ตามที่ เดนท์สุ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ประกาศควบรวมปรัชญาและวิสัยทัศน์ใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่มกราคม 2566 ซึ่งโครงสร้างใหม่มีเป้าหมายหลัก เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร และยกระดับการบูรณาการการให้บริการให้ครอบคลุมทุกมิติอย่างไร้ขีดจำกัด
คุณโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ จะรับผิดชอบดูแลด้านการบริหารจัดการแผนกลยุทธ์ธุรกิจนวัตกรรมของกลุ่มบริษัทฯในเครือ รวมถึงการสร้างสรรค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงโซลูชั่นการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการครบวงจรเพื่อส่งมอบผลลัพท์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้นคุณโอลิเวอร์ จะมาสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจด้านแบรนด์ และการสื่อสารการตลาดด้วยการผสมผสนนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมด้วย ทั้งนี้ คุณโอลิเวอร์ จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับ คุณวิสาส์น สิริจันทานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจบริการด้านมีเดีย และ คุณณรงค์ ตรีสุชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานความคิดสร้างสรรค์ และจะรายงานขึ้นตรงต่อซันเจย์ บาซิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดนท์สุฯ ประเทศไทย เวียดนาม และเมียนมาร์
ด้วยความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารของคุณโอลิเวอร์กว่า 25 ปี ทำให้คุณโอลิเวอร์เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพและความสามารถรอบด้าน
ทั้งนี้ ก่อนร่วมงานกับทางเดนท์สุฯ คุณโอลิเวอร์ เคยดำรงตำแหน่ง ‘หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร’ ให้กับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และดำรงตำแหน่ง ‘ประธานอำนวยการ’ บริษัท VMLY&R Thailand ในเครือ WPP ซึ่งคร่ำหวอดในวงการอุตสาหกรรมการตลาด การโฆษณา และธุรกิจโทรคมนาคมเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้คุณโอลิเวอร์มีความรู้ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในภาพรวมของระบบนิเวศดิจิทัล (digital ecosystem) ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างดีเยี่ยม
ภายใต้การบริหารงานที่ประสบความสำเร็จของคุณโอลิเวอร์ ทำให้ได้รับรางวัล ‘Outstanding Leaders’ ด้านการบริหารแบรนด์ หมวดไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยี จากเวทีการประกวด Asia’s CEO Summit & Award Ceremony 2021 จากการสร้างสรรค์ผลงาน World-Class 5G Digital Lifestyles Tech HUB และได้รับรางวัล 3 ปีซ้อน จากการประกวดการตลาดระดับภูมิภาค Asian Marketing Congress อีกทั้ง คุณโอลิเวอร์ ยังดำรงตำแหน่งคณะกรรมการด้านการศึกษาให้แก่สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และ ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการที่ปรึกษา และ ศาสตราจารย์วุฒิคุณผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์และกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความรู้ด้าน consumer insight และ trends analyst ทำให้คุณโอลิเวอร์ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาทางธุรกิจให้แก่บริษัทชั้นนำอีกมากมาย อาทิเช่น บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTCG), บมจ.แสนสิริ, คิง เพาเวอร์, SCG, บมจ. ซีพีเอฟ, BMW, คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ, BRAND's Suntory Group, ดูเม็กซ์, อิชิตัน, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, วัตสัน, และ ธนาคารทหารไทยธนชาต เป็นต้น และเป็นแบรนด์ คอลัมนิสต์ให้กับสื่อชื่อดังต่างๆ ร่วมด้วย
มร. ซันเจย์ บาซิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดนท์สุฯ ประเทศไทย เวียดนาม เมียนมาร์ กล่าวว่า
“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในพลังของการบูรณาการความคิดสร้างสรรค์อันเป็นเลิศและการทำงานร่วมกัน ที่จะช่วยคว้าโอกาสพร้อมต่อยอดความสำเร็จให้องค์กรบุคลากร ลูกค้า คู่ค้า และเครือข่ายในอนาคตได้ ซึ่งผมเคยมีโอกาสร่วมงานกับคุณโอลิเวอร์มาก่อน ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่คุณโอลิเวอร์ได้ตัดสินใจมาร่วมงานกับทางเดนท์สุฯ ในครั้งนี้ พวกเรามีเป้าหมายร่วมกันในการขับเคลื่อนองค์กร ควบคู่ไปกับการยกระดับระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัลของกลุ่มบริษัทในเครือฯ ให้ประสบความสำเร็จตามแนวทางกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ขององค์กร ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยศักยภาพอันเป็นเลิศของคุณโอลิเวอร์ ทำให้ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า คุณโอลิเวอร์จะสามารถเร่งการเติบโต และสร้างมูลค่าเพิ่มของผลลัพท์ทางธุรกิจให้แก่องค์กรได้ทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาคทั่วโลกอย่างแน่นอน ผมตั้งตารอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับคุณโอลิเวอร์ เพื่อผนึกกำลังร่วมกันในการขยายการเติบโตทางธุรกิจให้ก้าวหน้าทั่วทั้งภูมิภาค และร่วมผลักดันธุรกิจมหภาคของประเทศให้ประสบความสำเร็จได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป”
ด้านคุณโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มด้านการตลาดและนวัตกรรม เดนท์สุฯ ประเทศไทย กล่าวว่า “ผมยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ทางเดนท์สุฯ มอบความไว้วางใจให้ผมดำรงตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสระดับสูง เพื่อคุมทัพกลุ่มบริษัทในเครือเดนท์สุฯ ประเทศไทยรุกตลาดธุรกิจโซลูชั่นนวัตกรรมทางธุรกิจ ผมพร้อมอย่างเต็มที่ในการทำงานร่วมกับสายงานธุรกิจบริการของเดนท์สุฯ เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือฯ ในการบริหารความสัมพันธ์และสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้ามุ่งสู่การเป็นเครือข่ายของการให้บริการธุรกิจการสื่อสารแบบบูรณาการครบวงจรชั้นนำระดับโลก ตามเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ระดับโกลบอลขององค์กร ท่ามกลางความท้าทายทางธุรกิจให้ประสบความสำเร็จครอบคลุมในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่เพียงแต่ในภูมิภาคเอเชีย แต่รวมถึงการมุ่งสู่ความสำเร็จระดับโลกในอนาคตด้วย”