บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ฉลองครบรอบ 1 ปีกับความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ด้วยพันธกิจ
11 Sep 2021

 



  นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด และ นายพีร พนิตผล ผู้อำนวยการฝ่ายยูนิต ลิงค์
  เอไอเอ ประเทศไทย ภายในงานแถลงข่าวออนไลน์ครบรอบ 1 ปี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด

 

 


 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (AIAIMT) ฉลองครบรอบ 1 ปี ในการดำเนินธุรกิจ กับความสำเร็จในการให้บริการด้านการลงทุนและนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าผลักดันธุรกิจประกันชีวิตสู่ New Era ของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือยูนิต ลิงค์ ตอบโจทย์รอบด้านทั้งเรื่องการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และการลงทุน 

 

 

บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2563โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ของเอไอเอ ประเทศไทย และบริหารจัดการเงินลงทุนในกองทุนรวมจากกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ของ เอไอเอ ประเทศไทย เพื่อมอบบริการด้านการลงทุนและผลประโยชน์ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่ลูกค้า ปัจจุบัน บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จัดเป็นผู้นำในด้านการบริหารกองทุนส่วนบุคคล และยังมีกองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการอีก 11กองทุน ประกอบด้วย กองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศ 5 กองทุน และกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ 6 กองทุนซึ่งได้ผนึกกำลังกับ 3 พันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารการลงทุน ได้แก่ Wellington Management, Baillie Gifford และ Black Rock โดยทุกกองทุนภายใต้การบริหารของ บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จัดตั้งขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทั้งในด้านการบริหารความเสี่ยง และให้บรรลุตามวัตถุประสงค์การลงทุนระยะยาวของผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ของ เอไอเอ ประเทศไทย โดยเฉพาะ  

 

นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ครบรอบ 1 ปี ในการเปิดตัวบลจ.เอไอเอ (ประเทศไทย) บริษัทประสบความสำเร็จในการให้บริการด้านการลงทุน และนำเสนอผลิตภัณฑ์ ทั้งกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล โดยปัจจุบัน บริษัทครองส่วนแบ่งในตลาดกองทุนส่วนบุคคล ที่ 39.71% ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม[1] และในส่วนของกองทุนรวมนั้น หลังจากจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวมมาครบ 1 ปี ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 31,485 ล้านบาท[1]   ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ดีมากแม้ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) รวมประมาณ 853,000 ล้านบาท[1]   ซึ่งจัดเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนขนาดใหญ่ติดอันดับใน 5 อันดับแรกของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในประเทศไทย[1]และเรามีความภูมิใจที่มีส่วนเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดทุน
ของไทย

ด้วยปรัชญาการลงทุนของ บลจ.เอไอเอ (ประเทศไทยที่ต้องการตอบโจทย์ด้านการลงทุนให้กับผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย ง่าย และมีประสิทธิภาพ เราจึงมุ่งเน้นการบริหารจัดการการลงทุนที่มีความยั่งยืนและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับลูกค้าประกันยูนิต ลิงค์ ของเอไอเอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าสามารถไปให้ถึงเป้าหมายระยะยาวที่ตั้งเอาใว้ ซึ่งในขั้นตอนการลงทุน บลจ.เอไอเอ(ประเทศไทย)ได้นำวิธีการบริหารกองทุนในรูปแบบเดียวกับนักลงทุนสถาบันมาปรับใช้กับการบริหารกองทุนรวม เพื่อให้ลูกค้าประกันยูนิต ลิงค์ ของเอไอเอ สามารถเข้าถึงศักยภาพการลงทุนจากพันธมิตรการลงทุนของกลุ่มเอไอเอได้อย่างเต็มรูปแบบ การันตีได้จากรางวัล BEST NEW ASSET MANAGEMENT COMPANY THAILAND ประจำปี 2564 จากนิตยสาร GLOBAL BANKING & FINANCE REVIEW ซึ่งเป็นรางวัลที่สื่อด้านการเงินการลงทุนชั้นนำจากประเทศอังกฤษมอบให้

 

สำหรับมุมมองการลงทุนในครึ่งปีหลังของปี 2564 เห็นได้ว่า เศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้ว มีการฟื้นตัวต่อเนื่องและปรับตัวเข้าสู่การเติบโตเต็มศักยภาพ ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ ส่วนใหญ่ยังเผชิญกับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ความแตกต่างนี้จะนำไปสู่การดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ประเทศที่พัฒนาแล้วอาจมีการพิจารณาปรับลดมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ อาทิ การปรับลดปริมาณการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งนักลงทุนในตลาดคาดว่าจะเริ่มปรับขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2566  ในขณะที่ประเทศตลาดเกิดใหม่ยังคงพึ่งพานโยบายของภาครัฐในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ พลวัตนี้จะนำมาซึ่งความผันผวนในตลาด

 

ในระยะสั้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจากแรงกดดันด้านปริมาณการออกจำหน่ายพันธบัตรใหม่ที่ลดลง ในขณะที่สภาพคล่องในตลาดเงินยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มปรับลดปริมาณการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับ
การปรับเพิ่มเงินคงคลัง จะนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร สะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัว 

 

ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง แต่บริษัทจดทะเบียนยังคงเดินหน้าประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยหุ้นที่อยู่ในดัชนี S&P500 เกินกว่า 80% ยังคงรายงานผลการดำเนินงานได้ดีกว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการทำธุรกิจสนับสนุนการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจที่มี
ความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจและทำให้การลงทุนในหุ้นมีแต้มต่อ เมื่อพิจารณาถึงส่วนต่างระหว่างผลตอบแทน
ในหุ้นเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ยังคงปรับตัวสูงขึ้น

 

ดังนั้นเรายังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในหุ้นมากกว่าตราสารหนี้โดยเฉพาะหุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้ว นำโดยหุ้นจดทะเบียนในสหรัฐฯและยุโรป เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่สูงจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้นมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตราสารหนี้ต่อไป อย่างไรก็ดี เรายังคงต้องจับตามองความเสี่ยงด้านการควบคุมการระบาดของไวรัส การกลายพันธ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นได้ การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนความไม่แน่นอนเรื่องจังหวะเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มถอนมาตรการสนับสนุนทางการเงิน โดยเราเชื่อว่าความคล่องตัวในการปรับสัดส่วนการลงทุนและการลงทุนในหุ้นวัฐจักร (ซึ่งโดยมากมีการเติบโตที่สม่ำเสมอและราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ไม่แพง) จะสร้างความสมดุลย์ให้พอร์ตการลงทุนในช่วงภาวะที่มีความผันผวนสูงได้

 

ส่วนมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น หลังจากที่เริ่มมีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์

-->
[อ่าน 1,169]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สตีเบล เอลทรอน” ชวนคนไทยเพิ่มความสดชื่นรับซัมเมอร์ ยกขบวนเครื่องกรองน้ำดื่ม 5 รุ่นท็อป ชูเทคโนโลยีล้ำสมัยคุณภาพระดับเยอรมนี
ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ 5,334 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
เซ็นทรัลพัฒนา ส่งท้ายสงกรานต์ ‘FWD Music Live Fest 3’ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และวันไหลสงกรานต์เซ็นทรัลทั่วไทย
โครงการเพื่อสตรีของคาร์เทียร์ ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 33 คน ประจำปี 2024
TikTok จัด TikTok LIVE Creator Network Conference ปักหมุดดัน TikTok Live ขยายศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลไทยและระดับภูมิภาค
แอ็กซ์ จัดงานเปิดตัวใหม่! AXE Fine Fragrance Collection เสิร์ฟความหอมพรีเมียมเกินขั้น ติดทนนานเกินคาด
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved