บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ประกาศเกมรุกผสานกลยุทธ์ระดับโลกตอบโจทย์ทางเลือกการลงทุนของคนไทย พร้อมชูแนวคิด Asset Allocation
26 Jul 2022

 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ประกาศวิสัยทัศน์ต้อนรับแบรนด์ใหม่ในฐานะมืออาชีพด้านการลงทุนชั้นนำด้านกองทุนด้วยข้อเสนอกลยุทธ์ที่แตกต่างระดับโลกภายหลังความสำเร็จของการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด (Thanachart Fund Eastspring) ซึ่งถือเป็นการควบรวมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในตลาดการเงินและการลงทุนของประเทศไทย โดยสัดส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุด (ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565) ของบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้แก่ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลถือหุ้นอยู่ที่ 59.5% และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต ถือหุ้นอยู่ที่ 40.5% ปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ครองส่วนแบ่งทางการตลาดกองทุนรวมร้อยละ 7 และมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสุทธิ (Asset under Management หรือ AUM) อยู่ที่ 342,390 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565) และติดอันดับ 6 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย การประกาศวิสัยทัศน์ภายใต้แบรนด์ใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จและวางรากฐานของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ ในไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคง

 

ตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะมืออาชีพด้านการลงทุน

อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลกของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชียและตลาดโลกอย่างลึกซึ้ง มากว่า 28 ปี บริษัทมีสำนักงานสาขาในตลาดเอเชียจำนวน 11 แห่ง และสำนักงานสนับสนุนการขายสินทรัพย์ ในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป พร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกว่า 300 ท่าน โดยมีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ากว่า 258 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (สิงคโปร์) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564) โดยกระจายการลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือกต่างๆ โดยมีเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จจากรางวัลระดับโลกที่ได้รับมาอย่างต่อเนื่องในหลากหลายสาขา ในขณะที่ TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring นั้นเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่ดำเนินธุรกิจในไทยมาอย่างยาวนานเกือบ 30 ปี ทำให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและมุมมองเชิงลึกในตลาดการลงทุนไทย พร้อมด้วยภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำในการนำเสนอนวัตกรรมที่ทันสมัยในการจัดการการลงทุนเสมอมา

 

ด้วยจุดแข็งของทั้งสองบริษัท ผสานกับความเชี่ยวชาญระดับสากลของ Eastspring Investments ช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งในการเป็นมืออาชีพด้านการลงทุน โดยเฉพาะทางด้านกลยุทธ์การสร้างโอกาสในการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign investment funds หรือ FIFs) ซึ่งปัจจุบัน บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสุทธิ (AUM) ของกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) โดยรวมกว่า 106,950 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2565) รั้งอันดับ 3 ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในไทย (ที่มา: Morningstar) และมีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์เฉลี่ย 12.5% ต่อปี เทียบกับการเติบโตของอุตสาหกรรมเฉลี่ยที่ 5.2% ต่อปี ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น อีสท์สปริงยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ครอบคลุมและหลากหลาย ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ กว่า 54,389 ล้านบาท และอัตราการเติบโตสูงถึง 18% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (เทียบกับอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ 10%) (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2565)

 

 

อดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวช่วงหนึ่งของงานแถลงข่าวว่า

“ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ การเติบโต และความแข็งแกร่งของเรา วันนี้เราพร้อมแล้วกับการส่งมอบประสบการณ์การลงทุนที่มีคุณภาพแก่นักลงทุนชาวไทย ภายใต้แบรนด์ใหม่อย่าง บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ผ่านกลยุทธ์สามเสาหลักที่จะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจจากทีมงานคุณภาพของเรา เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายความมุ่งมั่นของแบรนด์ Eastspring Investments ที่จะดูแลการลงทุนเพื่ออนาคตของคุณหรือ Invested in Your Future”

 

อีสท์สปริง ชูกลยุทธ์สามเสาหลัก เพื่อเดินหน้าสู่ตัวเลือกในการลงทุนอันดับต้นของคนไทย

ในการขับเคลื่อนธุรกิจของ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ให้เติบโตไปอีกขั้นในฐานะผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งเพื่อผู้ลงทุนชาวไทย บริษัทมีแนวทางการดำเนินงานผ่านกลยุทธ์ 3 เสาหลัก ได้แก่ Global Access with Asia Focus, Investment Advisory & Market Insights, และ Holistic Health & Wealth ที่จะทำให้เข้าถึงความต้องการของนักลงทุนทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม

 

Global Access with Asia Focus

ปัจจุบันการลงทุนในต่างประเทศถือเป็นแนวโน้มการลงทุนสำคัญที่ผู้ลงทุนชาวไทยไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไปเพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีและมีตัวเลือกการลงทุนที่หลากหลายกว่า ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของบลูมเบิร์กระหว่างปี 2558 – 2564 พบว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีจากการลงทุนต่างประเทศให้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 11.5 ต่อปี เทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยซึ่งอยู่ที่เพียงร้อยละ 4.7 ต่อปี (ที่มา: บลูมเบิร์ก) ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า โอกาสในการลงทุนในต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงกว่าแค่การลงทุนในประเทศ ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำการออกกองทุนต่างประเทศที่มีความครอบคลุมและหลากหลาย ยิ่งเมื่อผนึกกำลังกับ  Eastspring Investments ที่สิงคโปร์  ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในระดับสากล ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มมุมมองทางเลือกในการคัดสรรกองทุนจากหลากหลายประเภทสินทรัพย์เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้สร้างผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งในจุดนี้ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จึงถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้ลงทุนชาวไทยต้องนึกถึงเมื่อมองหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ

 

Investment Advisory & Market Insights

บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อว่าการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายหรือ Asset Allocation เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพตลาดและภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ยิ่งทำให้การกระจายการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญ ทางบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมมือกับอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ สิงคโปร์ ที่เชี่ยวชาญการบริหารพอร์ตการลงทุน Multi-asset ในสินทรัพย์ทั่วโลกมายาวนาน และมีระบบที่ช่วยจัดพอร์ตการลงทุนและการตัดสินใจลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนที่จะร่วมกันนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนใน Multi-asset ที่จะออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้

 

ก่อนหน้านี้ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ยังได้ร่วมกับทีเอ็มบีธนชาต ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุน ทีทีบี สมาร์ท พอร์ต (ttb smart port ) พอร์ตการลงทุนสำเร็จรูปแนวใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยประกอบด้วย 5 พอร์ตการลงทุนสำเร็จรูป ที่ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้เองตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยจากการเปิดขายครั้งแรกเมื่อเดือน มิถุนายน 2564 สามารถระดมทุนได้ประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาท จนปัจจุบันผ่านมา 1 ปีมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวม 22,936 ล้านบาท (ข้อมูล เดือน มิถุนายน 2565) (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย)) ซึ่งคาดว่ากองทุน ทีทีบี สมาร์ท พอร์ต (ttb smart port) จะเป็นกองทุนหลักอีกหนึ่งกองทุนของบลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ในอนาคต

 

นอกจากนี้ ด้วยจุดแข็งจากความเข้าใจในตลาดไทยมายาวนานและการเข้าถึงข้อมูลการลงทุนในระดับโลก บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ได้มุ่งเน้นทางด้านการให้ความรู้และคำแนะนำในการลงทุน รวมถึงรายงานข้อมูลต่างๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ และการวิเคราะห์ตลาดกับผู้ลงทุน ในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดสัมมนาออนไลน์ FB Live และการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆอย่างต่อเนื่อง

 

Holistic Health & Wealth

ด้วยจุดแข็งสำคัญที่มีผู้ถือหุ้นหลักคือกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) ผู้ให้บริการทางการเงินระดับสากล บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เชื่อมั่นว่าการผสานกันระหว่างแนวคิดความมั่งคั่งที่มาพร้อมความมั่นคงจะต่อยอดความสำเร็จในโอกาสการลงทุนแก่ผู้ลงทุนได้ดียิ่งขึ้น ณ ปัจจุบัน ทางบริษัทมีประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) ที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนผ่านพรูเด็นเชียลทั้งหมด 16 กองทุน นอกจากนี้ยังร่วมมือกันเพื่อยกระดับการบริการด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกด้วย บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาต่อยอดและนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการด้านการลงทุนให้แก่คนไทยอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อเสริมจุดแกร่งนี้ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ด้วยความเชื่อมั่นว่า สุขภาพกายและสุขภาพการเงินเป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกัน

 

ด้วยการผสานพลังร่วมกันภายใต้แบรนด์ บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ทั้งประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญในเชิงลึกสำหรับตลาดประเทศไทย และศักยภาพบริการด้านการลงทุนชั้นนำของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ ในระดับสากล บริษัทพร้อมที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือกองทุนที่มีคุณภาพและหลากหลายให้นักลงทุนชาวไทยได้เลือกสรร ทั้งกองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสารหนี้ ทั้งในและต่างประเทศ ผ่านทางช่องทางการขายของทีเอ็มบีธนชาต และตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนอีกกว่า 55 แห่ง ทั้งที่เป็นธนาคาร บริษัทประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน รวมถึงทีมขายของบริษัท

 

[อ่าน 1,644]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จักกับ “Jack Wey” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ GWM WEY
AssetWise ยกระดับเมืองน่าอยู่ จัดประกวดออกแบบ “สุขา สุขี: THE HAPPY TOILET PROJECT”
Trip.com จับมือโรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ เปิดประสบการณ์อาหารระดับโลก
เกาหลีรุก! ปล่อยหมัดเด็ด “Hyundai Deal SEOUL Good” กับข้อเสนอ Motor Expo 2025
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ กวาดรางวัลต่อเนื่อง ติดอันดับ 60 โรงแรมยอดเยี่ยมของโลก
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ พลิกโฉมแอป GEN 365 ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า สู่แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านประกันชีวิตครบวงจร
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved