เซ็นทรัลพัฒนา เผยไตรมาส 1 ปี 2564 รายได้รวม 9,528 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,835 ล้านบาท
18 May 2021

 

  • ดำเนินมาตรการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งลูกค้า ร้านค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชน และผู้ถือหุ้น
  • ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน เพื่อให้สถานการณ์ฟื้นตัวให้เร็วที่สุด
  • ลงทุนต่อเนื่องเพื่อสร้างเมืองและพัฒนาประเทศ เตรียมเปิดเซ็นทรัล ศรีราชา และอยุธยา ปีนี้ และเซ็นทรัล จันทบุรี กลางปี 2565 และดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ทยอยเปิดปี 2566-67 เป็นต้นไป ตามแผนที่วางไว้

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ “CPN” รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไร ท่ามกลางสถานการณ์อันท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด19 โดยไตรมาสที่ 1 ปี 2564 มีรายได้รวม 9,528 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,835 ล้านบาท สะท้อนถึงฐานะการเงินที่แข็งแกร่งจากการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนอย่างมืออาชีพ และยังคงดูแลช่วยเหลือผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังประกาศเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนที่วางไว้ ได้แก่ เซ็นทรัล อยุธยา และ เซ็นทรัล ศรีราชา ที่เตรียมเปิดภายในปีนี้ และเซ็นทรัล จันทบุรี กำหนดเปิดภายในกลางปี 2565

 

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“สำหรับไตรมาส 1 ปี 2564 เซ็นทรัลพัฒนายังคงรักษาความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรได้ท่ามกลางสภาวะที่โรคโควิด 19 ยังคงแพร่ระบาดอยู่ โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 9,528 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,835 ล้านบาท แม้ว่าผลการดำเนินงานจะมีรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำและผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงินใหม่ จึงทำให้รายได้และกำไรลดลง 17% จากปีก่อนทั้งคู่ แต่ในภาพรวมนั้นบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นมืออาชีพ โดยดำเนินมาตรการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ประกอบกับการลดต้นทุนในการดำเนินงาน และควบคุมค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายทางการตลาด เพื่อรักษาสภาพคล่องของกระแสเงินสด และเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

อีกทั้งปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน และยังคงให้ความช่วยเหลือผู้เช่า ร้านค้าในศูนย์ฯ โดยจัดแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ และการเพิ่มช่องทางการขายให้ผู้เช่าแบบ Omnichannel เช่น บริการ Chat & Shop และ Take Away Delivery นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็ก (SME) กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 โดยการเปิดพื้นที่ฟรีให้จำหน่ายสินค้า ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่ปกติดี”

 

จากการที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 รอบใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา เซ็นทรัลพัฒนายังคงให้การดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ร้านค้า ผู้เช่า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชน ผู้ถือหุ้น และกลุ่มอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนาได้ร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดเตรียมพื้นที่ในศูนย์การค้าสำหรับการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงมากที่สุด เพื่อให้สถานการณ์ฟื้นตัวได้อย่างไวและการใช้ชีวิตของประชาชนกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น รวมทั้งได้วางแผนจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ส่งเสริมให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯยังคงเดินหน้าลงทุนพัฒนา 3 โครงการบิ๊กมิกซ์ยูส ได้แก่ เซ็นทรัล อยุธยา และ เซ็นทรัล ศรีราชา ที่เตรียมเปิดภายในสิ้นปีนี้ และเซ็นทรัล จันทบุรี ที่เตรียมเปิดภายในกลางปี 2565 โดยเราตั้งเป้าให้ทั้ง 3 บิ๊กมิกซ์ยูสนี้ช่วยต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐในอนาคต ยกระดับเมืองศักยภาพสูงทั้ง 3 จังหวัด ทั้งด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สร้างอัตราการจ้างงาน และช่วยให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวดีขึ้นได้ โดยทั้ง 3 โครงการนี้จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และชูอัตลักษณ์ของจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) บนทำเลทอง “ซุปเปอร์คอร์ ซีบีดี” ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2566-2567 เป็นต้นไป อีกด้วย”

 

ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา บริหารจัดการศูนย์การค้า 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร  (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 18 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์อาหาร 30 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง โครงการที่พักอาศัยอีก 18 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT  VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL PAHOL 34 และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN พิษณุโลก (ทาวน์โฮม) นินญา กัลปพฤกษ์ (บ้านแฝด) โครงการนิยาม บรมราชชนนี (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ นีรติ เชียงราย และนีรติ บางนา โดยโครงการดังกล่าวได้รวมส่วนที่อยู่ภายใต้บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ที่เซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ และเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ที่ดำเนินการแล้ว และสินทรัพย์ที่รอการพัฒนาอยู่บนทำเลศักยภาพสูงในกรุงเทพฯ

 

สำหรับแผนการลงทุนและเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2564-2568) บริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธอย่างทันท่วงทีให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ และเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องในแผนพัฒนาโครงการใหม่ที่ยังไม่ได้ประกาศ ทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน บริษัทฯ ยังคงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

[อ่าน 1,102]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เอสซีจี ขนกองทัพนวัตกรรมจาก 10 แบรนด์ชั้นนำ ร่วมงานสถาปนิก 67
“โยเกิร์ต - ณัฐฐชาช์ บุญประชม” อวดแฟชั่นจากแบรนด์ MISTY MYNX คอลเลกชั่นล่าสุด
เอไอเอ ประเทศไทย มอบรางวัลเกียรติยศแก่สุดยอดตัวแทน “ที่สุดแห่งปี” AIA Annual Agency Awards Presentation 2023
Coach เปิดตัว The Coach Tabby Shop ลาน PARC PARAGON
พานาโซนิค บิวตี้ ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ “Panasonic nanocare EH-NA0J” เจาะตลาดไฮเอ็นด์
SCG แถลงผลประกอบการไตรมาสแรก มุ่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด รุกธุรกิจที่เติบโตสูง
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved