ผู้เขียน: วีรพล สวรรค์พิทักษ์

อัตราการบริโภคไอศกรีมของคนไทยอยู่ที่ 2 ลิตร/คน/ปี คนสิงคโปร์ 6 ลิตร/คน/ปี ในขณะที่คนอเมริกันประมาณ 20 ลิตร/คน/ปี ประกอบกับอากาศร้อนและร้อนมากตลอดทั้งปี ทำให้เห็นได้ว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตสูง

ธุรกิจไอศกรีมเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง มูลค่าตลาดล่าสุด (ปี2563) อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท มีหลายเซ็กเมนต์ ได้แก่

• ตลาดไอศกรีมทั่วไป (Standard) ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด
• ตลาดไอศกรีมคุณภาพ (Premium)
• ตลาดไอศกรีมคุณภาพสูง (Superpremium) ซึ่งเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก

เพราะหากพิจารณาจากราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยของไอศกรีมในประเทศไทยมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่องมากว่า 5 ปี (สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า)

จากข้อมูลของนีลเส็นประเทศไทย พบว่า ตลาดไอศกรีมในประเทศไทยแบ่งตามช่องทางการขายได้เป็น ร้านค้าดั้งเดิม 51% ร้านค้าสะดวกซื้อ (Convenience Store) 40% ซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ต 9% ยังไม่รวมถึงรถจำหน่าย เช่น รถสามล้อที่มีมาตั้งแต่อดีต (อาจไม่ได้มีการเก็บข้อมูล)

การแข่งขันในตลาดที่ดูน่าจะสนุก เพราะไอศกรีมทั่วไปลงมาเล่นกันแบบ Cross Category หมายถึงการนำผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ในสายผลิตภัณฑ์อื่น ทั้งของบริษัทเองหรืออาจจะนอกบริษัทมาสร้างสรรค์เป็นไอศกรีมรสชาติใหม่ๆ เช่น ไอศกรีมเนสท์เล่ Kitkat ไอศกรีมวอลล์ Ovaltine หรือ Oreoไอศกรีมที่ผลิตโดยเนสท์เล่ก็ตาม (ตัวนี้ไม่บอกว่าเป็นเนสท์เล่ เพราะเจ้าของแบรนด์ Oreo คือ Mondelez ที่โด่งดังมากว่า 100 ปีแล้ว)

อีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่ต้องกล่าวถึง คือ ตลาดไอศกรีมคราฟท์ (Crafted Ice-Cream) ที่เริ่มมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดกันอย่างสนุก ถึงจะยังไม่ใหญ่มาก แต่รับรองว่ามีอนาคต เนื่องจากสามารถขายได้ในราคาพรีเมียม สามารถผลิตรสชาติต่างๆ ได้ตามชอบ ในปริมาณไม่มาก และยังสามารถทำรสชาติแบบ Limited Edition ในระยะเวลาจำกัดให้กลุ่มลูกค้าได้ตื่นเต้นเร้าใจอีกต่างหาก

ผู้เล่นที่น่าสนใจในตลาดมีหลายแบรนด์ แต่ที่มาแรง เพราะเริ่มขยายสาขาได้มากขึ้น คือ ‘Guss Damn Good’ ไอศกรีมสัญชาติไทยแท้ภายใต้คอนเซ็ปท์ Feeling Crafted Ice-Cream หรือไอศกรีมที่ต้องมีเรื่องราว มีความรู้สึก จากผู้ก่อตั้งคนไทยรุ่นใหม่สองคนที่เรียนจบจาก Boston เมืองแห่งการกินไอศกรีม เริ่มจากสาขาแรกย่านสีลม ปัจจุบันมีมากกว่า 10 สาขา ผลิตไอศกรีมมาแล้วกว่า 80 รสชาติ และมีแบรนด์ต่างๆ ที่ให้ Guss ทำ Collab.ให้กว่า 30 แบรนด์ อาทิ Johnnie Walker, FWD, Deloitte (รสที่ผมชอบที่สุดคือ Toms ที่ได้ Story มาจากรองเท้าเพื่อสังคมอย่าง Toms นั่นเอง)

ไอศกรีม 10010 Bar 

อีกร้านที่อยากให้ได้ลองคือ 10010 Bar (อ่านว่า 'ร้อยสิบบาร์' เพราะอยู่บ้านเลขที่ 100 ซอย10) ก่อตั้งโดย 'เชฟบอล' เชฟขนมหวานที่โด่งดังอีกท่าน ที่ร้านนี้จะได้ลองรสชาติที่รับประกันว่าไม่เหมือนใคร อาทิ รสชวนป๋วยฯ (ยาแก้ไอนั่นแหละ) รสน้ำปลา รสมิโสะ และรสพวงมาลัย ที่รับรองว่าถึงจะแปลกแต่ก็อร่อยมากทุกรส

เว็บไซต์ Reportlinker.com เปิดเผยรายงาน “Ice Cream And Frozen Dessert Global Market Report 2021: COVID 19 Impact and Recovery to 2030” กล่าวว่า การขยายตัวของตลาดไอศกรีมและของหวานแช่แข็งทั่วโลก จะเติบโตจาก 88,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 เป็น 95,360 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 7.6% ทำให้ตลาดไอศกรีมในประเทศไทยก็น่าจะปรับตัวตาม เนื่องจากมีผู้บริโภคมากขึ้น และคนไทยเองก็ยังบริโภคเพิ่มขึ้นได้อีกมาก

นอกจากนี้ ไทยยังได้ประโยชน์จากข้อตกลง FTA สามารถส่งไอศกรีมไปยังประเทศต่างๆ ได้ถึง 17 ประเทศ ภายใต้การยกเว้นภาษีนำเข้า เช่น จีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี เปรู ฮ่องกง จากข้อมูลของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2563 ไทยขยับขึ้นมาเป็นประเทศผู้ส่งออกไอศกรีมเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน

ตลาดนี้ช่างหอมหวานน่าลิ้มลองใช่ไหมครับ