Back to Top
บีโอไอจับมือเซี่ยงไฮ้ ลงทุนไทย - จีน ผลักดันพื้นที่เป้าหมาย - อุตสาหกรรมอนาคต
03 May 2023

 

บีโอไอ จับมือนครเซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของจีน จัดงาน “ลงทุนเซี่ยงไฮ้ ร่วมแบ่งปันอนาคต” เชื่อมโยงการลงทุนไทย - จีน ผนึกกำลังก้าวสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ชี้โอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และดิจิทัล นักธุรกิจไทย - จีนเข้าร่วมสัมมนากว่า 300 คน เผยแนวโน้มการลงทุนทั้งสองประเทศเติบโตสูง

 

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ นายกง เจิ้ง นายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ นำคณะผู้บริหารระดับสูงของนครเซี่ยงไฮ้ เดินทางมาเยือนประเทศไทย บีโอไอได้ร่วมกับนครเซี่ยงไฮ้ และหน่วยงาน Invest Shanghai จัดงานลงทุนเซี่ยงไฮ้ ร่วมแบ่งปันอนาคต เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ที่โรงแรมแชงกรี - ลา กรุงเทพมหานคร

โดยมีนักธุรกิจไทยจีน เข้าร่วมงานสัมมนากว่า 300 คน ภายในงานมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ร่วมกล่าวเปิดงาน ซึ่งกรุงเทพมหานคร และนครเซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองพี่ - เมืองน้อง ที่มีความร่วมมือกันมายาวนาน ทั้งด้านการพัฒนาเมืองและด้านเศรษฐกิจ

 

การจัดงานครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากบีโอไอได้เดินทางไปโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เมืองธุรกิจสำคัญ ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ หางโจว เซินเจิ้น และกว่างโจว และได้ร่วมกับเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้และ Invest Shanghai จัดงานสัมมนาส่งเสริมการลงทุนที่นครเซี่ยงไฮ้ ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา โดยการร่วมจัดงานทั้ง 2 ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการขยายความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนทั้งจากจีนมาสู่ไทย และไทยไปสู่จีน ตามนโยบาย Belt and Road Initiative (BRI) สู่ภูมิภาคอาเซียน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP)

ทำเลที่ตั้งของประเทศไทยอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียน ใกล้ประเทศจีน มีระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ในภูมิภาค มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี ซึ่งในอนาคตอาจจะเชื่อมโยงกับเขตพิเศษหลินกังของนครเซี่ยงไฮ้ได้

นอกจากนี้ ไทยยังมีความแข็งแกร่งด้านซัพพลายเชน อุตสาหกรรมสนับสนุน บุคลากรที่มีคุณภาพ มาตรการสนับสนุนของรัฐและสิทธิประโยชน์ รวมทั้งไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ จึงมีความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ที่จะเป็นฐานการผลิตของจีนเพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่กำลังเติบโตสูง รวมทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี RCEP ที่ไทยทำร่วมกับประเทศต่างๆ 15 ประเทศได้ด้วยนายนฤตม์ กล่าว

 

ประเทศจีนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน โดยนักท่องเที่ยวจีนมาไทยเป็นอันดับหนึ่งในช่วงก่อนโควิด มีจำนวน 11 ล้านคน ปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและกลับมาท่องเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน ในด้านการค้า จีนถือเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 17 ของมูลค่าการค้ารวม

ขณะที่ด้านการลงทุน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การลงทุนจากจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2565 จีนขึ้นมาเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 18 ของการลงทุนโดยรวม และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จีนมีการยื่นคำขอลงทุนในไทย มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น

 

สำหรับเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นมหานครที่มีประชากรและขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของจีน และเป็นมหานครอันดับ 6 ของโลก ในปี 2565 จีดีพีอยู่ที่ 22.5 ล้านล้านบาท (4.47 ล้านล้านหยวน) มีการพัฒนาเมืองและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเป็นผู้นำนวัตกรรมและฐานการผลิตของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ นอกจากนี้ นครเซี่ยงไฮ้ได้ผลักดันการพัฒนาเขตต่าง ให้เป็นพื้นที่พิเศษ โดยเฉพาะเขตพิเศษหลินกัง (Shanghai Lin-gang Special Area) ที่เน้นส่งเสริมการค้าการลงทุนในอุตสาหกรรมสมัยใหม่

เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล สุขภาพและการแพทย์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เป็นโอกาสที่จะเชื่อมโยงการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีบริษัทไทยหลายรายที่ได้เข้าไปลงทุนในนครเซี่ยงไฮ้และเมืองใกล้เคียง เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ ปตท. สหยูเนี่ยน สามมิตร เครือดุสิตธานี และสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น

 

บีโอไอ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการลงทุน ทั้งการลงทุนในประเทศไทยและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มบทบาทของไทยในเวทีโลก โดยบีโอไอจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสนับสนุนด้านข้อมูล ให้คำปรึกษา อำนวยความสะดวก และประสานงานกับประเทศปลายทาง ผ่านสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศ 16 แห่ง ในจีนมี 3 แห่ง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางโจว นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตและอุตสาหกรรมสนับสนุนในประเทศ

โดยระหว่างวันที่ 10 – 13 พฤษภาคม 2566 นี้ จะมีการจัดงาน SUBCON THAILAND ซึ่งในปีนี้จะมีผู้ร่วมออกงานกว่า 150 บริษัท มีบริษัทผู้ซื้อจากต่างประเทศมากกว่า 10 ประเทศ และเกิดการจับคู่ธุรกิจกว่า 4,000 คู่

[อ่าน 1,006]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีเส็บเจาะตลาด MI นานาชาติ ชูเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน เปิดตัวทริปสุขภาวะ ขบวนรถไฟเอ็กซ์คลูซีฟ สถานที่จัดงานหลากหลาย
SME D Bank ร่วมแสดงความยินดี กับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM คนใหม่
THANA ดันบ้านประหยัดพลังงาน “ธนาวิลเลจ บางนา-บางบ่อ” คว้าฉลากเบอร์ 5 จาก กฟผ. เจาะกลุ่ม First Jobber
OR ร่วมกับ บางกอกแอร์เวย์ส นำร่องใช้น้ำมัน SAF ที่ผลิตในไทยเป็นครั้งแรก ยกระดับการบินสู่ความยั่งยืน
ศรีจันทร์ รุกตลาดกันแดด เปิดตัว เซรั่มกันแดดกุหลาบ ตอกย้ำแนวคิด “แดดเมืองไทยไม่มีใครเข้าใจเท่าเรา”
คาเฟ่ อเมซอน ดันกาแฟพรีเมียม “Selected Cup” คว้า “อิ้งค์ วรันธร” เสริมภาพลักษณ์ผู้นำตลาด
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved