finbiz by ttb แนะ 3 กลยุทธ์ สู่การพลิกโฉมธุรกิจ SME ยุคดิจิทัล ด้วย Digital Transformation
25 Jul 2022

 

มากกว่า 10 ปีมาแล้วที่เราได้ยินคำว่า Digital Disruption หรือ Technology Disruption ซึ่งภาคธุรกิจได้เริ่มเตรียมปรับตัวเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจมาตลอด ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังเข้ามาเป็นปัจจัยเร่งให้สถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 8-10 ปีข้างหน้า ให้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2-3 ปีนี้ ทำให้ทุกธุรกิจต้องกระโดดเข้าสู่ Digital Transformation อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  เพื่อให้สามารถอยู่รอดและดำเนินธุรกิจต่อไปได้

 

เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การปรับตัวเปิดรับเทคโนโลยีของผู้คนง่ายขึ้น และพร้อมใจที่จะก้าวอย่างรวดเร็ว ไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจ ดังนั้น หากธุรกิจไม่เร่งปรับตัวอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยมีข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยที่ยืนยันได้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคของคนไทยนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

•    คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกว่า 77.8% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 62.5%

•    คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 5.07 ชั่วโมงต่อวัน (เป็นอันดับที่ 3 ของโลก)

 

ไม่เพียงแค่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากและหลายชั่วโมงต่อวันเท่านั้นยังยืนยันด้วยว่าคนไทยมีความเชื่อมั่นกับระบบธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลมากพอสมควร ด้วยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายบนระบบอินเทอร์เน็ต และการลดลงของการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การใช้เงินสด หรือธุรกรรมผ่านเช็ค

 

•    ประเทศไทยมีสัดส่วนการใช้ Mobile Banking ต่อประชากร ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต 74% เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งเพิ่มมาจากปีก่อนๆ 63% (อันดับ 2 และ 3 ของโลก คือ สวีเดน 71% และ เกาหลีใต้ 66% )

•    จำนวนธุรกรรมจ่ายผ่าน QR Code เพิ่มขึ้น 199% และจำนวนธุรกรรมบัตรเครดิต Online โตขึ้น 26%

•    ธุรกรรมถอนเงินสดลดลง 18% และธุรกรรมเกี่ยวกับเช็คลดลง 19%

•    จำนวนรายการผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น 160% เป็นสัดส่วนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลต่อช่องทางออฟไลน์กว่า 80%

 

ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงความต้องการที่เปลี่ยนไป ธุรกิจการค้าต่างๆ ก็มีความเปลี่ยนแปลงจาก B2B หรือ OEM มาเป็น D2C (Direct to Customer) จากเดิมที่ผู้ผลิตเป็นเพียงผู้ผลิตเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือรับผลิต เพื่อส่งให้ส่วนของพ่อค้าคนกลาง เช่น Modern Trade ไล่ลงไปจนถึงร้านค้าปลีกก่อนจะถึงมือผู้บริโภค เปลี่ยนเป็นจากผู้ผลิตไปสู่มือผู้บริโภคได้เลย โดยผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งทำให้ SME ที่อยู่ในช่วงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค จะต้องรีบเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สามารถอยู่รอดและก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน

 

  1. รู้จุดยืนที่ชัดเจน เตรียมรุกสู่ Transformation

เส้นทางการปรับปรุงธุรกิจไปสู่ความเป็นดิจิทัล มีหลายทางเลือกให้ตัดสินใจ โดยก่อนที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ต้องแน่ใจก่อนว่าธุรกิจของเรานั้นอยู่ในสภาวะใด ให้ผู้ประกอบการจินตนาการถึงฉากทัศน์ของธุรกิจ โดยพิจารณาจากความเปลี่ยนแปลง 4 กลุ่ม ว่าอีก 5 ปีข้างหน้า กิจการของเราอยู่ในกลุ่มใดใน 4 กลุ่มนี้

1) กลุ่มที่มีความชัดเจน เป็นธุรกิจที่มีทิศทาง กฎและระเบียบต่าง ๆ ที่มีต่อธุรกิจค่อนข้างตายตัวชัดเจน

2) กลุ่มที่มีความชัดเจนระดับหนึ่งว่า ถ้าไม่เป็นแบบนี้ ก็จะเป็นแบบนั้น หรือเป็นอีกแบบหนึ่ง

3) กลุ่มที่จะมีความเปลี่ยนแปลงแบบเป็นช่วงๆ ช่วงต้นจะเป็นแบบนี้ และต่อด้วยช่วงที่จะเป็นแบบนั้น

4) กลุ่มที่หาความชัดเจนไม่ได้ คาดเดาไม่ได้เลย

 

เมื่อเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้าแล้ว มองว่าธุรกิจของเราเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ และวางกลยุทธ์จากยุทธศาสตร์ 5 F ว่าธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่นั้นจะเป็น F ไหน ซึ่งประกอบด้วย

 

 

และไม่ว่าเราจะเลือกกลยุทธ์ F ใดก็ตามสิ่งสำคัญคือธุรกิจจะต้องมีกระแสเงินสดเอาไว้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง และการสร้างเครือข่ายในวงธุรกิจ (Connection) ก็เป็นตัวช่วยสำคัญไม่แพ้กัน

เมื่อมองเห็นภาพอนาคต รวมถึงตั้งกลยุทธ์ที่จะใช้ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแล้ว จึงเริ่มเข้าสู่ Digital Transformation ในขั้นตอนต่อไป

 

2. Transform ให้ไว และได้ไปต่อในยุคดิจิทัล

จากเหตุผลต่างๆ ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซึ่งในภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนไปด้วย จาก B2B หรือ OEM มาเป็น D2C (Direct to Customer) ทำให้การดำเนินธุรกิจจะต้องปรับเปลี่ยนไป ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงนั้นมีสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนี้

Data Driven เพราะข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ หัวใจแห่งการขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งนี้ การ Direct to Customer อย่างมีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องมีข้อมูลลูกค้า ซึ่งไม่ว่าธุรกิจที่จะอยู่ในช่วงไหนของห่วงโซ่อุปทาน ผู้ประกอบการควรทราบความต้องการของลูกค้าปลายทางด้วย ดังนั้นจะเห็นว่าข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายละเอียดพฤติกรรมผู้บริโภครายย่อยๆ ไปจนถึงข้อมูลของลักษณะการสั่งสินค้าของลูกค้ารายใหญ่ๆ

 

ขจัด Pain point บน Business Ecosystem เพื่อสร้างความสมบูรณ์บน Platform ปัจจุบันนี้มีรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น การไลฟ์ขายของบนระบบออนไลน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาเนื่องจาก Pain Point บางอย่าง เช่น การไลฟ์ขายทุเรียน ที่มาขจัด Pain Point ที่ลูกค้าอยากได้ทุเรียนพันธุ์หายากคุณภาพดี ซึ่งการที่เจ้าของสวนมาไลฟ์ขายของเองทำให้ลูกค้าแน่ใจว่าจะได้ของดีจากสวนที่เจ้าของสวนมีตัวตนอยู่จริง ทราบแหล่งที่มาชัดเจน จึงเกิดการซื้อขายกันขึ้น

 

ซึ่งการเติมเต็มระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น ยังมีขั้นตอนของการชำระเงิน การจัดการการจัดส่ง และการขนส่งเข้ามาอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิด Platform ที่ช่วยสร้าง “มูลค่าเศรษฐกิจ” ที่อยู่ระหว่างกลางผู้บริโภค (Consumer) และ ผู้ผลิต (Producer) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมีการออกแบบจนถึงมือลูกค้ารายสุดท้าย เพื่อให้การแลกเปลี่ยนสมบูรณ์แบบมากที่สุด

 

• Agile Way เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว จึงต้องก้าวให้ไว เมื่อโลกในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเก่า เราจะพบได้ว่า ยุคก่อนหน้านี้กว่าจะมีผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมก็ใช้เวลากันหลายปี แต่ในปัจจุบันอาจจะใช้เวลาเพียงครึ่งปีก็สามารถสร้างนวัตกรรมได้หลักการแบบ Agile Way จึงมีบทบาทสำคัญเพื่อให้ตอบสนองได้รวดเร็วทันเวลาและตรงความต้องการที่สุด หลัก Agile Way ประกอบไปด้วย 3 ส่วนประกอบสำคัญ ดังนี้

1) ระบุปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า อาจใช้การเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับลูกค้า คุยกับกลุ่มลูกค้าโดยตรง รวมไปถึงการรับฟังความคิดเห็นของทีมงานที่ทำงานกับลูกค้าโดยตรงเพื่อให้เข้าใจลูกค้าในเชิงลึก

2) พัฒนาด้วยทีมงานหลายฝ่าย ระดมสมอง คิดนอกกรอบ พัฒนานวัตกรรมจากความคิดร่วมกันของหลายๆ ฝ่าย เพื่อระดมสมองจากหลายมุมมอง

3) ทดสอบนวัตกรรมกับลูกค้าก่อนออกใช้งานจริง เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อปรับปรุงก่อนส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือลูกค้าผู้ใช้งานจริง

ระหว่างการทำงานใน Agile Way จะมีการตรวจสอบให้แน่ใจอยู่เสมอว่าสิ่งที่กำลังพัฒนาไม่มีอะไรหลุดไปจากแผนการหรือความต้องการที่แท้จริง และหากมีความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ความต้องการของลูกค้าเป้าหมายเปลี่ยนไปก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ทัน

 

งบประมาณทางการตลาดต้องมี เนื่องจากในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เมื่อธุรกิจวางแผนมาอย่างดี มีทั้งข้อมูลที่ดี อยู่บนแพลตฟอร์มที่ดีและใช้วิธีการทำงานแบบ Agile Way สิ่งสุดท้ายที่จะลืมไม่ได้คือ การทำการตลาด เพื่อให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของเราอย่างแท้จริง ในยุคดิจิทัลจึงต้องวางแผนสำหรับ Digital Marketing ด้วย โดยงบการตลาดก็ควรจะเป็น 20-30% ของยอดขาย

 

3. กระแสเงินสดต้องแข็งแกร่ง และต้องมีเครื่องมือทางการเงินที่ดี

การก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงหัวใจหลักที่จะทำให้ธุรกิจแข็งแรงคือการมีกระแสเงินสดอย่างพอเพียงโดยธุรกิจที่แข็งแรงจะสามารถประมาณการทางการเงินในอนาคตได้ และทราบมูลค่าของธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการสร้างมูลค่าของธุรกิจจะเพิ่มขึ้นต่อเมื่อสามารถสร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) ออกมาให้ได้มากที่สุดและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระแสเงินสดจะเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อธุรกิจสามารถบริหารปัจจัยหลัก (Value Drivers) 7 ปัจจัยได้ดี คือ

1.    การสร้างจุดขายจุดแข็งให้กับองค์กร

2.    การทำให้ยอดขายเติบโต

3.    การทำให้กิจการมีกำไรดี

4.    การบริหารภาษีอย่างประสิทธิภาพ

5.    การใช้เงินทุนหมุนเวียนต่ำ

6.    การใช้เงินลงทุนที่ต่ำ

7.    การหาแหล่งเงินทุนที่ต้นทุนต่ำที่สุด

 

ดังนั้นการเดินหน้าสู่การเป็นดิจิทัลจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือทางการเงินที่เข้าใจธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นอย่างดีในทุกส่วนของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งเงินทุนบัญชีสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะรวมทั้งการติดตามรายงานการเงินที่ง่าย และสะดวกสบาย นำเสนอในมุมที่เข้าใจผู้ประกอบการธุรกิจ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพื่อให้ทุกการซื้อขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

 

 

ทีเอ็มบีธนชาตจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มาจากความต้องการของลูกค้าธุรกิจ โดยมีเครื่องมือทางการเงินเพื่อธุรกิจที่เข้าใจลูกค้าอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น

  • ทีทีบี บิสสิเนสวัน (ttb business one) Platform ทางการเงิน ที่สามารถทำธุรกรรมจากทุกอุปกรณ์ไปที่ระบบเดียว และสามารถเรียกดูรายงาน กำหนดสิทธิ์ผู้เข้าใช้งานได้อย่างสอดคล้องกับธุรกิจ ยิ่งใช้คู่กับ ทีทีบี เอสเอ็มอีวันแบงก์ (ttb sme one bank) บัญชีที่เข้าใจธุรกิจสามารถลดต้นทุนด้านค่าธรรมเนียม ลดต้นทุนสมุดเช็ค และสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่เหมาะกับการทำธุรกิจ
  • สำหรับการรับเงิน ธนาคารมี ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop) แอปพลิเคชันจัดการร้านค้าที่สามารถชำระเงินผ่าน QR Code ได้ หรือบริการรับชำระเงินออนไลน์ ทีทีบี ควิกเพย์ (ttb quick pay) ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถสร้างลิงก์ในการชำระเงิน และส่งผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น SMS หรือช่องทาง Chat ของ Social Media ต่างๆ โดยลิงก์ที่สร้างขึ้นมาจะมีความปลอดภัยที่ลูกค้าและผู้ประกอบการมั่นใจได้ และลูกค้าได้รับความสบายใจสูงสุด

 

สนใจศึกษาความรู้และเคล็ดลับทางธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ finbiz by ttb โครงการเสริมความรู้ธุรกิจ ด้วยแนวคิด “ครบ จบในที่เดียว ปรับใช้ได้ง่าย ต่อยอดได้จริง สู่การเป็น Smart SME” ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม พร้อมองค์ความรู้ที่ครบครัน จากพันธมิตรชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้ธุรกิจรับมือกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมปรับตัวในยุคดิจิทัลและเติบโตอย่างยั่งยืน  คลิก https://www.ttbbank.com/th/finbiz

 

ที่มา :

“Road to Digital Transformation พลิกโฉมธุรกิจสู่การเป็น Smart SME ในยุคดิจิทัล” โดย finbiz by ttb และ ISMED


#finbizbyttb

#ให้ชีวิตการเงินดีทั้งวันนี้และอนาคต #เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น

#ttb #MakeREALChange

[อ่าน 1,478]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Romrawin Cosmetics เปิดตัว “Romrawin Everyday Hand Cream – Box Set”
ททท. เปิดโครงการ “เมืองน่าเที่ยว Year of Celebration”
Mercedes-Benz Bus เปิดตัว RS1936 รถบัสสำเร็จรูปครั้งแรก

ซีพีเอฟ หนุนนโยบายผู้ว่าฯเชียงใหม่ เดินหน้าป้องกันไฟป่า ลด PM2.5 ต่อเนื่อง
ไอคอนคราฟต์ ร่วมกับ V Craft จัดกิจกรรม “MACRAME IN THE DARK” สนับสนุนงานฝีมือผู้พิการทางสายตา
ICS Lifestyle Complex ชวนท่องประวัติศาสตร์ มองอนาคต ไปกับกลิ่นและรสของกาแฟฝั่งธน-เมืองจันท์
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved