ส่องยุทธศาสตร์บีโอไอ เชื่อมต่อ SMEs ไทย สู่ซัพพลายเชนระดับโลก
29 May 2023

 

ช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา โลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายด้าน ทั้งปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้า การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก่อให้เกิดโอกาสและเทรนด์การลงทุนใหม่ๆ ที่ไทยมีโอกาสเป็นฮับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำ ดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และบีซีจี 

 

บีโอไอ ได้กำหนดยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ ประกอบด้วย 7 หมุดหมาย และ 9 มาตรการส่งเสริมการลงทุน ที่ไม่ใช่การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ บีโอไอได้ปรับบทบาทเดิมจากการเป็นผู้ส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ โดยจะเป็นผู้ให้บริการและอำนวยความสะดวกบูรณาการเครื่องมือสนับสนุนการลงทุนที่จะผนึกกำลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมสิทธิประโยชน์ในลักษณะ Whole Package เพื่อให้การส่งเสริมทั้งก่อนและหลังลงทุน รวมถึงการสนับสนุนด้านระบบนิเวศต่างๆ และการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนแบบครบวงจร เพื่อช่วงชิงนักลงทุนรายใหญ่ให้เข้ามาตั้งฐานผลิตในประเทศไทย

ผลจากมาตรการส่งเสริมลงทุนใหม่ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน โดยมียอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม – มีนาคม) กว่า 1.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 77 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่เป็นอุตสาหกรรมมุ่งเป้า ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ และดิจิทัล ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่เอสเอ็มอีไทยจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของโลก

 

ตามยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ บีโอไอมีหลายมาตรการที่ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทยให้เข้มแข็ง เช่น

  1. มาตรการส่งเสริมการลงทุน สำหรับ SMEs โดยให้สิทธิประโยชน์วงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลถึง 200% ของวงเงินลงทุน สำหรับกิจการที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม
  2. มาตรการยกระดับ SMEs ไปสู่ Smart & Sustainable Industry เช่น การประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปรับเปลี่ยนเครื่องจักร การใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ โดยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี วงเงิน 50% หรือ 100% ของเงินลงทุน
  3. มาตรการส่งเสริมให้บริษัทใหญ่ ช่วยพัฒนา SMEs ที่เป็น Local Supplier โดยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 200% ของค่าใช้จ่าย
  4. มาตรการส่งเสริมให้บริษัทใหญ่ ช่วยพัฒนา “ผู้ประกอบการในชุมชน” โดยเพิ่มวงเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ในการเข้าไปสนับสนุนโครงการในชุมชนในการพัฒนาระบบเกษตรและน้ำ ผลิตภัณฑ์ และการท่องเที่ยวชุมชน และเพิ่มเรื่องการศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ให้แก่ สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐ รายละไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท จะได้รับวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 200 ของเงินสนับสนุน
  5. มาตรการส่งเสริมให้เกิดการกระจายการลงทุนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น การตั้งสถานประกอบการในพื้นที่ 20 จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำ การลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค โดยกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่และให้สิทธิประโยชน์พิเศษ
  6. การส่งเสริมให้ SMEs เข้าไปอยู่ใน Global Supply Chain ของอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและระบบอัตโนมัติ ผ่านกิจกรรมเชื่อมโยงและจับคู่ธุรกิจ หรือ SUBCON THAILAND ซึ่งปี 2566 มีการจับคู่ธุรกิจกว่า 8,500 คู่ สร้างมูลค่าซื้อขายกว่า 20,000 ล้านบาท
  7. การส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ไปลงทุนในต่างประเทศ โดยบีโอไอทำงานบูรณาการกับหลายหน่วยงาน เน้นการให้คำปรึกษา จัดหลักสูตรสร้างนักลงทุนไทยในต่างประเทศ (Thai Oversea Investment Support Center: TOISC)

“ปัจจุบัน จำนวนโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ 1 ใน 3 เป็นผู้ประกอบการ SMEs และยังมีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการอื่น ๆ เช่น มาตรการยกระดับอุตสาหกรรม Smart & Sustainable Industry ซึ่งในอนาคตจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นให้บริษัทใหญ่ช่วยพัฒนา SMEs สิ่งเหล่านี้จะทำให้ SMEs ไทยแข็งแกร่ง และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น” นฤตม์กล่าว

นอกจากนี้ บีโอไอได้จัดโครงการฝึกอบรมความรู้ด้านการส่งเสริมการลงทุน (Train the Trainers) ให้กับเจ้าหน้าที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นหน่วยงานพันธมิตรของบีโอไอและมีบทบาทต่อ SMEs เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุน รูปแบบสิทธิประโยชน์ ประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวเป็นตัวแทนบีโอไอในการเชื่อมต่อและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงมาตรการของบีโอไอได้ง่ายขึ้น

สำหรับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการส่งเสริม SMEs ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2566 (มกราคม - มีนาคม 2566) มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 12 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 50 เงินลงทุน 879 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 160 โดยมีโครงการที่น่าสนใจ เช่น กิจการออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ Microelectronics, Optoelectronics หรือ Embedded system เงินลงทุน 240 ล้านบาท กิจการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัด จำนวน 1 โครงการ เงินลงทุน 75 ล้านบาท และ กิจการผลิตผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ จากผลผลิตทางการเกษตร ผลพลอยได้หรือเศษวัสดุทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบที่มาจากผลพลอยได้หรือเศษวัสดุ หรือของเสียจากการเกษตร มูลค่าเงินลงทุน 59 ล้านบาท เป็นต้น

[อ่าน 1,037]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มพูลผล มอบเงินสนับสนุน และน้ำมันพืชตรากุ๊ก วุ้นเส้นต้นสน ให้กับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และเหล่าทหารกล้า
กทพ. ปิดเบี่ยงทางลงดินแดงตลอด 24 ชม. ยาวถึงปี 2572 เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม – ยังสัญจรได้ 3 ช่องจราจร
16 ปีแห่งความภาคภูมิใจ GSK คว้ารางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2025 ต่อเนื่อง
NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กสทช. เปิดบริการ “สายด่วน 1818”
ยูโอบี ประเทศไทย เสริมเกราะป้องกันทางการเงิน จัดสัมมนาให้ความรู้ รับมือมิจฉาชีพในยุคภัยหลอกลวงระบาด
SAM ชูไฮไลท์ที่อยู่อาศัยทำเลทอง ราคาดี เปิดประมูลครั้งที่ 21 มูลค่ารวมกว่า 157 ลบ.
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved