สำหรับ ‘เด็กจบใหม่’ ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน แม้ว่าเราจะเรียนมาเยอะ ทำกิจกรรมมาหลากหลาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงาน คือการนำเอาความรู้ความสามารถที่เรามีไปใช้ในชีวิตการทำงานได้จริงหรือไม่ และยังมีทักษะอื่นๆ ที่ไม่มีสอนในคลาสเรียน ที่เรียกว่า ‘Soft skill’ หรือทักษะที่เกิดมาจากประสบการณ์การใช้ชีวิต การเข้าสังคม และการทำงาน ต้องอาศัยระยะเวลาในการพัฒนาและสั่งสมมาเรื่อยๆ ก็ถือเป็นทักษะสำหรับชีวิตเริ่มต้นของการทำงาน ฉบับนี้ Marketing 101 จึงได้รวบรวม Soft Skills ที่จำเป็นสำหรับเด็กจบใหม่ มาฝากกันนะครับ
Soft skill กับ Hard skill คืออะไร
Soft skill เป็นทักษะของบุคคลในเชิงด้านสังคม, ลักษณะนิสัย, ทัศนคติและความคิดต่างๆ เช่น การทำงานเป็นทีม ความเป็นผู้นำ หรือทักษะการสื่อสาร การมี Soft skill จะทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับตัวเข้ากับสังคมใหม่ๆ หรือสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะทำงานกับทีมเล็กหรือจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม soft skill ไม่ได้สำคัญแค่เพียงกับการทำงาน แต่ก็ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์อื่นๆ ด้วย เช่น ครอบครัวหรือเพื่อนฝูง เป็นต้น
ในขณะที่ Hard skill เป็นความสามารถทางเทคนิค ซึ่งเป็นความสามารถที่เรียนรู้มาจนเกิดความชำนาญและนำไปต่อยอดสู่อาชีพของเรา เช่น ความสามารถทางการคำนวณ ความสามารถทางภาษา, การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์, การบัญชี เป็นต้น ซึ่งเป็นความสามารถที่เราสามารถประเมินผลได้
7 Soft skills ทักษะสำคัญที่เด็กจบใหม่ควรมี
1) รู้จักตนเองและงานที่ทำ (Self awareness)
เด็กจบใหม่ควรต้องรู้จักตัวเอง ต้องประเมินตนเองได้ว่า เรามีจุดเด่นอะไร จุดอ่อนด้านใดบ้าง และต้องมีความเข้าใจในงานที่เราอยากทำด้วยว่าองค์กรนั้นต้องการคนที่มีคุณสมบัติแบบใดมาทำงาน สอดคล้องกับจุดแข็งของเราเองที่มีหรือไม่ ถ้าเราเข้าใจตรงนี้และมีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับความต้องการก็จะทำให้เรามีโอกาสที่องค์กรรับเข้าทำงานมากขึ้น
2) ทักษะในการสื่อสารและนำเสนอ (Communication & Presentation Skill)
ควรมีการสื่อสารให้เป็นและดูน่าสนใจ ทั้งการนำเสนอตัวเองและงานต่างๆ ต้องมีชั้นเชิงและวิธีในการพูดเพื่อนำเสนอและดึงดูดความสนใจของผู้ฟังให้เกิดความเข้าใจและคล้อยตาม ก็จะทำให้การทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกสิ่งหนึ่งจะทำให้อาชีพการงานก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
3). ทักษะในการปรับตัว (Adaptability)
สำหรับเด็กจบใหม่การมีทักษะการในการปรับตัว ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากของการทำงานในองค์ในยุคนี้ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ด้านเดียว เราจะต้องมีการปรับตัวในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านความคิด สภาพแวดล้อม สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว
4). ทักษะในการแก้ไขปัญหา (Problem solving)
ในชีวิตประจำวันของเรามักจะต้องเจอปัญหาอย่างแน่นอนและสิ่งที่เราควรทำก็คือการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและเรียบร้อยมากที่สุด ซึ่งในทุกการทำงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่มากก็น้อย ถ้าเด็กจบใหม่มีทักษะนี้ และสามารถแสดงให้บริษัทที่เราไปสมัครงานเห็นได้ เราก็จะทำให้เปอร์เซ็นต์โอกาสการได้งานสูงมาก
5). ทักษะในการตัดสินใจ ( Decision Making)
การมีทักษะการตัดสินใจที่ดีได้นั้น เราควรใช้ข้อมูลและเหตุผล มาเปรียบเทียบหลายๆ ด้าน ในการ วิเคราะห์พิจารณาเลือกในการปฏิบัติต่อสถานการณ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามสิ่งที่เราต้องการ ไม่ควรใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ เพราะอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดในงานนั้นๆ ได้ ซึ่งการพัฒนาทักษะการตัดสินใจให้ดียิ่งขึ้นนั้นต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องรวมถึงฝึกฝนการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ให้สามารถตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่ต้องการก็จะทำให้เกิดการตัดสินใจที่แม่นยำและถูกต้องมากยิ่งขึ้น
6). ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
เป็นทักษะที่สำคัญไม่แพ้ทักษะอื่นที่ได้กล่าวมา เพราะคนที่มีทักษะความคิดสร้างสรรค์ ไม่เพียงแต่การคำความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนาต่อยอดความคิดไปใช้ในการพัฒนาสินค้า บริการ หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ เท่านั้น ยังรวมไปถึงการทำนทักษะความคิดสร้างสรรค์ไปใช้การแก้ปัญหา เพื่อให้มีทางออกในแบบใหม่ๆ ให้มีทางเลือกอื่นๆ ที่ดีกว่าเดิมอีกด้วย
7). ทักษะการทำงานเป็นทีม (Teamwork)
สำหรับเด็กจบใหม่นั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อก้าวสู่โลกของการทำงานก็คือการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งการอาจจะพบกับปัญหาในเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน การสื่อสารที่คลาดเคลื่อนทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน ดังนั้นบุคคลที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีจะต้องมีการรับฟังความเห็นของผู้อื่น เปิดใจกันในการทำงานโดยยึดวัตถุประสงค์ของงานเป็นหลักเพื่อที่จะให้ผลของงานออกมาดีที่สุด
ก่อนจะเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน ถ้าได้เตรียมตัวไว้ก่อนและสำรวจตัวเองให้มีความพร้อมสำหรับ 7 Soft Skills ทักษะสำคัญเด็กจบใหม่ควรมี ก็จะช่วยให้เราได้เปรียบและมีโอกาสได้เข้าร่วมงานกับองค์กรต่างๆ ได้มากขึ้น ลองนำไปใช้กันดูนะครับ
บทความคอลัมน์ Marketing 101 ตีพิมพ์ใน MarketPlus Magazine Issue 150
เขียนโดย คุณเจษฎา อุดมถิรพันธุ์