แพลตฟอร์มโซเซียล มีเดียจากค่าย ByteDance มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคน
สำหรับในประเทศไทย พบว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมามียอดผู้ใช้งาน TikTok ต่อเดือนสูงถึง 44.8 ล้านคน แบ่งเป็นเพศหญิง 60% และเพศชาย 40%
โดยกว่า 50% อยู่ในช่วงอายุ 18-34 ปีที่เหลืออยู่ในช่วงอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านอกจากตลาดที่มีขนาดใหญ่แล้ว กลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่และผู้สูงอายุมีสัดส่วนไม่ต่างกันมากทำให้ความต้องการสินค้าไม่จำกัดแค่ช่วงอายุใด อายุหนึ่ง
แม้ TikTok จะเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มของยอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่าไม่ค่อยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มนี้สักเท่าไหร่
เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลายรายยังไม่เปิดใจและไม่เข้าใจในแพลตฟอร์ม TikTok อย่างแท้จริง และอาจจะยังคุ้นชินกับการทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มเดิมๆ เป็นเหตุให้เสียโอกาสในการสร้างยอดขายและแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ซึ่งนั่นอาจส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจในอนาคตที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นเอสเอ็มอีต้องไม่รีรอที่จะใช้ TikTok เป็นเครื่องมือการตลาดหลัก ด้วยแนวทางที่มีประสิทธิภาพตามคำแนะนำของ ซีพีออลล์ และ เซเว่น อีเลฟเว่น ดังนี้
1. เดินหน้าลุยวิดีโอสั้น
TikTok เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นๆ ที่ใช้งานง่าย มีลูกเล่นน่าสนใจ มีอินเตอร์เฟสที่สามารถโต้ตอบกันได้ ตอบโจทย์พฤติกรรมคนในปัจจุบันที่ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็มักจะให้ความสนใจกับวิดีโอสั้นๆ มากกว่าวิดีโอยาวๆ
ดังนั้น เอสเอ็มอีต้องรู้จักทำวิดีโอที่ไม่เหมือนใคร ให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยใช้สติ๊กเกอร์ ฟิลเตอร์และดนตรีซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มนี้อยู่แล้ว เพื่อเพิ่มสีสันให้กับวิดีโอ
ผ่านเครื่องมือการตัดต่อที่ใช้งานสะดวกของแอปพลิเคชัน ที่สำคัญต้องเน้นเนื้อหาเข้าใจง่าย และมี Wow factor อย่างแท้จริง
2. เกาะกระแสให้ทันท่วงที เพื่อเพิ่มโอกาสการมองเห็น
Tiktok เป็นแพลตฟอร์มที่เอื้อต่อการเกิด User-Generated Content (UGC) หรือคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคสร้างขึ้นเอง เนื่องจากระบบอัลกอริทึมและ AI ของ Tiktok นั้น เอื้อให้คอนเทนต์ของคนทั่วไปที่ไม่ได้มีผู้ติดตามจำนวนมาก สามารถดังหรือกลายเป็นกระสขึ้นมาได้
หากเอสเอ็มอีขี่กระแสแคมเปญ ชาเลนจ์ หรือประเด็นที่กำลังไวรัลหรือฮอตฮิตอยู่ในขณะนั้น ด้วยการผลิตคอนเทนต์ที่แปลกใหม่และสร้างสรรค์ จะช่วยสร้างโอกาสเพิ่มการรับรู้ให้สินค้าหรือแบรนด์ของเอสเอ็มอีได้ นำไปสู่โอกาสการแจ้งเกิดและสร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำในอนาคต
3. พึ่ง Affiliate Marketing ใช้แขนขาคนอื่นในการเพิ่มยอด
นอกจากสร้างการรับรู้ด้วยคอนเทนท์ของตัวเอง Tiktok ยังมีระบบ Tiktok Affiliate เพื่อตอบโจทย์ Affiliate Marketing หรือการตลาดผ่านผู้ช่วยขายหรือตัวแทนขาย
โดยมีหลักการคือเอสเอ็มอีเลือกสินค้าที่ต้องการขาย จากนั้นเหล่าผู้ช่วยขายเหล่านี้จะช่วยกันสร้างคอนเทนท์วิดีโอ เพื่อโปรโมทสินค้าของเอสเอ็มอี พร้อมแปะลิงค์ หากมีการสั่งซื้อจากลิงค์ เอสเอ็มอีจึงจะเสียค่าคอมมิชชั่นให้แก่ผู้ช่วยขายเหล่านั้น
ด้วยวิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่รับประกันยอดขาย แถมยังได้คนมาช่วยสร้างสรรค์คอนเทนท์ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างแบรนด์ที่ใช้งบประมาณไม่สูง แต่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เหมาะกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ในปัจจุบันจะมีผู้ขายบนแพลตฟอร์ม TikTok เพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ และมีบางรายเข้ามาปักหลักอยู่ในแพลตฟอร์มนี้นานแล้วก็ตาม
แต่ด้วยระบบที่เอื้อต่อการเติบโตของผู้ใช้งานทุกคน รวมถึงผู้ใช้งาน “หน้าใหม่” จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหน้าใหม่จะลองหันทำมาทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มนี้
เพียงแค่เปิดใจรับและทำความเข้าใจกับรูปแบบของแพลตฟอร์ม โอกาสในการแจ้งเกิดบน TikTok ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
ลุย!