ผู้ประกอบการบะหมี่สำเร็จรูปขึ้นเวทีแถลงข่าวด้วยกัน 5 แบรนด์หลักของตลาดเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี เพื่อวอนกรมการค้าภายในขอปรับราคาขายปลีก จาก 6 บาทเป็น 8 บาท หลังไม่ได้ปรับมา 14 ปีแล้ว มิฉะนั้น ก็ต้องเน้นการส่งออกที่สามารถขายปลีกได้ตามต้นทุนที่แท้จริงและลดปริมาณการขายภายในประเทศ
เรามาดูกันว่า ตลาดต่างประเทศขนาดใหญ่เพียงใด และชอบแนวไหนบ้าง
เฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปริมาณตลาดมีมากกว่า 1 แสนล้านหน่วยต่อปี และเติบโตขึ้นทุกปี จากการสำรวจของ Mintel พบว่า ญี่ปุ่น ประเทศต้นกำเนิดบะหมี่สำเร็จรูปเปิดตัวสินค้าใหม่มากที่สุดในปี 2564 รองลงมาคือ มาเลเซียและเกาหลีใต้ ด้วยการเคลมว่า เสร็จไว ขณะที่เหตุผลที่ผู้บริโภคซื้อเพราะมีฮาลาล และมีส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3 รสชาติที่ใช้พัฒนาบะมี่สำเร็จรูปใน APAC
1) รสแซ่บ มีเผ็ดเปรี้ยวนำ
2) ความอร่อย ต้องมีอูมามิ
3) ความเข้มข้น น้ำซุปต้องมีเข้มข้น
แต่ที่ขาดไม่ได้ คือ ผู้บริโภคต้องการกินคลีน กินอาหารที่มีความปลอดภัย ไม่ปนเปื้อน
ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ (24 ส.ค. 2565) วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน อนุญาตให้ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาม่า ไวไว และยำยำ ปรับราคาสินค้าขึ้นได้ไม่เกินซองละ 1 บาทให้แก่ ในขนาดซอง 6 บาท เป็นซองละ 7 บาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (25สิงหาคม2565) เป็นต้นไป