รู้ก่อน...โตก่อน เซเว่นฯ ชี้ช่อง 7 กลุ่มสินค้า SME มาแรงปี’66
22 Dec 2022

 

ธุรกิจ SME จะเติบโตได้อย่างแข็งแรงและยั่งยืนได้นั้น ผู้ประกอบการ SME ต้องรู้ทันตลาด เพื่อผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่ หนึ่งในหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ในทุกมิติ รวมไปถึงรวบรวมข้อมูลด้านการตลาดผ่านกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศที่ปัจจุบันมีจำนวนสูงถึง 12 ล้านคนต่อวัน เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลช่วยสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการ SME และจากการรวบรวมข้อมูลทำให้เห็นถึงเทรนด์สินค้าที่จะได้รับความนิยมในอนาคต โดยกลุ่มสินค้าที่น่าจับตามองและถูกจัดให้เป็นเทรนด์ในปี 2566 และในอนาคตมีจำนวน 7 กลุ่มสินค้า

 

 

1.กลุ่มสินค้าสำหรับผู้สูงวัย : ตลาดผู้สูงวัยเป็นตลาดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ เต็มไปด้วยกำลังซื้อ เพราะมีทั้งเงินออม เงินบำนาญ และไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมากเหมือนวัยหนุ่มสาว ดังนั้นสินค้าที่จะคว้าใจผู้สูงวัยได้นั้นจะเป็นสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือสินค้าที่ช่วยสร้างประสบการณ์ดีๆ เช่น ข้าวต้มพร้อมรับประทาน หากนำนวัตกรรมมาช่วยให้ข้าวต้มยังคงความหอมเหมือนหุงเอง และสามารถคงคุณประโยชน์ของข้าวไว้อย่างครบถ้วน ก็จะสามารถคว้าใจของผู้บริโภคในกลุ่มสูงวัยได้

 

 

2.กลุ่มสินค้าเพิ่มความสะดวก : พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันชอบความสะดวกสบาย ดังนั้นสินค้าจึงต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค เช่น ผลไม้ที่เดิมใส่ห่อขายเป็นลูก อาจจะต้องหั่นเป็นชิ้นพร้อมไม้จิ้ม เพื่อความสะดวกในการรับประทาน หากเพิ่มพริกกะเกลือหรือเครื่องจิ้มอื่นไปในแพ็กเกจจิ้ง ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า นำมาสู่ยอดขายที่เติบโตขึ้น

 

 

3.กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ & ความงาม : สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความใส่ใจกับเรื่องของสุขภาพและการดูแลตัวเองอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้ว่าสินค้าและบริการในกลุ่มนี้มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อาทิ สินค้าธัญพืช สินค้าที่มีส่วนผสมของสมุนไพร

 

4.กลุ่มสินค้าไซส์เล็ก : ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ชอบทดลองสิ่งใหม่ ชอบความสะดวกสบาย และนิยมการอยู่คนเดียวหรือมีครอบครัวขนาดเล็ก ดังนั้นหากผู้ประกอบการผลิตสินค้าเพื่อการบริโภค สินค้าควรบรรจุอยู่ในแพ็กเกจจิ้งที่เหมาะแก่การรับประทานในครั้งเดียว และในปริมาณที่เหมาะสำหรับการรับประทานแค่ 1-2 คน สำหรับผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าอุปโภคก็ควรปรับลดขนาดให้เล็กลง เช่น ครีม อาจปรับให้อยู่ในรูปแบบซอง เพื่อความสะดวกในการพกพา ในราคาที่จับต้องได้

 

 

5.กลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : การใส่ใจและรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคยุคใหม่มักมองหาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงตัวสินค้าและแพ็กเกจจิ้งต้องตอบโจทย์ในเรื่องสิ่งแวดล้อม

 

6.กลุ่มสินค้าที่ต่อยอดเอกลักษณ์จากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น : เทรนด์ความสนใจในผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นหรือ Local Lover มีแนวโน้มเติบโตอีกครั้งในช่วงหลังการคลี่คลายของสถานการณ์ COVID-19 ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าท้องถิ่นสามารถขึ้นทะเบียนขอรับตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อยืนยันว่าเป็นแบรนด์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพและมีแหล่งที่มาจากท้องถิ่นนั้นๆ จริงๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มฐานลูกค้าประจำของสินค้าท้องถิ่นนั้นๆ ขณะเดียวกัน หากนำมาพัฒนาต่อยอดก็จะทำให้ได้ฐานลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคกลุ่มใหม่เพิ่มเติม เช่น “มะขามหวานเพชรบูรณ์” ที่ บริษัท สวนผึ้งหวาน จำกัด นำมาพัฒนาต่อยอดในหลากหลายรสชาติ หลากหลายรูปแบบ ทำให้ปัจจุบันสามารถขยายตลาดได้ทั้งภายในและภายนอกประเทศ สร้างยอดขายได้สูงถึง 250 ล้านบาทต่อปี

 

 

7.กลุ่มสินค้าที่มีนวัตกรรม : นวัตกรรมยังคงเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับคู่แข่งในตลาดแล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ถึงแม้จะเป็นสินค้าพื้นบ้านก็มีโอกาสเติบโตใด้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต เช่น แหนมสุทธิลักษณ์ ที่นำเอาเทคโนโลยีการฉายรังสีมาใช้กับการถนอมอาหารประเภทแหนม เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในเนื้อหมู สามารถช่วยยืดอายุการจัดเก็บสินค้าให้ยาวนานถึง 2 เดือน โดยปราศจากสารกัมมันตรังสีตกค้าง สามารถรับประทานได้ทันทีไม่ต้องนำไปผ่านความร้อน ปัจจุบันมีจำหน่ายทั่วประเทศ

 

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจหรือพัฒนาสินค้าในอนาคต สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ประกอบการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี

[อ่าน 1,042]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เผยลักษณะสำคัญของ Savvy Explorers ในเอเชียแปซิฟิก
อโกด้าเผยไทยติดอันดับ 2 จุดหมายยอดฮิตของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงโกลเดนวีค
เปิดโพล!! คนไทยคิดอย่างไรกับสงกรานต์ 21 วัน
หลุยส์คาเฟ่ ปลุกกระแสแบรนด์เนมตื่น เอนเกจพุ่ง 950 % หลังเปิดตัวเพียงครึ่งเดือน
สัญญาณดีๆ ของปี 2023 มีส่งต่อปี 2024 ไหม
TikTok ร่วมพัฒนาอนาคตแห่งความบันเทิงและการค้าในปี 2567
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved