Back to Top
จับตาศึกชิงแฟรนไชส์ซี KFC กับความหวังยกระดับสวัสดิภาพไก่?
15 Aug 2022

เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานความเคลื่อนไหวของดีลธุรกิจอาหารครั้งใหญ่ เมื่อ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ RD ต้องการขายสิทธิ์การบริหารกิจการ KFC ในประเทศไทยที่บริหารอยู่ราว 240 สาขา สถานการณ์นี้กำลังเป็นที่จับตาในกระแสธุรกิจอย่างร้อนแรง แต่ไม่ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท เซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป หรือ บริษัท เดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (บริษัทในเครือไทยเบฟเวอเรจ)  ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการแฟรนไชส์ KFC ในประเทศไทยอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว จะกลายมาเป็นผู้ถือครองสิทธ์แฟรนไชส์ KFC เจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยหากมีการปิดดีลธุรกิจกับ RD สำเร็จ แต่กระนั้นในมุมมองความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคมต่อแหล่งที่มาของเนื้อไก่ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงนโยบายที่คำนึงถึงการยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพไก่ จะยังมีความหวังอยู่หรือไม่

 

KFC แบรนด์ไก่ทอดระดับโลกยอดนิยมของคนไทยนั้น ซึ่งมี บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นเจ้าของและดำเนินการขายสิทธิ์แฟรนไชส์ ซึ่งมีสาขาทั้งหมด 22,621 สาขา (ปี พ.ศ. 2562) กระจายอยู่ใน 150 ประเทศทั่วโลก*  รวมถึงประเทศไทยที่มีเกือบ 1,000 สาขา ซึ่งทำให้ KFC สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่อีกมุมของโลกการบริโภคอย่างยั่งยืนได้กลายเป็นกระแสที่ผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญ โดยแบรนด์ในดวงใจต้องเป็นแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้บริโภค รวมถึงการใส่ใจถึงแหล่งที่มาของไก่ คุณภาพชีวิตของไก่ ไก่ต้องแฮปปี้ มีสวัสดิภาพที่ดี ก่อนที่จะกลายมาเป็นเมนูไก่แสนอร่อยบนจานอาหาร

 

ปลายปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคในฝั่งประเทศยุโรปกว่า 5 แสนคน เรียกร้องให้แฟรนไชส์ซี KFC ใส่ใจสวัสดิภาพไก่และให้ความสำคัญกับแหล่งที่มา จนในที่สุดแฟรนไชส์ซี KFC ในยุโรป 8 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, เยอรมนี เนเธอร์แลนด์, เบลเยียม, สวีเดน, เดนมาร์ก, และฝรั่งเศส ได้ให้คำมั่นต่อสาธารณะที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของไก่ให้ดีขึ้นภายในปี พ.ศ.2569 นับเป็นการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ที่จะช่วยชีวิตไก่ได้หลายล้านตัวให้รอดพ้นจากความทุกข์ทรมานจากปัญหาหัวใจ ปอด และกระดูกจากการเลี้ยงไก่แบบเร่งโต

 

ในขณะที่ KFC ในประเทศไทย ถูกจัดอันดับในรายงาน The pecking order 2021 ของ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ว่ามีนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์อยู่ในระดับ “แย่ที่สุด” 2 ปีติดต่อกัน รวมทั้งยังเพิกเฉยต่อเสียงผู้บริโภคชาวไทยกว่า 20,000 คนที่เรียกร้องให้เปิดเผยถึงแหล่งที่มาของไก่ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารรวมถึงนโยบายต่างๆเพื่อยกระดับสวัสดิภาพไก่

 

เหมือนดาว คงวรรณรัตน์ ผู้จัดการโครงการสัตว์ฟาร์ม องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า "ข่าวการเปลี่ยนแฟรนไชส์ซี KFC ประเทศไทย ไม่ว่าการเปลี่ยนขั้วอำนาจใหม่จะเป็นเจ้าไหน เจ้าของแฟรนไชส์ชี KFC ใหม่จะต้องรีบประกาศทิศทางการประกอบธุรกิจที่สอดคล้องประโยชน์ของผู้บริโภค และมีความรับผิดชอบต่อสังคมโดยเฉพาะในเรื่องสวัสดิภาพไก่ เพราะในแต่ละปี ผู้บริโภคคนไทยกินไก่ KFC ถึง 300 ล้านชิ้น** KFC ประเทศไทย จึงจำเป็นต้องให้ข้อมูลการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานของตนเองว่ามีการคัดเลือกแหล่งที่มาของไก่อย่างไร รวมถึงเร่งประกาศนโยบายเพื่อพัฒนาสวัสดิภาพไก่แก่สาธารณะ ซึ่งจะเป็นการสะท้อนภาพการเป็นผู้นำธุรกิจฟาสต์ฟู้ดอย่างแท้จริง ที่ดำเนินธุรกิจโดยไม่เพียงแค่คำนึงถึงผลเร่งขยายสาขาและเพิ่มยอดขาย แต่หากต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค และมิติของความยั่งยืน รวมทั้งเทรนด์โลกที่ผู้บริโภคมีความใส่ใจเรื่องสวัสดิภาพสัตว์มากขึ้นด้วย”

 

 

หากลองวิเคราะห์ถึงศึกชิงแฟรนไชส์ซี KFC ระหว่าง ไทยเบฟ VS เซ็นทรัล ครั้งนี้ กับความต้องการของผู้บริโภคเรื่องสวัสดิภาพไก่ ที่ไม่อยากเห็นความทุกข์ทรมานของสัตว์ก่อนกลายมาเป็นอาหาร เรายังไม่เห็นทิศทางการดำเนินงานหรือนโยบายที่คำนึงถึงสวัสดิภาพไก่ที่นำมาเป็นวัตถุดิบหลัก ในฐานะที่เป็นผู้ดำเนินกิจการแฟรนไชส์ซี KFC ที่ผ่านมา เราหวังว่า ภายใต้การบริหารใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากศึกชิงแฟรนไชส์ซี KFC นี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนและเป็นโอกาสให้เกิดทิศทางในการยกระดับสวัสดิภาพไก่ตามเทรนด์ของโลก และเป็นความหวังในการนำพาคุณภาพชีวิตไก่ที่ดีมาสู่จานผู้บริโภค

 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.worldanimalprotection.or.th/The-Pecking-Order-2021

* https://www.longtunman.com/26247

*https://www.kfc.co.th/aboutus

 

[อ่าน 1,214]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีเส็บเจาะตลาด MI นานาชาติ ชูเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน เปิดตัวทริปสุขภาวะ ขบวนรถไฟเอ็กซ์คลูซีฟ สถานที่จัดงานหลากหลาย
SME D Bank ร่วมแสดงความยินดี กับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM คนใหม่
THANA ดันบ้านประหยัดพลังงาน “ธนาวิลเลจ บางนา-บางบ่อ” คว้าฉลากเบอร์ 5 จาก กฟผ. เจาะกลุ่ม First Jobber
OR ร่วมกับ บางกอกแอร์เวย์ส นำร่องใช้น้ำมัน SAF ที่ผลิตในไทยเป็นครั้งแรก ยกระดับการบินสู่ความยั่งยืน
ศรีจันทร์ รุกตลาดกันแดด เปิดตัว เซรั่มกันแดดกุหลาบ ตอกย้ำแนวคิด “แดดเมืองไทยไม่มีใครเข้าใจเท่าเรา”
คาเฟ่ อเมซอน ดันกาแฟพรีเมียม “Selected Cup” คว้า “อิ้งค์ วรันธร” เสริมภาพลักษณ์ผู้นำตลาด
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved