"มิวเซียมสยาม" พาเปิดศาสตร์ดูดวงตัวเลข กับนิทรรศการ “ไทยทำ...ทำทำไม”
25 Aug 2017

          แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป จนปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ เข้ามาเอื้ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของเราชาวไทย  แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ตั้งแต่สมัยก่อน “คนไทย” เองก็มีการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ที่ไม่เพียงเพื่อเอื้อต่อวิถีชีวิต แต่ยังประดิษฐ์เครื่องรางของขลัง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความเชื่อ ความศรัทธา และไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจในยามที่เกิดทุกข์  ไม่ว่าจะเป็นของที่เราคุ้นหูคุ้นตา อย่าง นางกวัก ที่ชาวไทยเชื่อว่าเป็นเทพีแห่งโชคลาภ ปลัดขิก ที่ไว้ใช้หลอกภูตผีว่าเด็กที่คล้องไว้นั้นเป็นผู้ใหญ่ จะได้ไม่มาเอาชีวิต ไปจนถึงของที่เราแทบจะไม่รู้จักอย่างตุ๊กตาเสียกบาล ตุ๊กตาดินเซ่นตัวแทนบาปเคราะห์ และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในกระแสโด่งดังฮิตติดอันดับโลกโซเชียลคงหนีไม่พ้นเรื่อง การดูดวง ที่เหล่าหมอดูและกลุ่มผู้ชื่นชอบการดูดวงต่างแชร์กันให้สนั่นว่า ตามตำราโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า จะมีการเคลื่อนย้ายของดาวใหญ่ๆ ตามความเชื่อการดูดวง ได้แก่ พระราหูในช่วงต้นเดือนสิงหาคม และดาวพฤหัสฯ ช่วงต้นเดือนกันยายน ทำเอาหลายๆ คนสงสัยกันว่าแล้วจะต้องทำอย่างไร บ้างก็ไปทำบุญ เข้าวัด ไหว้พระราหู ตามความเชื่อส่วนบุคคล ล่าสุดมีถึงขั้นเปลี่ยนทะเบียนรถ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กันเลย

 


          ล่าสุด  มิวเซียมสยาม ได้จัดกิจกรรม “มหัศจรรย์ตำราพรหมชาติ” กิจกรรมประกอบนิทรรศการ “ไทยทำ...ทำทำไม” โดยได้สะท้อนความด้านการดูดวงที่ผสมผสานความรู้จากตำราพรหมชาติ ตำราโหราศาสตร์ในแบบฉบับ “ไทยทำ” ซึ่งหนึ่งในศาสตร์หลากหลายแขนงนั้นคือ “เลขศาสตร์” หรือ ศาสตร์ดูดวงตัวเลข ในครั้งนี้มิวเซียมสยามขอพาไปรู้จักกับ เลขศาสตร์ ดังกล่าว แบบที่ไม่ต้องรอพักชมโฆษณา ไม่ต้องรอรอฟันธงว่า มีที่มาอย่างไร แล้วในช่วงที่ ‘ราหูเคลื่อน พฤหัสคล้อย’ แบบนี้ เราควรจะดำเนินชีวิตกันเช่นไร

 


          อาจารย์ชลันทรี จันทร์คล้าย อุปนายกและเลขาธิการ สมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า การดูพรหมชาติ เป็นวิธีการทำนายชะตาราศีบนพื้นฐานของปีเกิด เดือนเกิด และวันเกิด เป็นรูปแบบการพยากรณ์แบบหนึ่งในโหราศาสตร์ไทย การดูพรหมชาติเปรียบเสมือนกับหางเสือที่ช่วยชี้นำเส้นทางการดำเนินชีวิต ทั้งในวันที่ดี และในวันที่ชีวิตสับสน และยังเป็นคอยเป็นหลักยึดและช่วยปกป้องภัยอันตรายต่างๆ ที่กำลังจะเข้ามากล้ำกลาย โดยมีความเชื่อดั้งเดิมมาจากกลุ่มไท-ลาว ผสมผสานกับความรู้ทางโหราศาสตร์ที่ได้รับจากอินเดียและจีน เมื่อมีการพิมพ์เกิดขึ้นในสมัยรัชการที่ 4 จึงได้มีการรวบรวมความรู้การพยากรณ์แบบอื่นๆ เข้าไว้ในชุดเดียวกัน แล้วให้ชื่อว่าตำราพรหมชาติ ซึ่ง “เลขศาสตร์” หรือ ศาสตร์การดูดวงตัวเลข ก็เป็นศาสตร์หนึ่งในตำราพรหมชาติ


          เลขศาสตร์ หรือ โหราเลขศาสตร์ เริ่มต้นในประเทศไทยช่วง พ.ศ. 2515 โดย อาจารย์พลูหลวง (ประยูร อุลุชาฏะ) ได้ศึกษาและค้นคว้าความสัมพันธ์ระหว่างเลขศาสตร์ของชนชาติตะวันออกและเลขศาสตร์ของตะวันตก โดยอ้างอิงจากตำรา "ไคโร บุ๊ค ออฟ นัมเบอร์" (Cheiro's Book of Numbers) โดยชาวไอริช ชื่อ “ไคโร” (Cheiro) เป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยค่าตัวเลขในชื่อบุคคล โดยถอดตัวอักษรภาษาอังกฤษออกมาเป็นตัวเลข ที่เสมือนเป็นเลขศาสตร์สากล จากตำราเล่มดังกล่าว อาจารย์พลูหลวงได้เปรียบเทียบและคิดค้นกำหนดค่าตัวเลขให้กับ อักษรไทย โดยเปรียบเทียบจากลักษณะของเลขไทย นำมาเรียบเรียงเป็นเลขศาสตร์สำหรับอักษรไทยขึ้น จนเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นรากฐานของเลขศาสตร์ไทยในปัจจุบัน

 


          การดูดวงเลขศาสตร์นั้น มีปัจจัยองค์ประกอบที่ต้องคำนึงหลายๆ ส่วน โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลโดยตรงมากที่สุด ได่แก่ ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด โดยถอดตัวอักษรต่างๆ ในองค์ประกอบเหล่านี้ ออกมาเป็นตัวเลข ซึ่งแต่ละตัวเลขนั้นแทนดวงดาวตามคัมภีร์มหาทักษา มีความหมายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้


          - เลข 0 แทน ดาวมฤตยู หมายถึง สติปัญญา มีหัวคิดริเริ่ม ล้ำยุคล้ำสมัย  มีเสน่ห์ดึงดูด และมีบุคลิกภาพที่เป็นพิเศษเฉพาะตัว มักเกี่ยวเนื่องกับวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่มักเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง หัวค่อนข้างดื้อรั้น เอาแต่ใจ และเนื่องจากสาเหตุนี้ จึงต้องควบคุมจิตใจและอารมณ์ให้ดี

          - เลข 1  แทน ดาวอาทิตย์ เป็นเลขแห่งความเชื่อมั่นในตัวเองสูง กล้าหาญ มีความจริงจัง กระตือรือร้นและความทะเยอทะยานในการทำงาน มีคนเชื่อถือและไว้วางใจ แต่จะพบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าทำงานในตำแหน่งใหญ่โต ก็จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ที่พลาดไม่ได้อยู่เสมอ ค่อนข้างใจร้อนและมุทะลุ ถือทิฐิและเอาแต่ใจ

          - เลข 2  แทน ดาวจันทร์ ผู้ที่มีค่าเลขศาสตร์ของชื่อและนามสกุลเกี่ยวข้องกับเลข 2 มักเป็นคน สุภาพอ่อนโยน มีจินตนาการสูง ละเมียดละไม ชอบชีวิตอิสระ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่บางครั้งมักคิดมาก เพ้อฟัน อ่อนไหวไม่แน่นอน คล้อยตามความเห็นของคนอื่นได้ง่าย  

          - เลข 3  แทน ดาวอังคาร ดาวแห่งความกล้าหาญชาญชัย มีจิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยว สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ขยันขันแข็ง มีความกระตือรือร้น เอาการเอางาน  รักกีฬาและการผจญภัย แต่มักเป็นคนใจร้อน มุทะลุและหุนหันพลันแล่นเกินไป จนบางครั้งกลายเป็นดาบย้อนเข้าหาตัวเอง

          - เลข 4  แทน ดาวพุธ เลขแห่งปฏิภาณ เฉลียวฉลาดว่องไว ช่างพูดช่างคุย มีมนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศ มีธรรมชาติทางความคิดดี เป็นคนมีเหตุผล มีความคล่องตัวและเก่งหลายด้าน  แต่ต้องระวังเรื่องสอดรู้สอดเห็น ชอบโวยวายจนติดเป็นนิสัย อารมณ์หงุดหงิดเป็นประจำ และจิตใจโลเล มักโอนอ่อนไปได้ง่าย

          - เลข 5 แทน ดาวพฤหัสบดี เป็นตัวเลขแทนคุณธรรม จริยธรรม ความยุติธรรม ความสุขุมเยือกเย็นคน เป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความเชื่อมั่นและรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ แต่บางครั้งก็ซื่อบริสุทธิ์เกินไปจนกลายเป็นโทษต่อตัวตนเอง ใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย และรักสันโดษเกินไปจนอาจทำให้ไม่มีสังคมได้

          - เลข 6  แทน ดาวศุกร์ เป็นดาวแห่งศิลปะ สุนทรียะ ความรัก ความมีเสน่ห์ มีรสนิยมดี ชอบศิลปะ และดนตรี สุภาพอ่อนโยนและรู้จักกาลเทศะ แต่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง ชอบหลงระเริงในแสงสี และควรระวังเรื่องของการใช้จ่าย

          - เลข 7 แทน ดาวเสาร์ ผู้ที่มีเลขศาสตร์เกี่ยวข้องกับเลขนี้ มักจะคนเอาการเอางาน หนักแน่นอดทน สุขุมเยือกเย็น มัธยัสถ์ เก็บกด แต่มักมีความเครียดสูง ทำให้เป็นคนคิดมาก มีความวิตกกังวล ฟุ้งซ่าน เงียบขรึม เฉื่อยชา เย็นชา ไม่มีชีวิตชีวา และไม่ชอบเข้าสังคม

          - เลข 8  แทน ดาวราหู มีธรรมชาติเป็นคนมีความสามารถรอบด้าน มีความสามารถเฉพาะทางหรือความสามารถพิเศษ เช่น ในด้านกีฬา การแข่งขัน เข้มแข็ง มีความเฉลียวฉลาด สามารถชักจูงและโน้มน้าวให้ผู้อื่นเชื่อถือได้ มีความศรัทธาในตัวของตัวเอง แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้เก่ง แต่ต้องคอยระวังเรื่องลุ่มหลงมัวเมา ขาดความยั้งคิด มักเป็นคนฉลาดแกมโกง จึงอาจทำให้เกิดความบาดหมาง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น

          - เลข 9 แทน ดาวเกตุ เป็นเลขแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมักเกี่ยวข้องกับงานต่างประเทศ มักมีความคิดฉับพลัน สังหรณ์แม่นยำ โบราณเชื่อว่าเป็นดาวคุ้มภัยให้แคล้วคลาด อายุยืน ให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีความคิดเห็นตรงไปตรงมา ชอบทำอะไรแปลกใหม่ จึงมักทำสิ่งต่างๆที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร แต่มักจะติดนิสัยหุนหันพลันแล่น จนคนรอบข้างเลือกที่จะออกห่าง

 


               

          ตัวเลขที่เกี่ยวข้องผูกพันกับชีวิตของเรา นอกเหนือจากการถอดชื่อ นามสกุล ออกมาเป็นตัวเลขตามหลักตำราพรหมชาติ วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประชาชน ที่ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว ก็ยังมีตัวเลขอื่นๆ  ที่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เช่น เบอร์โทรศัพท์ ทะเบียนรถ และถึงแม้ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นปัจจัยรองลงมาจาก ชื่อนามสกุล และวันเดือนปีเกิด แล้ว แต่ก็เป็นปัจจัยรองที่ส่งผลต่อดวงชะตาของแต่ละคนเช่นเดียวกัน ซึ่งหากถามว่าในบรรดา ทะเบียนบ้าน ทะเบียนรถ หรือเบอร์โทรศัพท์ ตัวใดที่ส่งผลมากตัวใดส่งผลน้อยนั้น ไม่สามารถระบุได้ เพราะ บ้านก็ถือเป็นสถานที่ที่สำคัญต่อทุกคนในครอบครัว รถยนต์เองก็สำคัญ สามารถชี้ความเป็นตายได้ในเสี้ยววินาที หรือเบอร์โทรศัพท์เองก็เป็นเหมือนเงาตามตัว และต้องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ตลอด ดังนั้น การดูเลขศาสตร์เหล่านี้ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงอาชีพการงาน และรูปแบบการดำเนินชีวิตด้วย เช่น หากคนที่ทำงานที่ต้องสื่อสารกับผู้คนมาก เลข 4 จะมีอิทธิพลมาก เพราะเป็นดาวแห่งการสื่อสาร หรือหากใครที่เดินทางด้วยการใช้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ทะเบียนรถก็แทบจะไม่มีอิทธิพลต่อดวงชะตาของคนนั้น


          คำถามที่หลายๆ คนสงสัยว่าเมื่อขึ้นปีใหม่แล้ว จำเป็นต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หรือไม่ อาจารย์ชลันทรีได้กล่าวว่า ในทางเลขศาสตร์ ปัจจัยที่สำคัญในการทำทำนาย คือ ชื่อนามสกุล วันเกิด และอาชีพ ซึ่งหากพิจารณาแล้ว ปัจจัยที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้นั้นคือ อาชีพ หากเปลี่ยนอาชีพ ก็ควรที่จะเช็คดวงชะตาอีกครั้ง ว่าเหมาะสมกับตัวเลขทั้งหมดนั้นหรือไม่ ดังนั้นหากยังประกอบอาชีพเดิม และดวงชะตาเกื้อหนุนกับหน้าที่การงานอยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ทั้งนี้ความหมายของตัวเลข 0 ถึง 9 นั้น เป็นความหมายของแต่ละดวงดาวในภาพรวม ซึ่งเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการดูดวง  ในทางโหราศาสตร์นั้นมีความลึกซึ้งมากกว่าการดูแค่เพียงตัวเลข แต่จะต้องประกอบกับปัจจัยอื่น เช่น สี อัญมณี วาร ทิศ รวมถึงการโคจรของดวงดาวอีกด้วย

 


          สำหรับผู้ที่สนใจและอยากมาตรวจสอบดวงชะตากันตามหลักตำราพรหมชาติ มิวเซียมสยาม เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ด้านความเชื่อ กับการดูดวงกับนักโหราศาสตร์จากสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กันได้ภายในนิทรรศการ “ไทยทำ...ทำทำไม” ตั้งแต่วันนี้ -  27 สิงหาคม 2560 วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน (ข้างวัดโพธิ์) กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2225-2777 ต่อ 543 หรือเข้าไปที่ www.museumsiam.org

[อ่าน 1,614]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดเทอมใหญ่ใจฟูไปกับ “CP ALL KIDS CLUB CAMP 2024”
ซีเล็ค ทูน่า ยืนหนึ่งพร้อมเสิร์ฟเมนูใหม่ “น้ำพริกกะปิทูน่า” การันตีความอร่อยด้วยทูน่าเนื้อแน่น แซ่บนัว ฉ่ำ ซี๊ด สไตล์ไทย
ทิพยประกันภัย ปลุกกระแสประกันภัยความรับผิดทางวิชาชีพแพทย์ สร้างความอุ่นใจให้แพทย์ มอบความคุ้มครองสูงสุดถึง 6 ล้านบาท
“สำนักงาน คปภ. – ภาคธุรกิจประกันภัย” เตรียมความพร้อมรองรับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 17 เรื่อง สัญญาประกันภัย (TFRS 17)
กสิกรไทย ปรับโครงสร้างคณะกรรมการ ลดจำนวนกรรมการเป็น 15 คนจาก 18 คน เพิ่มสัดส่วนกรรมการอิสระเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ตามหลักมาตรฐานสากล
“Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ครั้งที่ 9 กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน หนุนการท่องเที่ยวยั่งยืน
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved