“เบทาโกร” เผยไตรมาส 3/65 กำไร 2,407.2 ล้านบาท 
เติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ และมีอัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

10 Nov 2022

บมจ. เบทาโกร (“บริษัทฯ” หรือ “BTG”) ประกาศผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/65 มีรายได้รวม 29,690.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากไตรมาส 2/65 และ 49.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,407.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.0% จากไตรมาส 2/65 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 8.1% โดยทั้งอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิรายไตรมาสปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หนุนงวด 9 เดือนของปีนี้ กวาดกำไรทะลุ 6,299.6 ล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน หลังมุ่งเน้นกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง มั่นใจภาพรวมผลงานปี 2565 เดินหน้าสร้างรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตอกย้ำศักยภาพหุ้นปัจจัยพื้นฐานแกร่ง ที่พร้อมสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 เบทาโกรสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและโดดเด่น โดยมีรายได้รวม 29,690.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากไตรมาส 2/65 และ 49.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 2,407.2  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.0% จากไตรมาส 2/65 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 8.1% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก -6.3% 4.2% 7.5% และ 6.6% ในช่วง 4 ไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ ส่งผลให้ภาพรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม - กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 83,825.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และหนุนกำไรสุทธิเติบโตสู่ระดับ 6,299.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็น 7.5% จาก -0.1% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน”

ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของยอดขายจากทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ตามปริมาณการขายและราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ดังนี้ 1) กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตก้าวกระโดด จากปริมาณการขายและราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ อาหารแปรรูป และเนื้อสัตว์แปรรูป ทั้งในประเทศและตลาดส่งออก2) กลุ่มธุรกิจเกษตร มีรายได้เพิ่มขึ้นจากราคาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบหลัก เช่น กากถั่วเหลือง 3) กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ได้รับผลดีจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายของอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์อาหาร โดยเฉพาะตลาดในประเทศกัมพูชาและลาวที่มีการขยายตัวอย่างมาก 4) กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง เป็นการเพิ่มขึ้นทั้งราคาและปริมาณการขายอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิต และการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่มีราคาขายสูงขึ้น ตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงอย่างต่อเนื่อง

 

 

ทั้งนี้ สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 เบทาโกร มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 68% ของรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ ส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจเกษตร กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ประมาณ 25%, 5% และ 2% ตามลำดับ นอกจากนี้ เบทาโกรสามารถสร้างการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นรายไตรมาสให้สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจาก 9.7% (ไตรมาส 3/64) 11.2% (ไตรมาส 4/64) 17.9% (ไตรมาส 1/65) 19.6% (ไตรมาส 2/65) มาอยู่ที่ 21.2% ในไตรมาส 3/65 ขณะเดียวกัน มีอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ที่ 19.7% เพิ่มขึ้นจาก 13.8% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่มุ่งเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมรับประทาน รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมขบเคี้ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง การให้ความสำคัญกับช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีกำลังซื้อสูง ภายใต้ช่องทางของแบรนด์เบทาโกร ผู้ให้บริการด้านอาหาร (Food Service) และช่องทางค้าปลีกแบบสมัยใหม่ ตลอดจนความสามารถในการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้บริษัทยังมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายและในการบริหารต่อรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 11.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 13.5%

 

วสิษฐ กล่าวเสริมว่า “ทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างแข็งแกร่ง จากกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนประโยชน์ที่ได้รับจากราคาเนื้อสัตว์ที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงไปอีกอย่างน้อย 1–2 ปี ประกอบกับความสามารถของเบทาโกร ที่มุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารและช่องทางจัดจำหน่ายที่มีมูลค่าสูง ตลอดจนความสามารถในการควบคุมต้นทุนราคาวัตถุดิบด้วยระบบฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและการมุ่งเน้นสินค้าในกลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีนที่ได้อัตรากำไรที่ดีกว่า เพื่อลดผลกระทบของอัตรากำไรจากความผันผวนของราคาเนื้อสัตว์”

“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แผนสร้างการเติบโตที่ชัดเจนทั้งในประเทศและต่างประเทศและความสามารถในการแข่งขันของเบทาโกร ซึ่งมุ่งเน้นในการเป็น World-Class Branded Food Company ผ่านการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้ BTG เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีคุณภาพเพราะปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตลอดจน มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนในระยะยาว”

[อ่าน 1,457]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไมเนอร์ โฮเทลส์ เปิดตัว 4 แบรนด์ใหม่ เสริมแกร่งพอร์ตโฟลิโอทั่วโลก
SC ผนึก 5 สถาบันการเงิน เสนอขายหุ้นกู้ 2 ชุด หุ้นกู้อายุ 3 ปี และ 4 ปี เปิดจองซื้อ 18 และวันที่ 21 – 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1’ ยางชั้นเยี่ยมที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถไฮเปอร์คาร์ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ โดยเฉพาะ
นับถอยหลังเปิดตัว HYUNDAI SANTA FE ใหม่! ชูเครื่องยนต์ไฮบริด – 15 ก.ค. นี้
ออมสินโชว์ผลสำเร็จ 5 ปี “ธนาคารเพื่อสังคม” ช่วยคนไทย 13 ล้านชีวิต ส่งรายได้เข้ารัฐกว่า 9.6 หมื่นล้าน
ไอคอนคราฟต์ เผยเสน่ห์งานคราฟต์ไทยร่วมสมัย ผ่านแคมเปญ 'The Craft of Style'
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved