Graphic Design Trend in 2023
23 Jan 2023

Tom May จาก CreativeBoom.com ได้เขียนถึงเทรนด์กราฟิกดีไซน์ในปี 2023 ที่ต่อไปงานกราฟิกดีไซน์จะไม่ใช่แค่สำหรับการออกแบบสิ่งพิมพ์หรือดิจิทัล แต่จะเป็น motion, AR, VR หรืออะไรที่มากกว่านั้น เพียงแต่อะไรที่เป็นดีไซน์ที่ดีก็ย่อมจะฉายแสงได้เริ่ดไม่ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์มใดก็ตาม และเทรนด์เหล่านี้จะช่วยให้งานออกแบบได้แชร์ความคิด ความกลัว ความหวังในปี 2023 ผ่านงานดีไซน์

 

เทรนด์ 1: วิวัฒนาการในเครื่องมืองานออกแบบ (Revolution In Design Tools)

 

เพราะในปีใหม่นี้งานออกแบบจะไม่ใช่แค่งานดูยังไง ทำหน้าที่อะไร แต่เป็นเรื่องที่ว่าเราทำมันอย่างไรมากกว่า อย่างที่งานออกแบบในปี 2022 เราใช้ AI กับงานอาร์ตและดีไซน์ อย่างแอปพลิเคชัน Runway ที่ใช้ทำงานวาดและทำหน้ากากของคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว จากเดิมที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงเพื่อทำงานเหล่านี้ หรือ Cavalry ที่เป็น node-based design และทำให้เราไม่ต้องซื้อซอฟต์แวร์ 3D แพงๆ ฯลฯ แต่คงบอกไม่ได้ว่าเครื่องมือหรือแอป ไหนจะกลายเป็นสิ่งที่เราขาดมันไม่ได้ในปีใหม่นี้ แต่ที่แน่ๆ เราจะได้เห็นอะไรที่เจ๋งๆ ออกมาอีกเรื่อยๆ

 

เทรนด์ 2: แบรนด์มองหาทางเชื่อมโยงกับมนุษย์ (Brands Look For Human Connection)

 

อย่างโมเมนต์ที่ให้เรายิ้มได้ ซึ่งวิธีที่จะทำให้ผู้คนเข้าถึงโมเมนต์แบบนี้ได้คือ เสียง ภาพหรือภาพยนตร์ที่มีแบรนด์สอดแทรกให้คนดูมองเห็น ไม่ว่าจะเป็นด้านไฟแนนซ์ กีฬา เรื่องเล่า (Storytelling) ที่มีโมเมนต์ของ ‘ความหวัง ความฝัน’ เพื่อนำพาแบรนด์ให้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดมากๆ ส่วนสไตล์การออกแบบภาพจะเป็นแนวภาพกราฟิกที่ทิ้งพื้นที่ให้ตีความหมาย

 

เทรนด์ 3: การออกแบบเพื่อไฮเปอร์เรียลลิตี้ (Designing for a Hyper-Reality)

 

แต่ก่อนงานกราฟิกดีไซน์จะเน้นทำงานกันเป็นพิศษสำหรับงานสิ่งพิมพ์ แต่ในยุคดิจิทัลนั้นเป็นอะไรที่วิวัฒนาการมากกว่านั้น แล้วทุกวันนั้น ดีไซเนอร์ก์มักจะถูกคาดหวังด้วยว่า จะต้องมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายแนว และต้องสามารถผสาน Al, AR, VR, MR, IRL เข้าด้วยกันได้ เพื่อสร้างประสบการณ์ของแบรนด์แบบ Immersive Experience ให้เต็มที่ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่มีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว และก้าวข้ามงานกราฟิกดีไซน์แบบเดิมๆ ไปมาก และทำให้งานครีเอทีฟในยุคนี้ตื่นเต้นกว่าเดิม อย่างงานออกแบบบิลบอร์ดแบบ 3D ที่ให้ประสบการณ์ของแบรนด์แบบ Immersive Experience และไฮเปอร์เรียลลิตี้ แล้วทำให้เส้นแบ่งระหว่างโลกเทคโนโลยีกับโลกเรียลลิตี้ลดลงเรื่อยๆ จากนั้นก็นำข้อมูลจาก Al มาใช้ อย่างงานของ Refik Anadol หรืองานที่ใช้ AI, Machine Learning อย่าง DALL-E 2

 

เทรนด์ 4: ยุคแห่งโลกอนาคตที่มองย้อนอดีต (Retrofuturism)

 

แม้โลกของดิจิทัลจะทำให้เราได้สัมผัสกับ Web3, งานที่ใช้ AI , อาร์ต 3D แต่เราก็จะได้เห็นแนวตัวอักษร (Typeface) ที่ใช้ในชิ้นงานดีไซน์แบบย้อนยุค และที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นดีไซเนอร์หรือไม่ก็ตามล้วนกังขากับความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับแบรนด์ที่ต่างก็ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกันเท่าไรสำหรับการสร้างเรื่องราวของผู้คนผ่านงานและโปรดักท์ แต่ปัจจุบัน แบรนด์ไม่จำเป็นที่จะทำอะไรตามๆ กันไป หรือมีอัตลักษณ์ของแบรนด์หรือภาพที่ไม่น่าสนใจกับใครๆ อีกแล้ว เพราะนับจากนี้จะต้องเป็นการนำเสนอความคิดเห็นที่เกี่ยวกับฟังก์ชั่น อิมแพคและคุณค่ามากกว่า

 

เทรนด์ 5: การกลับไปสู่ความสุขในอดีต (Fallback To The Comforting Past)

 

ทศวรรษ 2020 เป็นยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมากเกินต้าน ทำให้ความสุขในอดีตกลายเป็นแนวทางของงานกราฟิกดีไซน์ในปี 2023เพราะดีไซเนอร์เองก็จะเอียนกับโลกดิจิทัลอย่าง Meta และอีกหลายอย่าง งานศิลปะแนวบารอคจะกลับมาถูกโฉลกกับงานออกแบบตัวอักษรและงานอาร์ต และแนวงานแบบทศวรรษ 60 และ 70 จะมีอิทธิพลกับประสบการณ์ดิจิทัลด้วย

 

 

ใครๆ ก็ชินกับงานที่ดูสะอาดๆ และงานที่เป็นแนวมินินมอล (Minimalism) และเว็บไซต์ของบริษัทต่างๆ ที่ทำให้เราใช้งานได้ง่ายมากๆ ด้วยการใช้ UX/UI แต่งานยุคนี้จะสนุกขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ กันได้อย่างน่าตื่นเต้น แทนที่จะต้องทำอะไรที่เหมือนกัน หรือลอกกันมา

 

เทรนด์ 6: เลียนแบบแอป ของ Gen Z แต่ทำให้ดีกว่าหรืออย่างน้อยก็เท่าเทียมกัน (Emulating Gen Z Apps)

 

สำหรับเรื่องราวย้อนยุค บอกได้ว่า คนกลุ่มนี้ไม่ ‘อิน’ แต่จะ ‘อิน’ กับงานกราฟิกดีไซน์ในแอป โปรดของตนเอบมากกว่า

อย่างแอป BeReal หรือ TikTok แบรนด์ที่มีลุคสวยงาม มีสุนทรียะย่อมจะสามารถสร้างความเกี่ยวข้องและสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ได้บนโซเชียลแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ TikTok จะถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ชมได้กับคลิปดังๆ และทำให้กลายเป็นคอนเทนท์ที่กลายเป็นไวรอล (Viral Content) ได้

 

เทรนด์ 7: ความวุ่นวายที่มาเต็มๆ (Chaotic Maximalism)

 

การเปลี่ยนจาก Gen Y สู่ Gen Z ทำให้งานออกแบบเปลี่ยนแปลงไปหมด เพราะ Gen Y จะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับงานแนวมินิมอล แต่ Gen Z นั้นต้องเรียกว่าเป็นทฤษฎีแห่งความโกลาหลที่มาพบกับอะไรที่ดูเว่อวัง Pure Chaos Theory Meets Maximalism

 

เทรนด์ 8: มากกว่าการรับปากแบบส่งว่ารักษ์สิ่งแวดล้อม (Beyond Environmental Lip Service)

 

สำนึกรักษ์โลกมาแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ปี 2023 ประเด็นนี้ก็จะสุดกว่านั้นแบบด่วนๆ ด้วยโซลูชั่นที่ทำได้จริง ไม่ใช่ลมปากว่ารักษ์โลก โดยเราจะได้เห็นวัสดุและโปรดักท์ที่เน้นความยั่งยืน หรือเป็นวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable) แล้วก็ไม่ใช่แค่ใช้วัตถุดิบรีไซเคิล แต่จะไปกันมากกว่านั้น ด้วยการเลือกใช้พลาสติกทางเลือกที่สามารถทั้งหมด ซึ่งปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เทรนด์ในปี 2023 จึงไม่ใช่หน้าตาสินค้าเป็นอย่างไร แต่ดูลงลึกไปด้วยว่า สินค้าทำจากอะไร

 

เทรนด์ 9: สงบไว้ แล้ว ไปต่อ (Keep Calm and Carry On)

 

ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ แบรนด์ก็ต้องการสร้างอารมณ์ความรู้สึกกับลูกค้าของตนเอง เพื่อให้แฟนๆ  มีความจงรักภักดีและไปต่อได้เรื่อยๆ ด้วยค่าครองชีพที่ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ฟังก์ชัน และประสิทธิภาพการทำงานของงานดีไซน์จะเข้ามาครอบงำ ด้วยพื้นที่ที่ไม่น่าสนใจน้อยกว่าเดิม ปีนี้จะเราจยังะได้เห็นแบบของตัวอักษรที่มีความแข็งแรง ความมั่นใจ ตามด้วยความซื่อสัตย์และภาพที่แสดงความเรียล อย่างไรก็ตาม ก็มีความเห็นแบบแย้งว่า ปี 2023 จะเป็นปีที่เราจะได้เห็นงานดีไซน์ที่เป็น ‘ขบถ’ อย่างการพริ้นท์สกรีน การเขียนตัวอักษรด้วยมือ และสินค้าที่ผลิตไม่มากจะมาพร้อมกับสไตล์กันมากขึ้น

 

เทรนด์ 10: ความสงสัยของการสร้างแบรนด์ (Suspicion of Branding)

 

การสร้างแบรนด์นั้นถูกเข้าใจผิดไปแล้วในยุควิกฤติที่เราเผชิญพร้อมๆ กัน ‘หลายหน้า’ ว่า การสร้างแบรนด์ก็แค่กราฟิกโง่ๆ หรือลัทธิบริโภคนิยมที่ถูกใส่ร้ายที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่น แต่ก็มีคนเห็นต่างว่า การสร้างแบรนด์นั้นไม่สำคัญ ดีไซน์ต่างหากที่ช่วยแก้ปัญหา และงานที่เราทำก็ล้วนเสริมความแข็งแกร่ง อย่างงานที่ทำนั้นก็มีอิมแพคในระดับพื้นฐาน และช่วยให้การสร้างประสบการณ์ทำได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม

[อ่าน 1,135]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับสัญญาณหนี้ธุรกิจไทย - เอสเอ็มอีรายเล็กเสี่ยงสูง – ปรับโครงสร้างหนี้ช่วยยืดเกม แต่ยังไม่จบโจทย์
กรุงศรี ออโต้ ชวนไข 5 ความเชื่อเรื่องสินเชื่อรถยนต์
AXA เผยผลวิจัยโลกร้อนกระทบสุขภาพแรงงาน–เศรษฐกิจ เสี่ยงต้นทุนพุ่งทั่วโลก
เราซื้อของ หรือของซื้อเรา 3 คำถามเอาชนะใจตัวเองก่อนเสียเงิน
เปิด 5 ปัจจัยพลิกพฤติกรรมผู้บริโภค 5 เจนฯ นักการตลาดต้องปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง
Visa เปิดอินไซต์ Gen Z ไทย – ถอดรหัสความคิดคนรุ่นใหม่ พลิกเกมธุรกิจยุคดิจิทัล
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved