จากรายงานเรื่อง Global Wellness Tourism Market 2566-2570 โดย Research & Markets คาดการณ์ว่า ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพคาดว่าจะเติบโต 427.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี 2565-2570 ที่อัตราเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) 8.93% โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของความเจ็บป่วยทางจิต การเติบโตของการรับรู้เรื่องสุขภาพส่วนบุคคล รวมถึงความสนใจของผู้ประกอบการในการนำเสนอบริการเพื่อสุขภาวะและความเป็นอยู่ดีที่ดีของผู้บริโภค
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หมายถึงกิจกรรมการเดินทางที่ดำเนินการโดยบุคคลที่ต้องการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี และปรับปรุงสุขภาพร่างกาย จิตใจ หรือจิตวิญญาณ
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่มีกิจกรรม โปรแกรม และบริการที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพ การผ่อนคลาย และการพัฒนาตนเอง
สำหรับแนวโน้มในอนาคตของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่น่าจับตาและคาดว่าจะมีให้เห็นมากขึ้นจนชินตา ได้แก่
นักท่องเที่ยวต่างแสวงหาประสบการณ์แบบองค์รวมที่ผสานมิติด้านสุขภาพที่หลากหลายมากขึ้น เช่น สมรรถภาพทางกาย สุขภาพจิตที่ดี โภชนาการ และจิตวิญญาณ
แนวโน้มการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในอนาคตอาจเกี่ยวข้องกับโปรแกรมที่ครอบคลุมซึ่งกล่าวถึงประเด็นต่างๆ เหล่านี้ในลักษณะบูรณาการและเป็นส่วนตัว
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีแนวโน้มที่จะรวมเอาโซลูชันดิจิทัลเข้าด้วยกัน
ซึ่งอาจรวมถึงประสบการณ์เสมือนจริง อุปกรณ์สวมใส่สำหรับติดตามสุขภาพและสุขภาวะ แอปฯ สุขภาพส่วนบุคคล และการปรึกษาสุขภาพทางไกลกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
ในภาพรวมของอุตสาหกรรมนี้ มีการเน้นย้ำมากขึ้นเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและขยายไปถึงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วย
แนวโน้มในอนาคตอาจเกี่ยวข้องกับการพักผ่อนเพื่อสุขภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กิจกรรมจากธรรมชาติ และการให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในขณะที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีส่วนบุคคล
ด้วยความตระหนักที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและการจัดการความเครียดมากขึ้น
แนวโน้มในอนาคตอาจรวมถึงการฝึกสติ โปรแกรมทำสมาธิ จุดหมายที่เน้นการบำบัด และกิจกรรมที่มุ่งลดความเครียดและส่งเสริมการผ่อนคลาย
คาดว่าการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะรองรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น นักเดินทางคนเดียว ครอบครัว คู่รัก และผู้สูงอายุ
แนวโน้มในอนาคตอาจรวมถึงโปรแกรมพิเศษที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการและความชอบเฉพาะของกลุ่มประชากรเหล่านี้ โดยนำเสนอกิจกรรมและบริการที่ตอบสนองเป้าหมายด้านสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
นักท่องเที่ยวกำลังมองหาประสบการณ์สุขภาพที่เป็นส่วนตัว ปรับแต่งหรือเลือกสรรได้ตามความต้องการของตัวเอง
แนวโน้มในอนาคตอาจเกี่ยวข้องกับการใช้การวิเคราะห์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างโปรแกรมสุขภาพที่ปรับแต่งตามความต้องการ ตามข้อมูลสุขภาพ และตามผลลัพธ์ที่ต้องการ
Emlyn Brown รองประธานระดับโลกด้านความเป็นอยู่ที่ดีของ Accor ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมข้ามชาติที่มีที่พักมากกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก นิยามโรงแรมที่มุ่งเน้นสุขภาพว่า เป็นโรงแรมที่นำเสนอโปรแกรมที่ขับเคลื่อนด้วยผลลัพธ์โดยเจตนา ด้วยแนวทางที่แข็งแกร่งในองค์ประกอบต่างๆ เช่น โภชนาการและความเคลื่อนไหว (การออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ)
“เราค้นพบว่าแขก 4 ใน 5 คน จากทุกกลุ่มประชากร ทุกประเทศ ทุกแบรนด์โรงแรมของเรา กำลังดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีสติเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
โดยแขกที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของ Accor ใช้จ่ายมากขึ้น 55% ใช้จ่ายเงินในสถานที่ให้บริการเพื่อสุขภาพมากกว่านักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนทั่วไป และนี่คือการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เห็นได้ชัดเจนในยุคนี้และในอนาคต”
สำหรับประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เพิ่มเป้าหมายประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 เป็น 25 ล้านคน
ซึ่งมากกว่าสองเท่าของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 ในจำนวนนี้มีไม่น้อยคาดว่าจะเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
สืบเนื่องจากการจัดอันดับของ Slingo ที่ระบุว่า ประเทศไทยมีคะแนนการพักผ่อนเพื่อสุขภาพมาเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยคะแนนสูงถึง 9.5/10 เพราะเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับทุกคนที่ค้นหาสถานที่พักผ่อนเพื่อสุขภาพ
โดยเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งสปาของเอเชีย เป็นที่ตั้งของสถานที่พักผ่อนเพื่อการบำบัดและหรูหราที่สุดในโลก และมีรีวิวเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสุขภาพและรีสอร์ตที่ดีกว่าจุดหมายปลายทางอื่นๆ
ส่วน Top 10 อื่นๆ ได้แก่ 2.อินโดนีเซียและมัลดีฟส์ 3.เม็กซิโก 4.อินเดีย 5.กรีซ 6.คอสตาริกา 7.ศรีลังกา 8.โปรตุเกส 9.อียิปต์ 10.อิตาลี
โดยกรณีศึกษาที่น่าสนใจในประเทศไทยคือ BDMS Wellness Clinic Retreat หนึ่งในผู้ให้บริการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย เครือข่ายของ Bangkok Dusit Medical Services (BDMS) ที่นำเสนอแพ็คเกจตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมและรวมถึงการเข้าพักที่ Anantara Riverside Bangkok Resort
โดยศูนย์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่ทันสมัยนี้ให้บริการโปรแกรมสุขภาพ ความงาม และการตรวจวินิจฉัยที่หลากหลายจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญขั้นสูง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้รับบริการ ทำให้แขกบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้ง่ายขึ้น
แพ็คเกจตรวจสุขภาพประกอบด้วยการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ครอบคลุมประวัติทางการแพทย์ ปัจจัยเสี่ยง อาหาร พฤติกรรมการออกกำลังกาย คุณภาพการนอนหลับ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ผู้ป่วยต้องการ
ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 28,900 บาท ไปจนถึง 200,000 บาทสำหรับแขกผู้ชาย และ 210,000 บาทสำหรับแขกผู้หญิง
แพ็คเกจตรวจสุขภาพประกอบด้วยห้องพัก อาหารเช้าเพื่อสุขภาพทุกวันแนะนำโดยนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญ คำปรึกษาด้านโภชนาการสำหรับทุกมื้อ การตรวจสุขภาพที่ครอบคลุมการทำงานของฮอร์โมน หัวใจ น้ำตาล ตับและไต
รวมถึงสามารถเลือกตรวจสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อขจัดข้อกังวลด้านสุขภาพต่างๆ โดยเฉพาะการตรวจที่ไม่มีอาการชัดเจน รวมถึงการตรวจคัดกรองขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ของการมีอายุยืนยาว เช่น เช่นการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมอย่างครอบคลุม การตรวจวัดความยาวของเทโลเมียร์ (การตรวจลึกถึงระดับเซลล์และโครโมโซม โดยเป็นการตรวจวัดความยาวของดีเอ็นเอส่วนปลายสุดของโครโมโซม ซึ่งสามารถใช้บ่งชี้อายุของเซลล์ตามชีวภาพและบอกภาวะเสื่อมของเซลล์ที่เกิดขึ้นก่อนวัย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคในอนาคต) การวินิจฉัยและการรักษาการทำงานของเซลล์ NK (เซลล์เพชรฆาตที่จะคอยทำลายและกำจัดเชื้อร้ายทุกรูปแบบซึ่งอาจเข้ามาทำอันตรายหรือก่อโรคกับร่างกายเราให้หมดไป โดยไม่ต้องรอให้ระบบต่างๆ ในร่างกายคอยสั่งการก่อน) และการตรวจคัดกรองมะเร็ง
อีกหนึ่งแห่งที่มีชื่อเสียงด้านนี้ คือ RAKxa Wellness ที่คุ้งบางกระเจ้า มีโปรแกรมเด่นคือ Medical gym ศูนย์ออกกำลังกายเชิงการแพทย์ของรักษ ใช้เทคโนโลยีและแนวทางการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล
โดยนำหลักวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวมาออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายแบบองค์รวม เพื่อให้แขกสามารถนำกลับไปฝึกเป็นกิจวัตรประจำวันได้อย่างเหมาะสม
บทความจากนิตยสาร MarketPlus Magazine Issue 158 June-July 2023