"เอปสัน" ครองเจ้าตลาดอิงค์แท็งค์และโปรเจคเตอร์ ปูพรมสินค้าใหม่จับตลาดองค์กรธุรกิจ
22 Sep 2017

          เอปสัน ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์และโปรเจคเตอร์ของไทย เปิดตัว L-series และโปรเจคเตอร์ Smart series รุกตลาดองค์กรธุรกิจต่อเนื่องรับกลุ่มเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพขยายตัวพร้อมจัดงาน “Imagination to Future Business” โชว์ศักยภาพเทคโนโลยีเอปสันต่อยอดธุรกิจและยกระดับไลฟ์สไตล์ชีวิตยุคดิจิทัล


          ยรรยง มุนีมงคงทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในภาพรวมของธุรกิจทั้งใน กลุ่มสินค้าอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์และโปรเจคเตอร์ของเอปสันถือว่ายังคงประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถทำยอดขายพรินเตอร์ L-series ทั่วโลกใน 150 ประเทศ ทะลุ 20 ล้านเครื่องไปเมื่อไตรมาสสองปีนี้  ส่วนในประเทศไทย ยอดขาย L-series ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและครองส่วนแบ่งตลาดพรินเตอร์ระบบแท็งค์ได้ถึง 44% สำหรับโปรเจคเตอร์ เอปสันก็ยังรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดที่มียอดขายสูงสุดติดต่อกัน 16 ปี ด้วยส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกที่ 35.5% เช่นเดียวกับตลาดประเทศไทยที่เอปสันยังคงเป็นอันดับหนึ่ง โดยสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นมาเป็น 45% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้”

 


          “เอปสันจึงต้องการรักษาความต่อเนื่องในการรุกขยายตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ ทั้งในกลุ่ม อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์รุ่น L-series และโปรเจคเตอร์รุ่น Smart series เพื่อรองรับการลงทุนขยายธุรกิจขององค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่มีจำนวนเกิดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังรองรับการลงทุนของหน่วยงานรัฐที่จะเริ่มต้นขึ้นในปีงบประมาณใหม่ที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย” 


          สำหรับสินค้ากลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์ L-series ที่เปิดตัวในครั้งนี้เป็นเครื่องมัลติฟังก์ชั่นสี่สีพร้อม Wi-Fi ได้แก่ L405 และรุ่นที่ใช้หมึกพิกเมนท์สีดำกันน้ำจำนวน 5 รุ่น ได้แก่ L4150, L4160, L6160, L6170, L6190 โดยไฮไลท์อยู่ที่รุ่น L6160, L6170 และ L6190 ที่ใช้หัวพิมพ์ไมโครปิเอโซรุ่นใหม่ PrecisionCore ทำให้สามารถพิมพ์งานปริมาณมากในความเร็วสูง และให้ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ถูก โดยพิมพ์สีอยู่ที่ 13 สตางค์ และพิมพ์ขาวดำ 5 สตางค์ ทั้งยังสามารถพิมพ์สองหน้า (Duplex) แบบอัตโนมัติ และพิมพ์แบบไร้ขอบ (Borderless) ได้ใหญ่สุดถึงขนาด A4

 


          ยรรยง กล่าวต่อว่า “ปัจจุบันลูกค้าองค์กรธุรกิจมีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อพรินเตอร์มากขึ้น นอกเหนือจาก ความคุ้มค่าในการลงทุนและประหยัดค่าพิมพ์ต่อแผ่นแล้ว ยังต้องการเครื่องที่พิมพ์งานได้เร็วยิ่งขึ้นโดยที่คุณภาพ ไม่ลดลงใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ ไปจนถึงประเภทของน้ำหมึกที่ใช้ต้องให้ผลงานที่สวยงาม คงทน ซึ่งเอปสันสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ในทุกด้าน รวมไปถึงในด้านตัวสินค้าที่มีความทนทาน และด้านการทำงานที่มีประสิทธิภาพและให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ดีกว่าคู่แข่ง เพราะผ่านการประกอบและการควบคุมคุณภาพการผลิตจากโรงงานของเอปสันเอง”

 


          “เอปสันยังเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่มีอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ระบบแท็งค์มากที่สุดถึง 18 รุ่นในตลาด ลูกค้าจึงสามารถเลือกใช้รุ่นที่เหมาะกับงบประมาณและปริมาณการพิมพ์ในออฟฟิศของตัวเองได้อย่างลงตัว ไม่ต้องกังวลกับต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่สูงหรือการเปลี่ยนตลับหมึกอีกต่อไปอีกทั้งมีการนำหมึกพิกเมนท์สีดำมาใช้เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณการพิมพ์งานขาวดำได้มากขึ้น จากเดิม 6,000 แผ่นต่อหมึก 1 ขวดเป็น 7,500 แผ่น”

 


          “นอกจากนี้ในตลาดยังไม่มีเครื่องคู่แข่งที่สามารถพิมพ์ Duplex แบบอัตโนมัติได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยประหยัดต้นทุนค่ากระดาษในออฟฟิศลงได้ถึง 50% สอดรับกับเทรนด์การพิมพ์งานในออฟฟิศวันนี้ที่มุ่งลดการใช้กระดาษมากขึ้นจุดเด่นอีกประการของสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้คือขนาดเครื่องที่เล็กลง ประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน และระบบการเติมหมึกแบบใหม่ที่ป้องกันการหกเลอะและปัญหาการเติมหมึกผิดสี ด้วยหัวล็อคช่องเติมหมึกบนแท็งค์และจุกขวดน้ำหมึกที่ได้รับการออกแบบให้มีความแตกต่างเฉพาะตัวของแต่ละสีสินค้าทุกรุ่นยังเพิ่มระยะเวลาการรับประกันเป็น 2 ปี เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้า” ยรรยง กล่าว


          ในส่วนโปรเจคเตอร์เอปสันได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม Smart series ที่มีความสว่างไม่เกิน 4,000 ลูเมนส์ พร้อมกัน 7 รุ่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในห้องประชุมขนาดเล็กสำหรับองค์กรธุรกิจเอสเอ็มอี สถาบันศึกษา และธุรกิจ Co-working ประกอบด้วย EB-S05, EB-S41, EB-X05, EB-X41, EB-W05, EB-W41 และ EB-U42 โดยมีการอัพเกรดเรื่องหลอดภาพที่ให้แสงสว่างเพิ่มขึ้นและมีอายุการใช้งานนานขึ้นจาก 5,000 ชั่วโมง เป็น 6,000 ชั่วโมง และ 10,000 ชั่วโมง ในโหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode)  รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นที่สามารถเลือกให้เครื่องเปิดทำงานเองโดยอัตโนมัติทันทีที่เสียบปลั๊กไฟ (Direct Power-On) หรือทันทีที่เสียบสายเชื่อมต่อสัญญาณภาพขาเข้า (Auto Power-On) นอกจากนี้ ยังมีปุ่ม Home Screen ที่สามารถเลือกฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อยมาตั้งค่าไว้เพื่อการใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้นซึ่งโปรเจคเตอร์ทั้ง 7 รุ่น ยังสามารถเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ Wireless ที่เมื่อต่อเข้ากับเครื่องโปรเจคเตอร์ จะส่งสัญญาณไร้สายไปยังคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อการทำงานด้วยแอพพลิเคชันเฉพาะของเอปสัน iProjectionได้ทันที โดย EB-U42 จะมี build-in wireless สามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Direct และ Miracast เพื่อดึงภาพจากหน้าจอสมาร์ทดีไวซ์ขึ้นมาฉาย (Screen Mirroring) ได้ ทั้งยังมีฟังก์ชั่น Multi PC ที่ช่วยเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเลต ทั้งในระบบ Android และ iOS ได้ถึง 50 จอ โดยรองรับการแสดงผลจากอุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกัน 4 หน้าจอ

 


 

          ยรรยง ยังกล่าวถึงกลยุทธ์ด้านการตลาดสนับสนุนการเปิดตัวสินค้าใหม่ครั้งนี้ว่า “สภาพตลาดและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้น ทำให้เทคโนโลยีต้องอัพเกรดประสิทธิภาพให้สามารถนำเสนอผลลัพธ์ที่มากกว่าสิ่งที่ผู้บริโภคคาดหวัง การเปิดตัวสินค้าใหม่ครั้งนี้เป็นการแสดงศักยภาพของเอปสันที่สามารถคงความต่อเนื่องในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพรินเตอร์และโปรเจคเตอร์มาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ เอปสัน ประเทศไทย ยังได้ออกกลยุทธ์ 4Cs เพื่อสนับสนุนการทำตลาดสินค้าใหม่ ซึ่งประกอบด้วย Customer Solution หรือการนำเสนอรูปแบบใหม่ผ่านการผสมผสานสินค้าต่างๆ ของเอปสันออกมาเป็นโซลูชั่นที่หลากหลายเพื่อธุรกิจประเภทต่างๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นถึงภาพรวมของการทำงานทั้งระบบที่มีสินค้าของเอปสันเป็นองค์ประกอบในทุกขั้นตอนแทนที่จะแยกนำเสนอสินค้าแต่ละชิ้นและเน้นการขายแบบตัดราคา โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับจริงๆ”

 


          “Customer Value หรือการเน้นสร้างคุณค่าจริงที่ลูกค้าต้องได้รับจากสินค้าของเอปสัน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจขนาดไหน เอปสันจะนำเสนอสินค้าที่ช่วยสร้างมูลค่าทางธุรกิจและรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้าได้ ทั้งในเรื่องของความคุ้มค่าในการลงทุน การประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำงาน ความสะดวกสบายในการทำงาน คุณภาพของผลงานที่ได้รับ ไปจนถึงความสบายใจจากการบริการหลังการขายและการรับประกันสินค้า ต่อมาคือ Convenience Channel หรือการเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายที่เข้มแข็งมีความรู้ความเข้าใจ ในความต้องการของลูกค้าธุรกิจต่างๆ เป็นอย่างดี ทั้งยังมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยี ของเอปสัน เพื่อพร้อมที่จะให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้ในทุกเรื่อง”


          “สุดท้ายคือกลยุทธ์ด้านการสื่อสาร Communications หรือการสร้างสรรค์รูปแบบการนำเสนอคุณค่าด้านต่างๆ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เอปสันในตลาดกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงการสนับสนุนการขายผ่าน เครื่องมือสื่อสารการตลาดรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์และสินค้าของเอปสันมากที่สุด อย่างเช่นการเปิดตัวสินค้าใหม่ครั้งนี้ เอปสันได้จัดงาน “Imagination to Future Business” เพื่อนำเสนอมุมมอง การนำเทคโนโลยีของเอปสันไปใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในอนาคต พร้อมรองรับไลฟ์สไตล์ของชีวิตในยุคดิจิทัล”

 


          “ในงาน Imagination to Future Business จะมีการแบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, โซนสถาบันศึกษา, โซนองค์กรธุรกิจ, โซนธุรกิจงาน ประชุมและนิทรรศการ และโซนธุรกิจร้านค้าปลีกลูกค้าจะได้สัมผัสถึงรูปแบบใหม่ในการนำเทคโนโลยีของเอปสันมาใช้เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจประเภทต่างๆ เช่น การติดตั้ง โปรเจคเตอร์คู่กับชุดโฮมเธียเตอร์ในโครงการบ้านจัดสรรการนำเสนอคอนเท้นท์รูปแบบใหม่ในพิพิธภัณฑ์ผ่านการทำ Mapping และเทคโนโลยี AR ซึ่งมองผ่านแว่นตาอัจฉริยะ Moverio ของเอปสัน หรือการนำเสนอเมนูอาหารและโปรโมชั่นในร้านอาหารด้วยป้ายดิจิทัลผ่านโปรเจคเตอร์ และการใช้เครื่องพิมพ์ใบเสร็จแบบพกพาของเอปสันสำหรับการชำระเงิน ณ จุดขาย” ยรรยง กล่าวทิ้งท้าย

 

 

[อ่าน 1,648]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจาะ 5 ไฮไลต์ Central Park Offices ต้นแบบโมเดลออฟฟิศ NEXT GEN ที่ครบทั้ง “ดีไซน์–เทคโนโลยี–ความยั่งยืน” จุ
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ฉลองครบรอบ 40 ปี ตอกย้ำผู้นำการพัฒนาบ้านสไตล์ French Colonial รายแรกในไทย
แอสเซทไวส์ ยกขบวนคอนโดพร้อมอยู่ จัดแคมเปญ “AssetWise ใจใหญ่ ให้เต็มแม๊กซ์”
“ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ” ปิดสนามราชพฤกษ์คลับ จัดนัดชิง Chang Club Championship 2025
finbiz by ttb แนะเปิดประตูโอกาสธุรกิจ ด้วยพลังของ Generative AI
จุฬาฯ และ UR ร่วมกันจัดฟอรั่มที่กรุงเทพฯ ก้าวแรกของความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาเมืองในประเทศไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved