ดุสิตธานี ฝ่าวิกฤติโควิด-19 เผยรายได้ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 163 ล้านบาทจากปีก่อน
10 Aug 2021

 

 กลุ่มดุสิตธานี เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2564  รายได้รวม 587 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 163 ล้านบาท คิดเป็น 38.4% โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 376 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็น 17% ขณะที่รายได้ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,898 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกของปีก่อน 15.3% ยอมรับการท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ “ดุสิตธานี” ยังสู้ พร้อมเดินกลยุทธ์ปรับโครงสร้างทรัพย์สิน เพื่อรักษาสภาพคล่องเงินสด รวมถึงคุมเข้มค่าใช้จ่าย เพื่อรับมือผลกระทบระยะยาว

 

 

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 (เมษายนถึงมิถุนายน) และครึ่งปีแรก (มกราคมถึงมิถุนายน) ปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยมีผลขาดทุนลดลง เนื่องจากในระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยต้องปิดให้บริการชั่วคราวทั้งโรงแรมในประเทศไทยและในต่างประเทศ แตกต่างจากปีนี้ซึ่งโรงแรมสามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้รายได้ไม่ได้หยุดชะงักเหมือนกับการแพร่ระบาดในระลอกแรกเมื่อปีก่อน

 

“ธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในส่วนของประเทศไทย ต้องยอมรับว่า การระบาดครั้งใหญ่ในระลอกที่ 3 ที่เริ่มต้นขึ้นเดือนเมษายน 2564 หรือต้นไตรมาสที่ 2  ส่งผลให้มีอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระจายไปทั่วประเทศ ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนในประเทศไทยยังอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจของเรา  แต่ภาพรวมดีขึ้นกว่าปีก่อน เพราะเรายังมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศและรายได้จากการขยายธุรกิจอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติในเวียดนามมาช่วยเสริม นอกจากนี้ เรายังมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทร่วมและยังคงควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด และพยายามลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้แม้จะมีผลดำเนินงานที่ขาดทุน แต่ก็เป็นผลขาดทุนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานีกล่าว

 

ทั้งนี้ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่กลุ่มดุสิตธานีก็ยังมีพัฒนาการและสามารถเดินหน้าขยายธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 กลุ่มดุสิตธานีได้เปิดโรงแรมใหม่ภายใต้รูปแบบ White Label Hotel Managed by Dusit ที่เกาะกวม ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวนหนึ่งแห่ง  รวมถึงเปิดตัว เทวารัณย์ เวลเนส คอนเซ็ปต์ ซึ่งเป็นแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมใหม่ เพื่อตอบสนองเทรนด์ท่องเที่ยวใหม่ ตลอดจนปรับปรุงกิจกรรมต่างๆ และเตรียมพร้อมโรงแรมและวิลล่าเพื่อเข้าโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัส  ไปจนถึงการเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนให้พนักงาน ให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้าและพนักงาน ส่วนธุรกิจอาหาร บริษัทฯ ได้เปิดร้านคาวาอิ เป็นแฟลกชิพ สโตร์ แห่งใหม่ในย่านอโศก ใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยเป็นร้านสแตนด์ อะโลน แห่งแรก เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพ และสามารถสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี

 

 

สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาส 3 (กรกฎาคมถึงกันยายน) ที่การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น และมีการประกาศมาตรการล็อคดาวน์แบบเข้มข้นมากขึ้นในหลายๆ จังหวัดของประเทศไทย ทำให้คาดว่า จะส่งผลกระทบกับผลประกอบการมากขึ้นนั้น ทางกลุ่มดุสิตธานีได้พยายามบริหารสถานการณ์และวางแผนเพื่อรับมือกับผลกระทบระยะยาวที่อาจจะยืดเยื้อกว่าที่คาด ด้วยการดำเนินการตามกลยุทธ์ปรับโครงสร้างทรัพย์สิน (Asset Optimization) โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงในการขายโรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส เชียงใหม่ ให้กับนักลงทุน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและทำสัญญารับจ้างบริหารโรงแรมดังกล่าวต่อไป ภายใต้แบรนด์ “ดุสิตธานี”  ซึ่งรายได้และกำไรจากการขายจะรับรู้ในงบการเงินไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการด้านการเงินอย่างระมัดระวัง ด้วยการให้ความสำคัญกับการลดสัดส่วนของต้นทุน ค่าใช้จ่าย และรักษาสภาพคล่องทางการเงิน โดยล่าสุด ได้ออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่จำนวน 1,000 ล้านบาทให้กับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่เป็นที่เรียบร้อย 

 

“สิ่งที่เราพยายามทำในขณะที่ธุรกิจหลักมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายมากขึ้น นอกจากจะขยายธุรกิจให้มีความหลากหลายเพื่อสร้างรายได้และผลตอบแทนแล้ว เรายังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างทรัพย์สิน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้น รวมถึงช่วยเสริมสภาพคล่อง และรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยืดเยื้อยาวนานกว่าที่คาด แต่กลุ่มดุสิตธานียังคงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะประคับประคองธุรกิจไว้ให้ได้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและพื้นฐานที่มั่นคงของทุกภาคส่วนของบริษัท ซึ่งเราจะอดทนรอจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อที่จะกลับมาเป็นส่วนร่วมในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งในอนาคต” นางศุภจีกล่าว

 

[อ่าน 1,551]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บีโอไอชู Thailand FastPass เร่ง “บราสเคม สยาม” เดินหน้าเอทิลีนชีวภาพรายแรกในเอเชีย ตั้งเป้าเสร็จปี 2571
ACSC ผนึก Meta–หน่วยงานต่างประเทศ เปิดปฏิบัติการ “Joint Disruption Week” กวาดล้างแก๊งสแกมข้ามชาติในอาเซียน
สเปอร์ส–ลิเวอร์พูล ดวลเดือดนัดพิเศษ ชูพลังฟุตบอลระดมทุนช่วยผู้ป่วยมะเร็งเด็ก วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคมนี้
เดอะมอลล์ ผนึก เอกชนสุขุมวิท ทุ่ม 200 ล้าน สร้าง “EXTRAVAGANZA SUKHUMVIT COUNTDOWN 2026” ดันสุขุมวิทสู่แลนด์มาร์กเคานต์ดาวน์โลก
WELOVEGOLF Tournament 2025 ผสานพลังสมาชิกและพันธมิตร ส่งมอบความรักและความสุข ให้น้องๆ
กสิกรไทยเดินหน้าเศรษฐกิจสีเขียว จับมือกรมลดโลกร้อน หนุนผู้ประกอบการเข้าโครงการ G-Green
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved