ปัญหารถติดยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกของคนกรุง ซึ่งแม้จะมีความพยายามในการแก้ปัญหาจากภาครัฐอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นแค่เพียงการบรรเทาปัญหาได้ชั่วครั้่งชั่วคราวเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วต้นตอของปัญหานี้เกิดจากปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี ซึ่งหากนับเฉพาะในกรุงเทพมหานครจะพบว่ามีปริมาณรถยนต์สะสมมากกว่า 8 ล้านคันเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงคมนาคม จึงได้เดินหน้าผสานความร่วมมือกับ สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยความร่วมมือในการพัฒนาและดำเนินโครงการจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาคเอกชนกว่า 70 บริษัทและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มจากถนนสาทรเป็นถนนต้นแบบในชื่อ 'สาทร โมเดล' (Sathorn Model)
สำหรับโครงการ ‘สาทร โมเดล’ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา โดยโครงการนี้ได้มีการส่งเสริมและเชิญชวนให้ประชาชนผู้สัญจรบนท้องถนน ตลอดจนภาคส่วนธุรกิจและองค์กรที่สนใจได้มาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองดำเนินการเพื่อการจัดการจราจรครั้งที่สองของโครงการ ซึ่งประกอบไปด้วยมาตรการเพื่อการสัญจรที่หลากหลายรูปแบบซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าไปอย่างมาก อาทิ
- โครงการโรงเรียน (School Bus) เพื่อลดปริมาณการใช้รถส่วนบุคคลในบริเวณถนนสาทร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม โดยปัจจุบันมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นกว่า 45 คน นอกจากนี้โครงการกำลังพัฒนาระบบรถรับส่ง (Shuttle Bus) เพื่อรับส่งพนักงานบริษัทกว่า 23 บริษัทที่สนใจเข้าร่วมโครงการในบริเวณถนนสาทรและถนนสีลม
- โครงการจอดแล้วจร (Park & Ride Scheme) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเดินทางสู่ถนนสาทร โดยความร่วมมือของ สมาคมค้าปลีกไทย และสมาคมห้างสรรพสินค้าไทย ที่แบ่งปันพื้นที่จอดรถให้กับโครงการ รวมถึงบริษัท นิปปอน พาร์คกิ้ง ดีเวลลอปเมนท์ที่ได้พัฒนาที่จอดรถขึ้นมาใหม่ในทำเลที่เชื่อมระบบขนส่งอย่างสะดวก ทำให้ปัจจุบันมีพื้นที่จอดรถของโครงการทั้งหมด 14 แห่ง รองรับรถยนต์ได้กว่า 2,500 คัน
- มาตรการเหลื่อมเวลาทำงาน (Flexible Working Time) เพื่อกระจายปริมาณรถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน ด้วยความร่วมมือของบริษัทเอกชน 11 บริษัทในบริเวณถนนสาทร
นินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานร่วมโครงการคมนาคมอย่างยั่งยืน 2.0 กรุงเทพมหานคร และรองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันเราได้พัฒนาแอปพลิเคชันLinkflow เวอร์ชั่น 1.1.3 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือวางแผนการเดินทางในหลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกในการตัดสินใจเลือกเส้นทาง และวิธีเดินทางได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้เรายังได้เดินหน้าการทดลองเชิงสังคมครั้งที่ 3 ของโครงการสาทรโมเดล ซึ่งเราได้รับอนุญาตจากกรุงเทพมหานคร ให้ทำการติดตั้ง Loop Coil Sensor และ CCTV เพื่อตรวจวัดปริมาณการจราจรและนำข้อมูลแบบ Real Time มาประมวลผลสำหรับการปรับตั้งเวลาสัญญาณไฟแต่ละทิศทางให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”
ทั้งนี้ โครงการ สาทร โมเดล ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชมนิทรรศการ ‘Make You Happy Journey’ เพื่อให้ความรู้และความเข้าใจในโครงการสาทร โมเดล มากขึ้น ณ บริเวณอาคาร เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ถนนสาทร ระหว่างวันที่ 13-17 มิถุนายน 2559 ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย