CAT จับมือ 8 พันธิมตร ยกทัพเทคโนโลยีสุดล้ำ ร่วมงาน Digital Thailand BigBang 2017 โชว์ 3 โซนเด็ด Smart Living, Innovation และ IoT (Internet of Things)ชูศักยภาพความพร้อมสู่โครงการ Digital Park Thailand มั่นใจตอบโจทย์ ไทยแลนด์ 4.0 เชิญชวนคนรุ่นใหม่ พบเทคโนโลยีแห่งอนาคต ได้ที่ บูธCAT โซน C4 ในงานดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง2017 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 21-24 กันยายน 2560 นี้”
พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยว่า CAT ได้จับมือผู้ดำเนินธุรกิจด้านไอทีระดับชั้นนำ จำนวน 8 ราย ได้แก่ IBM, จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยบูรพา, Axiata Group Bhd, O-bike, Analytic spot,SK Telecom และ กระทรวงสาธารณสุข โดยร่วมออกบูธจัดแสดงเทคโนโลยีในงาน Digital Thailand BigBang 2017 ภายใต้แนวคิด “Digital Transformation Thailand” โดยบูธนิทรรศการของ CAT จะแบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็น 3 โซนคือโซน Smart Living , โซนInnovation และโซนIoT (Internet of Things) ซึ่งแต่ละโซนจะนำเสนอและสาธิตบริการต่างๆอันเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิตอลอาทิO-Bike จักรยานอัจฉริยะเพื่อการบริการสาธารณะที่ปลดล็อกด้วยการสแกนQR Code, Smart Street Light ระบบบริหารจัดการจ่ายไฟฟ้าของเสาไฟบนท้องถนนผ่านระบบเครือข่ายไร้สายเป็นต้นโดยทั้งหมดจะสะท้อนภาพรวมของSmart City ในยุคไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในบูธของ CAT ยังมีไฮไลต์เด่นคือ โมเดลขนาดใหญ่จำลองภาพรวมของโครงการ Digital Park Thailand อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี บนที่ 700 ไร่ของ CAT ซึ่งมั่นใจว่าตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี โดยการดำเนินงานจะแบ่งเป็นเฟสต่างๆ ซึ่งเฟสแรกเป็นการลงทุนของภาครัฐ และเฟสต่อไปๆ มีเป้าหมายที่จะดึงเอกชนมาเข้าร่วม โดยCAT จะบริหารจัดการพื้นที่และอำนวยความสะดวกสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับครั้งนี้ CAT ได้ดึงพันธมิตรร่วมแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยี เช่น ไอบีเอ็ม เสนอโปรเจ็คต์การทำงานของระบบ "วัตสัน" เอสเคเทเลคอม เสนอบริการ Smart City ต่าง ๆ ที่ทางให้บริการจริงในประเทศเกาหลี เช่น City Engagement ระบบรับข้อร้องเรียนปัญหาของประชาชนไปยังหน่วยงานรัฐ รวมทั้งบริการอื่นๆ เช่น ระบบ Smart parking, Smart building โดยผ่านโครงข่าย LoRa network นอกจากนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังได้ร่วมแสดงผลงานวิจัย เช่น เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเซ็นเซอร์วัดแรงสั่นสะเทือนที่ออกแบบเพื่อต่อยอดใช้งานกับSmart City ในอนาคตและมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่นเปิดคอร์สการเขียนซอฟท์แวร์พัฒนาแอปพลิเคชันในหัวข้อ “Block Chain” และ “Digital Innovation Platform” ทั้งนี้ มั่นใจว่า ผู้เข้ามาชมบูธ CAT จะได้รับความรู้และประโยชน์เพิ่มเติมจากการร่วมชมงาน Digital Thailand BigBang 2017 อย่างแน่นอน