศษที่แรกในเอเชีย
จากเรื่องเล็กๆ บนโต๊ะอาหาร สู่อีกหนึ่งความทรงจำ ที่คุณจะ ‘คิดถึงแต่เรื่องดีๆ เข้าไว้’
กลุ่มบริษัทเอไอเอ ประกาศผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก 2568 มูลค่าธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14
“เอส โคล่า” มอบรางวัลทีมแชมป์ “est Cola Cheering Dance Contest”
ซัมซุง–กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สานต่อความร่วมมือปีที่ 8
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved