เดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุ่มทุน 3,000 ล้านบาท พลิกโฉม 'เดอะมอลล์ ท่าพระ' สู่ 'เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ' ดีเดย์ฉลองยิ่งใหญ่ 2 ธันวาคมนี้ เป็นสาขาที่ 2 ตามแผนยุทธศาสตร์ระยะ 5 ปี ต่อยอดความสำเร็จจาก 'เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน' ตั้งเป้าปั้นเป็นแลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดย่านฝั่งธนฯ หรือกรุงเทพฝั่งตะวันตกที่ตอบโจทย์ลูกค้า 'ทุกเจนเนอเรชั่น - ทุกไลฟ์สไตล์' เผยยังมีแผนพลิกโฉมห้างสเกลใหญ่สาขาบางกะปิ บางแคให้เป็น 'ไลฟ์สโตร์' ใน Pipeline ของปี 2566

จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานห้างสรรพสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด

พลิกโฉมเป็น 'ไลฟ์สโตร์'

จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานห้างสรรพสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การเดินหน้าสู่บทบาท ใหม่ในฐานะ 'เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ' นี้ถือเป็นการพลิกโฉมเดอะมอลล์ ท่าพระครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 32 ปี หลังเปิดตัวครั้งแรกในปี 2532 ด้วยงบกว่า 3,000  ล้านบาท เนรมิตทุกพื้นที่ ทุกองค์ประกอบ ทุกแนวคิดการออกแบบ เพื่อให้เป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตของทุกคนในที่เดียว ด้วยโมเดลของธุรกิจรีเทลแบบใหม่ New Hybrid Retail For Urban Living บนพื้นที่รวมกว่า 1.5 แสนตร.ม.ภายใต้แนวคิด A Happy Place To Live Life : ชีวิตที่มีความสุขทุกครอบครัว

แนวคิดการออกแบบตกแต่งของ 'เดอะมอลล์ ท่าพระ' ภายใต้คอนเซ็ปท์ Urban Playground นั้นถือเป็น 'การเบลอเส้นขอบ' ของการเป็น 'ห้างสรรพสินค้า' และ 'ศูนย์การค้า' แบบเดิมๆ ที่เคยจัดกลุ่มสินค้าอย่างชัดเจนว่า ชั้นไหนเป็นกลุ่มสินค้าใด ด้วยการจัดพื้นที่บนฐานของไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะ 'กิน - ช้อป - ชิลล์' หรือ 'เอนเตอร์เทนเมนท์' ก็ครบจบที่เดียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่สุขสนุกกว่าเดิม ด้วยการวางตำแหน่งทางตลาดของไลฟ์สโตร์แห่งนี้ว่า 'Live A Playful Life ท่าพระ ท่าใหม่ ไลฟ์สไตล์สนุก'

ส่วนแผนการลงทุนในอนาคต เดอะมอลล์ยังเตรียมที่จะปรับสาขาบางกะปิ และสาขาบางแคให้เป็น 'ไลฟ์สโตร์' ใน Pipeline ของปี 2566 เนื่องจากสองสาขาเป็นห้างฯ สเกลใหญ่เมื่อเทียบกับสาขางามวงศ์วาน และท่าพระ ขณะที่สาขารามคำแหงและสาขาโคราชอยู่ในแผนลำดับต่อไป ซึ่งกำลังศึกษาถึงการปรับเปลี่ยนและงบการลงทุน โดยเฉพาะสาขารามคำแหงซึ่งจะต้องมีการลงทุนมาก ขณะที่สาขาโคราชเพิ่งปรับเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

จุดแข็ง + บริบทใหม่

'เดอะมอลล์ ท่าพระ' เคยประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน ในฐานะที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีสินค้าครบวงจรเป็นแห่งแรกจองย่านธนบุรี แต่ ณ วันนี้บริบททางการตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปมาก อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของที่นี่ก็ยังคงดำรงอยู่ ทั้งนี้ จักรกฤษณ์ ได้เปิดเผยถึงจุดแข็งและบริบทใหม่ของ 'เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ' ว่า ประกอบด้วย

• ชัยภูมิเด็ด : เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมกรุงเทพฯ สองฝั่งเมือง ระหว่าง 'รัชดา - เจริญกรุง/เจริญนคร - ราชพฤกษ์' อีกทั้งยังอยู่ในแนวการขยายตัวของเส้นทางคมนาคม รถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อ 2 ฝั่งเมือง ไม่ว่าจะเป็นย่านรัชดาภิเษก พระราม 3 – ราชพฤกษ์ สาทร ซึ่งถือเป็นทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีโครงข่ายคมนาคมเมกะโปรเจ็คขนาดใหญ่ เป็นTransportation Hub เชื่อมต่อไปยังย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) อาทิ สีลม สาทร พระราม 4 และตัวเมืองชั้นในของกรุงเทพฯ (Urban Area) ได้อย่างสะดวกสบาย  
• โปรไฟล์ประชากร : ประชากรในรัศมี 10 กม.ประกอบด้วย ชุมชนเดิมที่เป็นคนจีนรุ่นเก่า และกลุ่มประชากรอาวุโส กับชุมชนใหม่ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ คนทำงาน ครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยที่มาจาก 120 คอนโดมิเนียม (32,000 ยูนิต) เป็นแหล่งที่ตั้งของสถาบันการศึกษา 200 โรงเรียน, 8 โรงเรียนนานาชาติที่เปิดตัวใหม่, 3 วิทยาลัย, 5 มหาวิทยาลัย โดยประเมินว่า มีประชากรกว่า 1.2 ล้านคน, 6 แสนครัวเรือนและเป็นประชากรแฝงที่ลงทะเบียนในเฟสบุ๊ค 3.9 ล้านคนที่ใช้ชีวิต เรียน ทำงาน ฯลฯ ในบริเวณดังกล่าว

พลิกโฉมภายใต้ 4 แกนหลัก

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท  เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการพลิกโฉมสู่ 'เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ' ว่า

ทุกพื้นที่ได้ออกแบบให้เป็น 'พื้นที่ในการใช้ชีวิต' เป็นพื้นที่ความสนุกมิติใหม่ในการช้อปปิ้งและสร้างประสบการณ์ แปลกใหม่ที่มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร มุ่งยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และคำนึงถึง Customer Journey นำเสนอเทรนด์ใหม่ผสานการศึกษาพฤติกรรมความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าพร้อมจัดเรียงสินค้าที่มีความหลากหลาย ตามพฤติกรรมของลูกค้า ทุกเจนเนอเรชั่น ภายใต้ 4 แนวคิดหลัก ได้แก่

• Livelihood Hangout ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย กับจุดแฮงเอาท์ที่มีความหลากหลาย ครบครันทั้งครอบครัว พร้อมความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ให้ความรู้สึกว่า นี่คือพื้นที่ของตนเอง (My Space)
• Flexible & Diversified ที่สุดแห่งประสบการณ์ช้อปปิ้งที่หลากหลายกับสินค้าแบรนด์ดัง เข้าถึงทุกกลุ่ม ทุกไลฟ์สไตล์ได้มากขึ้น คัดสรรสินค้าแบรนด์ดังมากมาย ร้านค้าชั้นนำในศูนย์ฯ กว่า 200 ร้าน ทั้งสินค้า Beauty,  Fashion, Lifestyle, Sports, Living, IT Gadget, Dining ฯลฯ ด้วยฟังก์ชั่นการจัดรูปแบบร้านค้าภายในเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ ให้สามารถสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ Seamless Shopping Experience ด้วยการเชื่อมโยงกันทุกพื้นที่
• Cozy Experience เป็นพื้นที่ที่จะส่งมอบความรื่นรมย์ตามธรรมชาติที่เข้ากับไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว และยังเส้นสายของสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ 'เดอะมอลล์' เพื่อทำให้การใช้ชีวิตมีความสนุกสนาน
• Socialized Space  พื้นที่สร้างความสุขที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์อันดี พร้อมจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับทุกคนและชุมชน และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

วรลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการออกแบบว่า "ด้วยการวิเคราะห​ข้อมูลทั้งจาก Big Data,  Customer Platform และการใช้เทคโนโลยี AI Analytics ขั้นสูง ทำให้เราได้ข้อมูลจากลูกค้าที่มาเดินในห้างฯ รวมทั้งฐานข้อมูลจากสมาชิกบัตร M Card กว่า 4.7 ล้านคน สมาชิกบัตร SCB M กว่า 1 ล้านคน ตลอดจนฐานข้อมูลลูกค้าจากพันธมิตรบัตรเครดิต ทำให้เราเข้าใจ  Customer Shopping Journey  ของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง สามารถนำข้อมูลที่ได้นั้นมาวางคอนเซ็ปต์การออกแบบศูนย์การค้า ตลอดจนการคัดสรรสินค้า สร้างสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ รวมทั้งกลยุทธ์สร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มลูกค้าผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ครอบคลุมทุกสื่อ โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงคนเข้าห้างฯ ประมาณ 1.2 ล้านคนต่อเดือน หรือประมาณ 15 ล้านคนต่อปี"

คอนเซ็ปต์แต่ละชั้น ดังได้กล่าวแล้วว่า เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ โฉมใหม่นั้นได้เบลอความเป็นห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าออกไป และกำหนดด้วยไลฟ์สไตล์กับชั้นต่างๆ ของตนเองที่มีกว่า 1.5 แสนตร.ม. ดังนี้

ชั้น B : World Class Gourmet Destination 

• Gourmet Market เป็น No.1 World Class Gourmet Destination ที่สุดของพรีเมี่ยมซูเปอร์มาร์เก็ตของเมืองไทย มาตรฐานระดับโลกบนพื้นที่รวมกว่า 5,000 ตร.ม. รวบรวมวัตถุดิบชั้นเลิศ, สินค้าโกรเซอรี่ และสินค้าตลาดสด แบรนด์ชั้นนำที่คัดสรรแล้วจากทั่วโลกกว่า 4 หมื่น SKUs
• Gourmet Eats ศูนย์รวมความอร่อยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ รวบรวมร้านอาหารชื่อดังระดับตำนาน ร้านอาหารแบรนด์ดัง Trendy Foodie และ Street Food ร้านเด็ดรวมความอร่อยกว่า 140 ร้านดังทั่วกรุงเทพฯและย่านฝั่งธนฯ เพื่อยกระดับให้เป็นฟู้ดและไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นที่ทันสมัยและครบครันที่สุดของย่านฝั่งธนฯ 

ชั้น G :  World's Beauty & Fashion 

• Beauty Hall : No.1 World Class Beauty Destination บนพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม. ที่รวบรวมแบรนด์ครื่องสำอางและน้ำหอมชั้นนำระดับโลกแบบกว่า 100 แบรนด์และบิวตี้ไอเทมมากกว่า 1 หมื่น SKUs และพบกับเคาน์เตอร์แบรนด์ดังระดับโลก พร้อมบริการความงาม อาทิ Chanel, M.A.C, NARS, Laura Mercier, Sulwhasoo, The History of Whoo, Three และ Chat Cosmetic ฯลฯ
• Fashion : แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าชั้นนำ ทั้งแบรนด์แฟชั่นระดับโลก บนพื้นที่ 2,600 ตร.ม. อาทิ UNIQLO ที่มากับคอนเซ็ปต์ใหม่บนพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตร และแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเมืองไทย อาทิ IKON , AIIZ, MATCHBOX  และ WOMEN’S FASHION เสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋าและสินค้าไลฟ์สไตล์ผู้หญิงจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 100 แบรนด์  

ชั้น 1 : Men's Fashion & Lifestyle    

• Men's Fashion : แฟชั่นไลฟ์สไตล์ผู้ชายกว่า 100 แบรนด์ บนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม.
• Sportsmall : Destination สำหรับทุกสินค้าและอุปกรณ์กีฬากว่า 150 แบรนด์ บนพื้นกว่า 3,000 ตร.ม.โดยรวบรวม Flagship Store แบรนด์สปอร์ตแฟชั่นและสปอร์ตไลฟ์สไตล์ที่เป็นสโตร์แบบใหม่ล่าสุดของไทย โซน Global Brand ทั้ง Adidas กับคอนเซปใหม่ล่าสุดในเอเชียอาคเนย์  Stadiums 2.0, Nike กับคอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุดในสไตล์โมเดิร์น, Skechers ที่มาในรูปแบบ Mono Shop และอีกหลายหลายแบรนด์ที่มาในรูปแบบ Flagship Store อาทิ Uunder  Armour, Puma, Fila, Asics, Mizuno, New Balance, Crocs, Rev Runner ฯลฯ
• Watch Galleria : รวบรวมแบรนด์ดังสำหรับคนรักนาฬิกาทั้งแนวแฟชั่น แนวสปอร์ตและแนวสมาร์ทวอทช์  (Smart Wartch)    อาทิ Casio, Seiko, Citizen, Garmin,Luminox, Emporio Armani, Coach, Michael Kors, Timex

ชั้น 2 : Home & Creative Technology

• Power Mall : No.1 Digital Lifestyle Electronic Destination เปิดประสบการณ์การใช้ชีวิตล้ำสมัยด้วยสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ทีวี เครื่องเสียงและสินค้าไอที แกดเจ็ตจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 200 แบรนด์ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตร.ม.
• BeTrend : No.1 One Stop Shopping for Creative & Lifestyle Store ผู้นําเทรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์จากแบรนด์ชั้นนำกว่า 100 แบรนด์ บนพื้นที่ 2,500 ตร.ม. ประกอบด้วย Be Stationery โซนเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานชั้นนำ, Be Gadget ของขวัญไลฟ์สไตล์และ Gadget ทันสมัย , Be Gift โซนของขวัญและสินค้าไลฟ์สไตล์ที่สุดเทรนด์ และ Be Book โซนรวบรวมหนังสือจากร้านหนังสือนายอินทร์
• The Living : เติมเต็มไลฟ์สไตล์ สนุกกับการตกแต่งบ้าน จำลองบรรยากาศตกแต่งทุกห้องในบ้าน  ด้วยหลากหลายสินค้าของใช้ ของตกแต่งบ้าน เครื่องนอน เครื่องครัว อุปกรณ์ตกแต่งสวนจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 150 แบรนด์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกคนในครอบครัว

ชั้น 3 : Family & Life Solutions ประกอบด้วย ร้านอาหาร สินค้าหมวดไอที เทคโนโลยี, HarbourLand สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่ที่เป็น Family Destination ให้กับกลุ่มลูกค้าครอบครัวด้วยคอนเซ็ปต์ The  World of Dinosaur, Fitness First, โซน Service Provider, โซน Financial, Beauty & Wellness  

ชั้น 4 : Playful Entertainment  ที่มี SF CINEMA  โรงภาพยนตร์โฉมใหม่ในคอนเซ็ปต์ Luxury Loft กับ 8 โรงภาพยนตร์คุณภาพและพิเศษกับ CINECAFE คาเฟ่ สุดชิคบนพื้นที่กว่า 6,500 ตร.ม.

แคมเปญฉลองปีใหม่  

ในช่วงเปิดโฉมใหม่ของ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ,ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ,บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต, ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน), และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดแคมเปญต่างๆ คือ แคมเปญฉลองปีใหม่ The Great Happy New Year 2022  มอบโปรโมชั่นแบบจุใจนักช้อปส่งท้ายปี และพิเศษสุดกับแคมเปญฉลองโฉมใหม่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ  The Mall  Lifestore ThaPra Grand Opening ด้วยการอัดโปรโมชั่นยิ่งใหญ่ 5 วัน 5 คืน พร้อมโปรโมชั่นอีกมากมายตลอดทุกสัปดาห์ต่อเนื่องตลอด 6 เดือน ระหว่าง  2 ธ.ค. 2564 – 31 พ.ค. 2565

• 2-6 ธ.ค. 2564 ที่เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ พิเศษสุด เพียง 5 วันเท่านั้น พบกับ Grand Opening Promotion เมื่อสะสมยอดช้อปในศูนย์ฯครบ 2,000 บาท รับบัตรกำนัลรวมสูงสุด 1,200 บาท (ลูกค้าบัตรเครดิต SCB M Visa ,SCB ,Citi ,UOB รับทันทีบัตรกำนัลศูนย์ 500 บาท ), สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับแลกคะแนนรับบัตรกำนัลห้างฯ 500 บาท พิเศษสมาชิก M Card รับเพิ่มทันทีบัตรกำนัลศูนย์ฯ 200 บาท
• 2 ธ.ค. 2564 – 16 ม.ค. 2565 Everyday Promotion ช้อปในศูนย์ฯครบ 8,000 บาท (รวมใบเสร็จ) รับ Unicorn Tote Bag  1 ใบ
• 11 ธ.ค. 2564 – 9 ม.ค. 2565 ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ Weekend Special เมื่อสะสมยอดช้อปในศูนย์ฯครบ 2,000 บาท รับบัตรกำนัลรวมสูงสุด 1,000 บาท (ลูกค้าบัตรเครดิต SCB M Visa, SCB, Citi, UOB รับทันทีบัตรกำนัลศูนย์ 500 บาท ), สมาชิกเมืองไทย สไมล์คลับแลกคะแนนรับบัตรกำนัลห้างฯ 500 บาท และลุ้นเป็นเจ้าของรถยนต์ Toyota New Camry รุ่น 2.5 Premium มูลค่า 1.599 ล้านบาท  ระหว่างวันที่ 2 ธ.ค. 2564 – 28 ก.พ. 2565 เมื่อช้อปสินค้าภายในศูนย์ฯ หรือห้างฯ ครบทุก 1,000 บาท รับสิทธิ์ชิงโชค 1 สิทธิ์
• 17 ธ.ค.64  – 3 ม.ค. 65  เมื่อช้อปสะสมในห้างฯ ครบ 8,000 บาท/ วัน ด้วย M Card และบัตรเครดิต SCB M VISA รับเพิ่ม Cash Voucher  รวมสูงสุด 5,300 บาท (เมื่อช้อปผ่านบัตรครบ 3,000-40,000 บาทขึ้นไป ตามเงื่อนไขที่กำหนด) 
• วัน  29 พ.ย.64  – 16 ม.ค. 65 สมาชิก ช้อปสนุกสุขได้ทุก M CARD รับคูปองส่วนลดสูงสุด 40% (เมื่อช้อปครบทุก 1,000 - 10,000 บาท หรือใช้คะแนน M Point 80 - 1,000 คะแนน แลกรับ)   
• 29 พ.ย.64  – 12 ธ.ค.64  12.12 Double Premium Day MCard และ บัตรเครดิต SCB M VISA แจกรวม 12 ล้าน MPOINT (รับรวมสูงสุด 1,200 MPOINT เมื่อช้อปครบ 1,200 บาท ขึ้นไป / ใบเสร็จ รวม Power Mall และ Gourmet Market)
• 15 พ.ย. 64 – 15 ม.ค. 65  SCB M YEAH! ลูกค้าผู้ถือบัตรเดบิต และ บัตรเติมเงิน SCB M VISA รับบัตรกำนัลห้างฯ มูลค่า 300 บาท เมื่อช้อปสะสมภายในห้างฯ 3,000 บาทขึ้นไป (รวม POWER MALL และ GOURMET MARKET)