เมย์แบงก์เผยมุมมองการเลือกตั้งรอบใหม่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย คาดกลุ่มสื่อสาร สื่อและสิ่งพิมพ์ ค้าปลีก และอาหาร ปรับตัวขึ้นเด่นก่อนการเลือกตั้ง
04 Mar 2023

 

บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST ผู้นำด้านการลงทุน ถือหุ้นโดย เมย์แบงก์ ธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซีย วิเคราะห์ปัจจัยการเลือกตั้งรอบใหม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมาก โดยตลาดหุ้นมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น สถิติชี้ SET ปรับตัวขึ้นเด่น 3 เดือนก่อนวันเลือกตั้ง (Election Rally)ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย +3.4% และยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง 1 เดือนหลังการเลือกตั้ง ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย +5.3% มองหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวในประเทศมีโอกาสปรับตัวขึ้นเด่น ได้แก่ กลุ่มสื่อสาร สื่อและสิ่งพิมพ์ ค้าปลีก และอาหาร 

 

นักวิเคราะห์จากเมย์แบงก์ประเมินโอกาสที่จะเกิดการยุบสภาในเดือนมีนาคม ก่อนสภาฯ จะครบกำหนดวาระในวันที่ 23 มีนาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ สส. มีระยะเวลาในการย้ายพรรคได้ทัน รวมทั้งมีช่วงเวลาในการหาเสียงมากยิ่งขึ้น โดยคาดวันเลือกตั้งครั้งนี้จะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ทั้งนี้ การเมืองถือเป็นประเด็นที่มีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนเป็นอย่างมาก โดยตลาดหุ้นมักจะมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงถัดไป โดยหากพิจารณาสถิติย้อนหลังในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมาซึ่งมีการเลือกตั้งสำคัญ 5 ครั้ง (ปี 2544-2562) พบว่า SET ปรับตัวขึ้นเด่น 3 เดือนก่อนวันเลือกตั้ง (Election Rally) ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย +3.4% และยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง 1 เดือนหลังการเลือกตั้ง ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย +3.4% (โอกาสความน่าจะเป็น 60%) และภายหลังการเลือกตั้ง 1 เดือน พบว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง +5.3% ท่ามกลางโอกาสความน่าจะเป็นที่ SET จะปรับตัวขึ้นต่อสูงถึง 80% หลังการเลือกตั้ง แต่อย่างไรก็ตามคงต้องพิจารณาถึงขั้วการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งเป็นสำคัญ 

 

หากพิจารณาในรายอุตสาหกรรมจะพบว่ากลุ่มที่อิงกับการฟื้นตัวในประเทศจะปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงการเก็ง Election Rally ซึ่งก็สะท้อนถึงความคาดหวังเชิงบวกต่อนโยบายของภาครัฐฯที่จะไล่เรียงออกมาในช่วงถัดไป โดยจากสถิติพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่มักจะปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนการเลือกตั้งได้แก่ กลุ่มสื่อสาร, สื่อและสิ่งพิมพ์, ค้าปลีก และอาหาร โดยแนะนำหุ้นที่น่าสนใจ ดังนี้  ADVANC (เป้าหมาย 240 บาท) COM7 (เป้าหมาย 40.3 บาท) PLANB (เป้าหมาย 10.7 บาท) TU (เป้าหมาย 21.8 บาท)

 

หลายอุตสาหกรรมมีการเก็งกำไรก่อนเลือกตั้ง

หากพิจารณาในรายกลุ่มอุตสาหกรรมจะพบว่า กลุ่มที่มักถูกแรงเก็งกำไรส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับหุ้นที่อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ (Domestic Play) ซึ่งก็น่าจะสอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่พรรคการเมืองต่างๆ หยิบยกขึ้นมาเป็นปัจจัยเพื่อเรียกคะแนนเสียงให้มากยิ่งขึ้น

 

สถิติของการเลือกตั้งสำคัญ 5 ครั้ง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ขยับขึ้นเด่นในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง นำโดย กลุ่มสื่อสาร (+8.6%), กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ (+7.3%), กลุ่มค้าปลีก (+6.4%), กลุ่มอาหาร (+5.6%) ส่วนกลุ่มที่มักปรับตัวขึ้นเด่น ภายหลังการเลือกตั้ง เช่น กลุ่มไฟแนนซ์, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มสื่อสาร, กลุ่มธนาคาร, กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่สถิติบ่งชี้ว่ามักไม่ตอบรับเชิงบวกกับการเลือกตั้ง เช่น กลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งอาจเป็นอุตสาหกรรมที่ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจโลกมากกว่า

 

4 อุตสาหกรรม คาดปัจจัยบวกหนุนราคาขึ้น

กลุ่มสื่อสาร การเติบโตเฉลี่ย CAGR 5 ปีของรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมในช่วงปี 60-65 อยู่ที่ -0.3% เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัว ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิดและโครงสร้างตลาดแบบมีเพียงสองผู้เล่นหลัก ทำให้เราคาดการณ์ CAGR ช่วงปี 65-70 อยู่ที่ 2.9% สำหรับรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งผลให้รายได้จากบริการหลักของอุตสาหกรรมเติบโตเฉลี่ย 4.1% ในช่วง 5 ปีดังกล่าว 

หุ้นเด่นที่น่าสะสม : ADVANC, JMART

 

กลุ่มค้าปลีก มีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีกสำหรับปี 2566 จากแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการบริโภคซึ่งจะถูกผลักดันจาก การเลือกตั้ง การเดินทางออกนอกบ้านมากขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค คาดอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในกลุ่มค้าปลีกส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นในปี 2566 ตามการเติบโตของยอดขาย การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง แรงกดดันด้านต้นทุนคาดว่าจะผ่อนคลายลง หนุนกำไรเติบโตได้ในเกณฑ์ดี

หุ้นเด่นที่น่าสะสม : COM7, CRC, CPALL, HMPRO

 

กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ คาดเติบโตดีขึ้นสอดคล้องกับการบริโภคที่ฟื้นตัว ผสานแรงหนุนเพิ่มเติมจากการเลือกตั้ง โดยเรายังคงเชื่อว่าปีนี้สื่อประเภท สื่อนอกบ้าน (Out of home media) ยังเป็นสื่อที่มีการเติบโตได้เด่นกว่าสื่อประเภทอื่น จากทั้งความต้องการที่สูงขึ้น ขณะที่ capacity ใหม่ (จำนวนป้าย) ยังไม่ได้มีแผนขยายเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยไม่แผ่วลง จะมีโอกาสสูงที่จะเกิดภาวะตึงตัว หนุนผลประกอบการในกลุ่มนี้ยังมีทิศทางปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

หุ้นเด่นที่น่าสะสม : PLANB

 

กลุ่มอาหาร ยังมีแนวโน้มเติบโตจากการอุปโภคบริโภคที่ฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง การส่งออกเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศของหลายๆ ประเทศ และปัญหาด้านขนส่งเริ่มคลี่คลาย โดยยอดขายของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจะฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากการเปิดเมืองและมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ การเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าเข้าร้าน Modern trade มาตรการช้อปดีมีคืน 2566 จะช่วยกระตุ้นการอุปโภคบริโภค

หุ้นเด่นที่น่าสะสม : TU, SNNP, SAPPE

 

นักลงทุนที่สนใจรับคำปรึกษาด้านการลงทุนจากมืออาชีพระดับโลก สามารถติดต่อเปิดบัญชีกับเมย์แบงก์ได้แล้ววันนี้ที่ App Maybank Invest หรือ ติดต่อได้ที่ 02 658 5050

[อ่าน 1,180]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มพูลผล มอบเงินสนับสนุน และน้ำมันพืชตรากุ๊ก วุ้นเส้นต้นสน ให้กับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และเหล่าทหารกล้า
กทพ. ปิดเบี่ยงทางลงดินแดงตลอด 24 ชม. ยาวถึงปี 2572 เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม – ยังสัญจรได้ 3 ช่องจราจร
16 ปีแห่งความภาคภูมิใจ GSK คว้ารางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2025 ต่อเนื่อง
NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กสทช. เปิดบริการ “สายด่วน 1818”
ยูโอบี ประเทศไทย เสริมเกราะป้องกันทางการเงิน จัดสัมมนาให้ความรู้ รับมือมิจฉาชีพในยุคภัยหลอกลวงระบาด
SAM ชูไฮไลท์ที่อยู่อาศัยทำเลทอง ราคาดี เปิดประมูลครั้งที่ 21 มูลค่ารวมกว่า 157 ลบ.
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved