• แสนสิริ รุกคืบพันธกิจ Net-Zero ปี 66 ยกระดับติดตั้ง “โซลาร์ แบตเตอรี่” ที่คลับเฮาส์โครงการ รายแรกอสังหาฯ ไทย หลังลุยติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาในโครงการที่อยู่อาศัย จำนวนมากที่สุดในโครงการอสังหาฯ กว่า 700 หลังทั่วประเทศในปีที่ผ่านมา
• เดินหน้าติดตั้ง “โซลาร์ แบตเตอรี่” ที่คลับเฮาส์โครงการ นำร่องโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริ ที่จ่อเปิดตัวปีนี้ 10 โครงการใหม่ เผยสามารถจัดเก็บพลังงานสำรองที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์บนหลังคาคลับเฮาส์ ลดการพึ่งพาการใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าไฟ รวมทั้งยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 100 ตันคาร์บอน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 6,300 ต้นต่อปี
• วางเป้าพื้นที่ส่วนกลางของทุกโครงการใหม่ ติดตั้ง Solar Panel และ Solar Battery 100% เป็นโมเดลมาตรฐานในโครงการทุกรูปแบบ ทุกเซ็กเม้นท์ ผลักดันสู่เป้าหมายพันธกิจ Net-Zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น ”ศูนย์” ในปี 2050

  ---

อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

แสนสิริตอกย้ำบทบาทองค์กรสีเขียว (Green organization) ที่ขับเคลื่อนนโยบายและพันธกิจความยั่งยืนอย่างจริงจังมาแล้วกว่า 6 ปี สู่การประกาศเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็น “ศูนย์” (Net-Zero) ภายในปี 2050 เพื่อมุ่งสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ในปี 2566 แสนสิริมีพันธกิจในการเดินหน้าติดตั้งแผงโซลาร์ในโครงการที่อยู่อาศัย 100% ในบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ทุกหลัง ทุกเซ็กเมนท์ รวม 1,200 หลัง รวมทั้งวางเป้าติดตั้งแผงโซลาร์บนคลับเฮาส์โครงการแนวราบประมาณ 32 โครงการ ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมและพื้นที่ส่วนกลางของทุกคอนโดมิเนียมโครงการใหม่วางแผนติดตั้งอีก 18 โครงการ

ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของแสนสิริ ในการเดินหน้าติดแผงโซลาร์ในโครงการที่อยู่อาศัยในทุกโปรดักส์ ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์ ตลอดจนขยายการติดตั้งไปยังธุรกิจอื่นๆ ของแสนสิริ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net-Zero ทั้งในโรงงานพรีคาสต์แห่งล่าสุด

ซึ่งเป็นโรงงานพรีคาสต์สีเขียวเต็มรูปแบบแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย, โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน,โรงแรม เดอะ เภรี โฮเต็ล ทั้ง 2 แห่ง หัวหิน และเขาใหญ่ โดยวางเป้าติดตั้งให้ได้เกือบ 3,500 กิโลวัตต์ ซึ่งจะช่วยลด Carbon Footprint ได้ถึง 2,600 ตันคาร์บอน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 174,000 ต้นต่อปี และช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 5.3 ล้านบาทต่อปี

ล่าสุด แสนสิริยังได้รุกเดินหน้าติดตั้ง “โซลาร์ แบตเตอรี่” ที่คลับเฮาส์โครงการ นับเป็นรายแรกของอสังหาฯ ไทย เพื่อการบริหารพลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับพลังงานสะอาดที่ผลิตได้ระหว่างวันจากแผงโซลาร์บนหลังคาคลับเฮาส์และคอนโดมิเนียม ซึ่งจะช่วยกักเก็บไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตขึ้นจากแผงโซลาร์ในระหว่างวัน ทำให้สามารถใช้พลังงานที่สะสมไว้เพื่อจ่ายไฟใช้ใน Facilities ส่วนกลางในบางช่วงเวลาที่แผงโซลาร์ผลิตไฟฟ้าได้ไม่เพียงพอ รวมทั้งในตอนกลางคืน และวันที่มีเมฆมาก หรือแม้กระทั่งในระหว่างที่ไฟฟ้าดับอีกด้วย

โดยจะนำร่องติดตั้งโซลาร์ แบตเตอรี่ ในโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริ ที่วางแผนเปิดตัวปีนี้ 10 โครงการใหม่ ซึ่งจะลดการพึ่งพาการใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าไฟ รวมทั้งยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 100 ตันคาร์บอน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 6,300 ต้นต่อปี โดยแสนสิริวางเป้าหมายให้พื้นที่ส่วนกลางของทุกโครงการใหม่ ติดตั้ง Solar Panel และ Solar Battery 100% เป็นโมเดลมาตรฐานในโครงการทุกรูปแบบ ทุกเซ็กเม้นท์ ผลักดันสู่เป้าหมายพันธกิจ Net-Zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น ”ศูนย์” ในปี 2050

นอกจากนี้ ลูกบ้านแสนสิริในโครงการเก่า ภายใต้การดูแลของนิติบุคคล พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังสามารถเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาดจากแผงโซลาร์ในโครงการที่อยู่อาศัยง่ายขึ้น โดยแสนสิริเตรียมจับมือธนาคารชั้นนำเสิร์ฟสินเชื่อโซล่าร์สำหรับที่อยู่อาศัยกับดอกเบี้ยเรทพิเศษ เพื่อรองรับดีมานด์การใช้พลังงานสะอาดที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ในอนาคต ลูกบ้านแสนสิริ ยังสามารถบริหารจัดการปริมาณการใช้ไฟฟ้าจาก Solar Panel แบบ Real-time ผ่าน Sansiri Home Service Application ที่สามารถตรวจเช็คจำนวนการผลิตไฟฟ้าบนหลังคาได้ต่อวัน คำนวณและประเมินการใช้ไฟฟ้า คำนวณการช่วยประหยัดพลังงาน คำนวณเทียบเท่าการปลูกต้นไม้และการลดปริมาณคาร์บอนได้อีกด้วย  

รู้หรือไม่!

ปีที่ผ่านมา แสนสิริสามารถติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาในโครงการที่อยู่อาศัย จำนวนมากที่สุดในโครงการอสังหาฯ ได้กว่า 700 หลังทั่วประเทศ ในกว่า 31 โครงการ แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวระดับราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาท รวมจำนวน 427 หลัง และ บ้านเดี่ยวระดับราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป รวมจำนวนทั้งสิ้น 173 หลัง ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนแล้วเกือบ 1,000 ตันคาร์บอน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 64,500 ต้น และช่วยประหยัดเงินค่าไฟให้ลูกบ้านและค่าส่วนกลางได้แล้วกว่า 7.6 ล้านบาท ต่อปี