สิงห์ เอสเตท เตรียมออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.00 – 5.10%
20 Jun 2023

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” ได้ยื่นคำขออนุญาตและแบบแสดงรายการข้อมูลตราสารหนี้ (filing) เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยเป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 5.00 – 5.10% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน

 

สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ที่ระดับ “BBB” ซึ่งเป็นกลุ่ม “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนผลการดำเนินงานในธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ตลอดจนแผนการขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ รวมถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้ง ที่มองว่าภาระหนี้สินของบริษัทฯ จะยังคงอยู่ในทิศทางที่ลดลงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ อันดับความน่าเชื่อถือยังสะท้อนถึงคุณภาพที่ดีของสินทรัพย์โรงแรมของบริษัทฯ ตลอดจนแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่ได้รับการยอมรับอย่างดี มีผลการดำเนินงานตามแผน และรายได้ประจำจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์อีกด้วย

 

 

ฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า

 


“มั่นใจว่าหุ้นกู้ของบริษัทฯ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นในแบรนด์ “สิงห์ เอสเตท” ทั้งจากความแข็งแกร่งของธุรกิจในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่มีความเข้มแข็งทั้งโครงสร้างธุรกิจ ฐานะการเงิน และการดำเนินการภายใต้หลักบรรษัทภิบาลที่มีเป้าหมายในการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยเฉพาะในปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทฯ ประกาศขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มกำลังด้วยกลยุทธ์ “S EXCELS” มุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุกมิติ เพื่อผลการดำเนินงานที่เป็นเลิศและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดันเป้าหมายรายได้และกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time High)”


 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุม

  • ธุรกิจโรงแรมภายใต้การบริหารงานของ “เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” (SHR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นอย่างชัดเจนในปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน SHR เป็นเจ้าของโรงแรมทั้งสิ้นจำนวน 38 แห่ง ห้องพัก 4,552 ห้อง ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญกระจายอยู่ใน 3 ภูมิภาค 5 ประเทศ
  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย บริษัทฯ มีนโยบายในการพัฒนาทั้งแนวสูงและแนวราบหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ
  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้แก่ ศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานให้เช่า ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึง
  • ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน

 

 

สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนปกติ 126 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2565 ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจโรงแรมขยายตัวได้ดีจากการเปิดประเทศทั่วโลก สร้างรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 2,544 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีทิศทางฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ธุรกิจที่อยู่อาศัยในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบอีก 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมกับเดินหน้าทำตลาดคอนโดมิเนียมที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่ม Ready-to-move-in สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน ก็ยังมีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้ทั้งปีไว้ที่ 16,700 ล้านบาท

“สิงห์ เอสเตท มุ่งมั่นขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิสัยทัศน์สร้างความหลากหลายที่สมดุล เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน (Sustainable Diversity) ด้วยพันธะสัญญาในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศให้แก่ลูกค้า สร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และสร้างความสมดุลในการดำเนินธุรกิจ พร้อมอนุรักษ์ความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

และในปี 2566 นี้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ล่าสุดได้รับรางวัล Most Admired Company ในสาขาความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเราเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ อย่างแน่นอน” ฐิติมา กล่าวเสริม

 

ทั้งนี้ หุ้นกู้ สิงห์ เอสเตท คาดว่าจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนในระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2566 ผ่าน 4 สถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ ได้แก่

  • ธนาคารกรุงเทพ โทร.1333
  • ธนาคารกรุงไทย โทร. 02-111-1111
  • ธนาคารกสิกรไทย (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร 02-888-8888 กด 819
  • บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร โทร. 02-165-5555 หรือ Application DIME

ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้  สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวน ได้ที่ www.sec.or.th

[อ่าน 3,869]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลาซาด้าเปิดศึก 9.9 ลดอลังปังทุกแบรนด์ ดึงกระแสโซเชียล “ช้อปยังไงก็ไม่รู้สึกผิด”
เอเซอร์ เปิดตัวแล็ปท็อป TravelMate X14 AI พร้อมโปรเจ็กเตอร์รักษ์โลก Vero
แฟชั่นนิสต้าห้ามพลาด! เซ็นทรัลพัฒนา จับมือ บัตรเครดิต ttb เสิร์ฟแคมเปญ “ช้อปตัวแม่”
New Balance เปิดคอนเซ็ปต์สโตร์ใหญ่สุดในไทยที่ CENTRAL PARK ประเดิมขายรุ่น 1906L สีใหม่ 10 ก.ย. นี้
Lee ปลุกตำนานยีนส์ ดึง Zhang Linghe นั่ง Brand Ambassador APAC
มาสเตอร์การ์ด–Beam เปิดตัว “Beam Bolt” พลิกโฉม SME ไทยสู่ดิจิทัลเพย์เมนต์
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved