กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และบริษัท ออร์กานอน ประเทศไทย มุ่งปรับ - เปลี่ยน - ปั้น ฐานประชากร สู่สังคมแห่งความยั่งยืน
19 Nov 2021

 

ประเทศไทยกำลังประสบความท้าทายด้านประชากร โดยในด้านโครงสร้างนั้น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้คาดการณ์ไว้ว่าในปี พ.ศ. 2580 สัดส่วนผู้สูงอายุในสังคมไทยจะอยู่ที่ราวร้อยละ 30 ของประชากร ทั้งนี้ ประเทศไทยมีอัตราเจริญพันธุ์รวมที่ต่ำกว่าระดับทดแทนมาเป็นระยะเวลา 20 ปีแล้ว ส่งผลให้จำนวนประชากรวัยเด็กและวัยทำงานลดลงอย่างต่อเนื่อง และในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาก็พบว่ามีจำนวนการเกิดรวมเพียง 587,368 คน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีจำนวนการเกิดรายปีที่ต่ำ กว่า 600,000 คน ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นด้านคุณภาพประชากรก็เป็นประเด็นที่สำคัญไม่แพ้ประเด็นด้านโครงสร้างประชากร โดยสถานการณ์เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมไทยในระยะยาว

 

จากการประชุมระดับนโยบายในหัวข้อ “ปรับ - เปลี่ยน - ปั้น ฐานประชากร สู่สังคมแห่งความยั่งยืน” ภายใต้โครงการ “Smart Family Planning for Women” เมื่อวันอังคาร ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย และบริษัท ออร์กานอน (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีการรวบรวมข้อคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในภาครัฐและภาคประชาสังคม เกี่ยวกับช่องว่างทางนโยบายของประเทศไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายการสร้างครอบครัวคุณภาพ หรือ SMART FAMILY เพื่อเป็นรากฐานในการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง พัฒนาคุณภาพประชากร และสร้างครอบครัวคุณภาพนำมาสู่งานประกาศวิสัยทัศน์แห่งความร่วมมือเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และร่วมสร้างเครือข่ายแห่งความร่วมมือที่มีศักยภาพเพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านโครงสร้างและคุณภาพประชากรของไทย

 

โดยงานประกาศวิสัยทัศน์ หัวข้อ “ปรับ – เปลี่ยน – ปั้น” ฐานประชากรสู่สังคมแห่งความยั่งยืนได้รับเกียรติจาก ดร. สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้เปิดงานพร้อมประกาศเจตนารมณ์และวิสัยทัศน์ เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยในการผลักดันนโยบายประชากรที่นำไปสู่การสร้างสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน พร้อมแสดงปาฐกถาด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับครอบครัวคุณภาพและโครงสร้างประชากร สู่สังคมแห่งความยั่งยืน โดยมีใจความว่า “หัวใจของการพัฒนาประเทศ คือ การพัฒนาคนให้มีศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ พวกเราทุกคนในที่นี้ มีหน้าที่ มีบทบาทที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนมีเหมือนกัน และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การสร้างครอบครัวคุณภาพสู่สังคมแห่งความยั่งยืน และผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าการที่จะดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเป็นการทำงานภายใต้การบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน”

 

 

จากการประชุมระดับนโยบายดังกล่าว สามารถสรุปประเด็นการปฏิบัติงานที่สำคัญที่สุดต่อการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและพัฒนาคุณภาพประชากรในประเทศไทย เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตได้ 4 ประเด็นดังนี้

1) การพัฒนาระบบการศึกษาให้เอื้อต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทันต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก

2) การกำหนดเจ้าภาพหลักที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนนโยบาย และการส่งเสริมเอกภาพของการทำงานระหว่างหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

3) การส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้และมีการเข้าถึงบริการด้านการศึกษา สังคม และสุขภาพมากยิ่งทั้งในแง่ของความทั่วถึงและค่าใช้จ่าย

4) การนำกรอบความคิดแบบเส้นทางชีวิต (life course) มาใช้ในการกำหนดนโยบาย โดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตหลากหลายขั้น (multi-life stage) และไม่จำกัดแต่เพียงเส้นทางชีวิตที่ตั้งอยู่บนบรรทัดฐานครอบครัวแบบดั้งเดิม (traditional family) เท่านั้น

ซึ่งมีการใช้ประเด็นดังกล่าวเป็นกรอบในการประกาศวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ของผู้แทนหน่วยงานภาครัฐภาคประชาสังคม องค์กรอิสระ และองค์กรพัฒนาระหว่างประเทศ อันได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ UN Women

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า “จากความท้าทายและความเร่งด่วนในการแก้ปัญหาด้านโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น อัตราการเกิดที่ลดลง อัตราการตายที่เพิ่มขึ้นและความกังวลต่อคุณภาพชีวิต และความมั่นคงทางเศรษฐกิจอันเนื่องมา จากวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19  ทำให้เราต้องเร่งส่งเสริมโครงการสร้างครอบครัวคุณภาพ จากการวางแผนครอบครัวอย่างชาญฉลาดและการส่งเสริมด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการส่งเสริมอัตราการเกิดภายในประเทศ โดยต้องคำนึงถึงทั้งในแง่ของโครงสร้างประชากรและคุณภาพของประชากรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

มิสเตอร์ คุง คาเรล เคราท์บ๊อช (Mr. Koen C. Kruijtbosch) กรรมการผู้จัดการบริษัท ออร์กานอน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความเชี่ยวชาญ และประสบ การณ์การทำงานระหว่างองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาระหว่างประเทศ และภาคเอกชน ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือและการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ในการผลักดันวาระการทำงานด้านการขับเคลื่อนนโยบายประชากร โดยการสร้างครอบครัวคุณภาพสำหรับผู้หญิงไทย และเพื่อความยั่งยืนของประเทศ ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่ทรงพลังอันจะเป็นแนวปฏิบัติสำหรับการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวร่วมกันต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด”

 

“โครงสร้างของประชากรที่ไม่สมดุล ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเกิดที่ลดลง หรือสัดส่วนของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่ผลกระทบด้านสังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม แม้ว่าการป้องกันผลกระทบดังกล่าวจะสามารถทำได้ด้วยการวางแผนครอบครัวเพื่อส่งเสริมอัตราการเกิดที่มีคุณภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร ทุกกลุ่มและทุกช่วงวัย แต่สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือการดำเนินงานที่ได้รับความร่วมมือและการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาคส่วนต่างๆ อย่างครอบคลุม อันจะเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” คุณปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ และรองประธานกรรมการ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวทิ้งท้าย

เจตนารมณ์และพลังความร่วมมือในวันนี้จะก่อเกิดเป็นเครือข่ายการทำงานอย่างจริงจังและมีศักยภาพในการขับเคลื่อนนโยบายครอบครัวคุณภาพ เพื่อเป็นรากฐานของโครงสร้างประชากรของไทย เพื่อเป็นเกราะที่เข้มแข็งสำหรับการรับมือและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้านสังคมและเศรษฐกิจของประเทศอย่างยืนต่อไป

[อ่าน 1,800]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
5 ตัวแทนกรุงไทย-แอกซ่า คว้ารางวัลตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งชาติ ครั้งที่ 25
ดีลแรง! “มารุ จุฬา” ลดราคาพิเศษ 4.39 ล้าน ผ่อนเบา 9,900 บาท จัดอีเว้นท์ 27–28 ก.ย.นี้
บลจ.กสิกรไทย จับมือ นิด้า เชื่อมโยงการศึกษาสู่โลกการลงทุน
ทิพยประกันภัย มอบเสื้อกันฝนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบ้านหัน จ.นครราชสีมา
บี.กริม เพาเวอร์ แต่งตั้งประธานกรรมการ และผู้บริหารระดับสูง มีผลตั้งแต่ 17 กันยายน 2568 พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ซีพี แอ็กซ์ตร้า โชว์นวัตกรรมสีเขียว “ขยะเป็นศูนย์ ประโยชน์เป็นแสน From Waste to Wealth”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved