ณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เบลนเดต้า จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทยังคงได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าองค์กร ทั้งจากการขยายการใช้งานลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ของลูกค้ารายเดิม ความเชื่อมั่นในตัวบริษัทและผลิตภัณฑ์ของลูกค้ารายใหม่ เช่น โครงการหนึ่งที่ลูกค้าตัดสินใจนำแพลตฟอร์มของเบลนเดต้าไปทดแทนแพลตฟอร์ม Big Data ที่เป็นมาตรฐานขององค์กรเดิมอย่าง Hadoop สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยี และความเชื่อมั่นต่อแบรนด์
ทั้งนี้รวมไปถึงความเชื่อมั่นจากพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Distributor Partner อย่าง Get On Technology หนึ่งในผู้จัดจำหน่ายเทคโนโลยีองค์กรชั้นนำอย่าง Dell รวมถึง Cloud Partner อย่าง AIS Cloud X ที่นอกจากจะนำแพลตฟอร์มของเบลนเดต้าขึ้นไปให้บริการอยู่บน Cloud แล้ว ยังร่วมผลิตซอฟต์แวร์อย่าง AIS B-Log เพื่อตอบโจทย์ตลาดการเก็บข้อมูลจราจร (Log) ในองค์กรในลักษณะจ่ายตามจริง (Pay-Per-Use) และความร่วมมือระหว่าง PTT Digital และ G-Able ที่นอกจากจะนำเทคโนโลยีของเบลนเดต้าเข้าไปช่วยยกระดับการใช้ข้อมูลของบริษัทในเครือปตท.แล้ว ยังตั้งเป้าที่จะหาโอกาสในการใช้ข้อมูลเพื่อค้นหาธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกัน
สำหรับยอดขายที่เติบโต 50% และรายได้เติบโตกว่า 80% มีกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจากลูกค้าเดิมที่ขยายลิขสิทธิ์การใช้งานแพลตฟอร์ม เพิ่มการบริการจัดเตรียมและวิเคราะห์ข้อมูล และลูกค้าใหม่ ทั้งลูกค้าองค์กรในกลุ่มธุรกิจประกัน การเงิน การผลิต สุขภาพ น้ำมันและพลังงาน ค้าปลีก ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าในประเทศไทยที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยภาคธุรกิจให้ความสำคัญและมองการใช้ข้อมูลเป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จของการทำธุรกิจยุคนี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เบลนเดต้า จำกัด กล่าวต่อว่า จากผลสำรวจของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa อุตสาหกรรมบิ๊กดาต้าในปี 2564 มีมูลค่ารวม 1.59 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 14.25% ซึ่งหากรวมปัจจัยเร่งต่างๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งการเติบโตของ Digital การเติบโตของ Cloud การทำ Data Analytics ที่เป็นมาตรฐานของธุรกิจในยุคปัจจุบัน และยุคแห่ง AI ที่ต้องอาศัยข้อมูลคุณภาพดีจาก Big Data ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ ๆ และเป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจ และนั่นเป็นโอกาสอันมหาศาลของเบลนเดต้าเช่นเดียวกัน
โดยในปี 2566 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยพื้นฐานเดิมที่แข็งแกร่งอย่างการมีลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ชั้นนำในไทยหลายแห่ง โครงการต่อเนื่องทั้งโครงการใหม่ รายได้รอการรับรู้ รวมถึงการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจตามกลยุทธ์การสร้าง Ecosystem ด้าน Big Data & Analytics เพื่อให้บริการลูกค้าใหม่ ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม หรือการใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้นอกจากแพลตฟอร์มเดิมที่เป็น Big Data Lakehouse ที่ให้บริการได้ทั้ง On-Premise และ On-Cloud แล้ว บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Data Cloud SaaS แบบบริการตนเองตามปริมาณการใช้งาน และ Blendata Consult Service ให้คำปรึกษาและวางกลยุทธ์ด้าน Big Data ที่จะทำให้สามารถตอบสนองต่อ Big Data & Analytics ในองค์กรได้อย่างครบวงจร