ตอกย้ำจุดขาย ‘สเปกคุ้มค่า - คุ้มราคา’
Infinix แบรนด์ที่มาพร้อมจุดขาย ‘สเปกคุ้มค่า - คุ้มราคา’ และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานโดยชี้วัดได้จากยอดสืบค้นจาก Google Trend และ ยอดขาย Double Day จากแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชื่อดัง
ซึ่งสะท้อนจาก วิลเลียม เฉิน ผู้จัดการประจำประเทศไทย อินฟินิกซ์ ไทยแลนด์ ถึงภาพรวมการแข่งขันของตลาดสมาร์ตโฟนในระดับภูมิภาคและประเทศไทยในฐานะที่เป็นสมาร์ตโฟนระดับโลก ตลอดจนแผนบุกตลาดปีหน้าของ Infinix เป้าหมายการเติบโตและกลยุทธ์การทำตลาดที่ยังคงเน้นสร้างแบรนด์ ทำตลาดด้วยของดี มีคุณภาพ สเปก/ราคา ‘คุ้มค่ากว่า’ เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน
การแข่งขันของสมาร์ตโฟนปี 2022 - 2023 ในระดับภูมิภาคเป็นอย่างไร ยังคงผันผวนจากตัวแปรอะไรหรือไม่
ในส่วนของภาพรวมการแข่งขันของสมาร์ตโฟน ต้องแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้
กระแสการตอบรับ Infinix ในประเทศไทยเป็นอย่างไร
ภาพรวมเมื่อนับจากปีที่ผ่านมา Infinix ได้กระแสตอบรับที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จากลูกค้าชาวไทย ซึ่งเห็นได้จากการวัดผล Search Volume บน Google Trend เมื่อเทียบกับปี 2021 โดยเรามี Search Volume มากขึ้นประมาณ 30% นอกจากนี้ เมื่อดูจากกระแสตอบรับในช่วง Mega Sale ต่างๆ เราติดอันดับ Top 5 ทุกครั้งในแคมเปญกิจกรรม Double Day เช่น 9.9, 11.11 ทั้งบน Shopee และ Lazada เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว ซึ่งเราแทบจะไม่ติดอันดับเลย ซึ่งถือได้ว่านี่คืออีกหนึ่งตัวชี้วัดที่ทำให้เห็นว่า เราได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญ ยอดขาย Infinixในปี 2565 เราเติบโต 160% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ และเราคาดว่า ยอดขายในปี 2566 จะเติบโตขึ้นอีก 30%
Infinix เหมาะกับ กลุ่มเกมเมอร์ และกลุ่มไหนอีกหรือไม่
เกมเมอร์ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา NOTE Series ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเล่นเกม เนื่องจาก NOTE Series มีหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้รับชมความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ และมาพร้อมระบบเสียง DTS ที่ให้ประสบการณ์ความบันเทิงที่ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
ขณะที่กลุ่มเป้าหมายรองของเรา คือ กลุ่มคนที่ใช้งานทั่วไป แต่ต้องการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์กลุ่ม ZERO Series จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่น Top เพราะหากมีการเปิดตัวหรือมีของเข้ามาเมื่อไหร่ก็จะขายหมดสต็อกทุกครั้ง เนื่องจากคุณสมบัติของชิปเซ็ตที่มีความโดดเด่นกับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ถ่ายภาพ หรือใช้งานทั่วไป ZERO Series สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุด พร้อมยังคงคอนเซ็ปท์ของแบรนด์ที่มีความคุ้มค่าที่สุดในช่วงเรทราคาเดียวกันเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น
สมาร์ตโฟนรุ่นที่เป็น Flagship Product คืออะไร และมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งขันในราคาเดียวกันอย่างไร
ในปีนี้ Flagship Product ของเราคือ Infinix ZERO 20 ที่มาพร้อมสโลแกน ‘Capture Your Own Story from ZERO 20 – เริ่มต้นทุกเรื่องราวด้วย ZERO 20’ โดดเด่นกว่าคู่แข่งด้วยกล้องถ่ายภาพระดับมือโปร ซึ่งเป็นรายแรกของโลกที่มาด้วยกล้องหน้าความละเอียด 60 ล้านพิกเซล และมีระบบกันสั่นแบบ OIS ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และช่างภาพมืออาชีพ พร้อมกล้องหลังความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เสริมทัพด้วยโปรเซสเซอร์ทรงพลังจาก MediaTek Helio G99 และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้วยหน่วยพื้นที่ความจำ Rom 256GB Ram 8+5GB เปิดตัวในราคา 8,999 บาท
ซีรีส์ใหม่ที่จะทำตลาดในปีหน้า มีไฮไลต์ของฟีเจอร์ เทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจ หรือไม่
รายละเอียดยังเปิดเผยไม่ได้ แต่น่าจะได้เห็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์อื่นๆ อีกเช่นเคย อย่างเช่นที่ผ่านมา HOT 20 Series มีการร่วมมือกับทาง Free Fire ผลิตกล่อง Special Box Set พร้อมของแถมมาช่วยเรียกความสนใจให้เหล่าเกมเมอร์พร้อมพัฒนาฟีเจอร์ AI Camera รวมถึงธีมและวอลเปเปอร์ร่วมกัน
แผนการ ‘รุกและรบ’ ของ Infinix เป็นอย่างไร
สำหรับแผนการรุกตลาดในประเทศไทย กลยุทธ์การตลาดทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากโปรดักต์ที่ดีมีคุณภาพใช้งานได้จริง ในราคาที่เป็นมิตร และขณะเดียวกันได้เน้นการสร้างแบรนด์เพื่อให้คนจดจำในระยะยาวและติดตลาด พร้อมทั้งเน้นความคุ้มค่ากับสเปกของโปรดักต์ที่เราให้
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อมั่นว่า เมื่อตำแหน่งทางการตลาดของสินค้า (Product) ของเราชัดเจน ทิศทางการทำการตลาดก็จะชัดเจน กล่าวคือ หลักๆ เราเน้นจับกลุ่มคนเล่นเกม และกลุ่มรองคือคนที่ใช้งานทั่วไป แต่ต้องการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ขณะเดียวกัน เราก็เน้นที่กลุ่มลูกค้าระดับล่าง-กลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่เราจับตลาดด้วยการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไป โดยเราจะให้ราคาที่คุ้มค่าที่สุดในช่วงราคานั้นๆ พร้อมทั้งมีการร่วมมือกับ KOLs ดารา นักร้องมากมาย เพื่อตอบโจทย์ ‘ความเป็นแบรนด์ที่คุ้มค่า’ สำหรับคนรุ่นใหม่ ทันสมัย และโดดเด่น พร้อมทั้งให้การสนับสนุนภาคการศึกษาในคณะ e-Sport เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์มากขึ้นและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้นด้วย
ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น จากในอดีตที่เราเน้นตลาดออนไลน์เป็นหลัก โดยใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ เพื่อทำการสื่อสาร จากนั้นจึงผลักการขายไปที่อีคอมเมิร์ช แต่ในปีนี้เราเริ่มเน้นวางจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ มากขึ้น ทั้งร้านตู้ตามห้าง, เซเว่น-อีเลฟเว่น นอกจากนี้ก็มีเชน Retail Brand Shop อย่าง Jaymart BaNANA, Advice, IT City รวมทั้งทรู ก็นำบางรุ่นของเราไปร่วมวางจำหน่ายเช่นกัน
Infinix จะร่วมเทศกาลเฉลิมฉลองส่งความสุขกับคนไทยหรือไม่ อย่างไร เพื่อส่งท้ายปี
เพื่อเป็นการส่งความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศ เราจะมีกิจกรรม Merry Christmas & Happy New Year Surprise ซึ่งเป็นกิจกรรมจับฉลากคืนความสุขให้ลูกค้า Infinix ช่วงสิ้นปี ต้อนรับปีใหม่ สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Infinix ทุกรุ่นรุ่นใดก็ได้ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 2 มกราคม 2566 เพียงเข้าไปลงทะเบียนใน Link QR ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ Inifnix NOTE 12 G96, Infinix HOT 20 และกระเป๋าเป้ Inifnix ทั้งหมด 20 รางวัล มูลค่ารวมทั้งหมด 55,390 บาท ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Infinix Mobile Thailand